ที่มา : เดลินิวส์

แฟ้มภาพ

ผวาเชื้อมรณะลามเข้าไทย "อธิบดีกรมปศุสัตว์" ระบุตรวจพบไส้กรอกปนเปื้อนสารพันธุกรรม "โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร" จากนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่สนามบินแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย แฉกำลังระบาดหนักใน 16 ประเทศ ทั้งยุโรป แอฟริกา และเอเชีย

สั่งปศุสัตว์ทุกพื้นที่วางมาตรการคุมเข้ม แถมสั่งชะลอการนำเข้าผลิตภัณฑ์ที่ทำจากสุกรจากจีน 90 วัน ป้องกันการแพร่ระบาด เตรียมยกระดับปัญหาเป็นวาระแห่งชาติ วอนเกษตรกร-เจ้าของฟาร์ม หากพบสุกรป่วยตายผิดปกติให้รีบแจ้งจนท. เผยแม้เชื้อร้ายไม่ติดต่อสู่คน แต่ก่อความเสียหายร้ายแรงต่อเศรษฐกิจไทย

นสพ.สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ แถลงข่าวกรณีมีการตรวจพบสารพันธุกรรมของโรค อหิวาต์แอฟริกา ในผลิตภัณฑ์อาหารที่นัก ท่องเที่ยวได้นำเข้ามาที่บริเวณด่านกักกันสัตว์ ท่าอากาศยานนานาชาติแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย พร้อมกับให้ความรู้ การวางมาตรการจัดการซักซ้อมแผนให้กับเจ้าหน้าที่ในเขตจังหวัดภาคเหนือเพื่อเฝ้าระวัง และเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น

นสพ.สรวิศ กล่าวว่า วันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์ ท่าอากาศยานนานาชาติแม่ฟ้าหลวง ได้ตรวจยึดไส้กรอกน้ำหนักประมาณ 800 กรัม จากนักท่องเที่ยว ชาวจีนที่เดินทางจากเมืองเฉินตู สาธารณรัฐประชาชนจีน และนำไปตรวจสอบที่สถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ กรมปศุสัตว์ พบว่ามีการปนเปื้อนสารพันธุกรรมของเชื้อโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร ซึ่งกำลังระบาดอยู่ใน 16 ประเทศ ทั้งในทวีปยุโรป แอฟริกา และเอเชีย โดยการตรวจพบในประเทศไทยนั้นถือเป็นประเทศที่ 3 ในภูมิภาคเอเชีย ต่อจากเกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ซึ่งหลังจากมีการตรวจพบ กรมปศุสัตว์ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้ตรวจสอบไปยังฟาร์มเลี้ยงสุกรต่าง ๆ ทั่วประเทศ แต่ก็ไม่พบว่ามีการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว

"กรมปศุสัตว์ได้วางมาตรการรับมือโรคอหิวาต์แอฟริกา โดยจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและเตรียมความพร้อมเผชิญเหตุโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรขึ้น และดำเนินการป้องกันการนำเข้าสินค้าที่ปนเปื้อนโรคจากต่างประเทศ โดยเฝ้าระวังสถานการณ์การระบาดของโรคอย่างใกล้ชิด เข้มงวดตรวจสอบการเคลื่อนย้ายสุกรตามชายแดนระหว่างประเทศ รวมทั้งจัดทำป้ายประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนนักท่องเที่ยวที่ท่าอากาศยานระหว่างประเทศ และภายในประเทศ ไม่ให้นำผลิตภัณฑ์ที่ทำจากสุกรเข้าประเทศก่อนได้รับอนุญาต นอกจากนี้ ยังได้ชะลอการเคลื่อนย้ายสุกรที่มีชีวิต และผลิตภัณฑ์สุกรจากประเทศจีนเป็นระยะเวลา 90 วัน เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคด้วย" นสพ.สรวิศ กล่าว

อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวด้วยว่า อยากขอความร่วมมือเกษตรกรให้ยกระดับการเลี้ยงสุกรให้มีระบบการป้องกันโรคที่ดี ตรวจสอบแหล่งที่มาของสุกรก่อนเข้าฟาร์ม ร่วมกับการจัดการด้านระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ ไม่นำเศษอาหารมาเลี้ยงสุกรโดยเด็ดขาด หรือควรต้มให้สุกก่อน ซึ่งจะช่วยป้องกันการนำโรคเข้าสู่ฟาร์มได้ นอกจากนี้ ให้สังเกตอาการสุกรอย่างใกล้ชิด หากพบสุกรแสดงอาการป่วย เช่น มีไข้สูง เบื่ออาหาร ผิวหนังเป็นปื้นแดง และต่อมาเป็นสีเขียวคล้ำ พบภาวะแท้งในแม่สุกรและมีจำนวนสุกรตายผิดปกติ ขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ในพื้นที่ นอกจากนี้ ยังได้เตรียมการผลักดันยกระดับปัญหาแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวให้เป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งแม้ว่าโรคนี้จะไม่แพร่จากสัตว์สู่คนก็ตาม แต่หากตรวจพบการแพร่ระบาด ก็จะส่งผลเสียต่อผู้เลี้ยงสุกร และอุตสาหกรรมการแปรรูปอาหารต่าง ๆ ทำให้ไม่สามารถส่งออกผลิตภัณฑ์ได้ ซึ่งจะส่งผลทำให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล