อย่าปล่อยให้ร่างกายเป็นไปตามยถากรรม

          ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ใครจะลดความอ้วนให้ได้น้ำหนักตามที่ต้องการ บางคนเลือกที่จะออกกำลังกายเพียงอย่างเดียว จะลดน้ำหนักได้แค่ 1% หรือคุมอาหารจะลดได้ 9% คุมอาหาร ควบคู่กับออกกำลังจะได้ถึง 90% ขณะที่บางคนเลือกแนวทางที่ผิดมหันต์ด้วยการกินยาลดความอ้วน ซึ่งจะมีอันตรายตามมามากมาย อย่างไรก็ตาม การลดน้ำหนักก็ไม่ได้ยากเกินที่คนไทย 17 ล้านคน ที่มีภาวะอ้วนจะทำได้สำเร็จ ขอเพียงเริ่มต้นด้วยใจที่ ฮึด!!!


/data/content/25359/cms/e_ahmprstuvw18.jpg


          ข้อความดังกล่าวข้างต้น "ปานมณี" อ่านแล้ว แล้วก็กลับไปอ่านอีก รวมทั้งสิ้นสามครั้ง ก็เพราะเนื้อถ้อยกระบวนความที่เขาบอกให้เรารับรู้นั้น มันสร้างแรงบันดาลใจให้กับ ปานมณีมีกำลังใจที่จะฮึด เพื่อรีดไขมันส่วนเกินให้มันออกมาจาก ตัวซะบ้าง ขอบพระคุณอย่างสูงนะคะ ทูนหัวของบ่าว ที่ช่วยเป็น กำลังใจให้บ่าวฮึดสู้!!


          เพื่อให้เกิดความมั่นใจมากยิ่งขึ้น อยากให้ฟังเสียงของอาจารย์สง่า ดามาพงษ์  ผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านอาหารและโภชนาการ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ท่านกล่าวไว้ว่า ใน รอบ 10 ปีนี้ คนไทยอ้วนเพิ่มขึ้น 3 เท่า จึงจำเป็นที่จะต้องลดน้ำหนัก จากการติดตามข้อมูล พบว่าเด็กที่อ้วนจะโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่อ้วน 30% วัยรุ่นอ้วนจะกลายเป็นผู้ใหญ่อ้วน 80% และมีความเสี่ยงที่จะป่วยเป็นโรค ต่างๆ เช่น เบาหวาน ซึ่งการอ้วนเป็นผลจากพันธุกรรมเพียง 10% อีก 90% เกิดจากพฤติกรรม ทั้งนี้ สิ่งสำคัญในการลดน้ำหนัก จะอยู่ที่ใจและแรงบันดาลใจที่/data/content/25359/cms/e_efghjmprv459.jpgต้องการอยากจะลดต้องมาก่อนเป็นอันดับแรก


          การลดน้ำหนักที่ได้ผลและยั่งยืนควรยึดหลัก 3 อ. ได้แก่ "อารมณ์" มีแรงบันดาลใจที่จะลด รวมถึงรู้จัก สกัด สะกด สะกิดใจตนเองในเรื่องต่างๆ ด้วย "อาหาร" อย่าหักดิบ ด้วยการไม่รับประทานอาหารประเภทแป้งเลย ให้รับประทานให้เหมาะสมกับวิถีชีวิต แต่เลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น และ "ออกกำลังกาย" หากต้องการหวังผลเพื่อสุขภาพใช้เวลาครึ่งชั่วโมงต่อครั้ง อย่างน้อย 3-4 วันต่อ สัปดาห์ แต่ถ้าต้องการลดน้ำหนักควรออกครั้งละ 1 ชั่วโมง 5-6 วันต่อสัปดาห์


          โอปอล์-ปาณิสรา อารยะสกุล พิธีกร/นักแสดง ที่สามารถลดน้ำหนักจาก 70 กิโลกรัม เหลือ 49 กิโลกรัม และ น้ำหนักคงที่มาแล้วเป็นเวลา 3 ปี และ เน็ต-กฤดิพงศ์ บุณฑริกผู้ที่เคยมีน้ำหนักมากสุดถึง 145 กิโลกรัม เป็น 2 บุคคลตัวอย่าง ที่มีแรงบันดาลใจในการลดและลดได้สำเร็จตามแนวทางที่ถูกต้อง


          โอปอล์ บอกว่า แรงบันดาลใจสำคัญที่ทำให้ตัดสินใจ ลดน้ำหนัก เพราะไม่สามารถใส่เสื้อผ้าที่ทีมงานเตรียมไว้ให้ เมื่อไปทำงานเกิดความรู้สึกว่าตัวตนของเรากำลังบั่นทอนอาชีพที่เรารัก บวกกับเริ่มมีปัญหาสุขภาพ เดินนิดหน่อยแล้วเหนื่อย ปวดข้อเข่า จึงตัดสินใจลด วิธีการสำคัญที่ทำให้ประสบความสำเร็จ ในการลดน้ำหนัก คือ การคุมอาหารที่รับประทาน เลี่ยงอาหาร มันและทอด ควบคู่กับการออกกำลังกาย จนตอนนี้กลายเป็นคนหนึ่งที่เสพติดการออกกำลังกาย


     /data/content/25359/cms/e_elnpqrtvw467.jpg     เช่นเดียวกับ เน็ต เล่าว่า ตัดสินใจลดน้ำหนักจากการที่พ่อแม่พาไปตรวจสุขภาพแล้วพบว่าความดันสูง ไขมัน น้ำตาลและกรดยูริกเกินค่ามาตรฐาน ซึ่งมีแนวโน้มจะป่วยเป็นหลายโรค จึงเกิดความคิดว่าตนอายุเพียง 23 ปี ทำไมถึงเป็น หลายโรค เริ่มลดด้วยการออกกำลังกายโดยเข้าฟิตเนสเพื่อให้ เจ้าหน้าที่แนะนำแนวทางที่ถูกต้อง เมื่อน้ำหนักเริ่มลดลงจึงเลือกการปั่นจักรยานเป็นหลัก ส่วนอาหารยังรับประทานครบ 3 มื้อ เป็นปกติ แต่เลือกอาหารที่กิน ไม่หวาน มัน เค็ม เปลี่ยนจากประเภททอดเป็นนึ่งหรือต้ม ทำให้ในช่วงเวลา 6 เดือน ลดได้ 60 กิโลกรัม


          แต่หากใครยังไม่มีแรงบันดาลใจที่จะลดความอ้วน เชื่อว่าหากได้เข้าชมนิทรรศการลดพุง ลดโรค ที่จัดขึ้น ณ โซนนิทรรศการหมุนเวียน ชั้น 2 อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สสส.ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2557 ทุกวันอังคาร-เสาร์ เวลา 10.00-17.00 น. จะช่วยให้เกิดแรงฮึดที่จะลดน้ำหนักได้อย่างแน่นอน โดยนิทรรศการดังกล่าวจะแบ่งเป็น 3 โซน


          โซนแรก FAT Check Station  บอกถึงวิธีการเช็ค ตนเองอย่างง่ายว่ามีภาวะอ้วนลงพุงหรือไม่ ด้วยการชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง และวัดรอบเอว สำรวจพฤติกรรมการกินในชีวิตประจำวันทั้งปริมาณน้ำตาล ไขมัน โซเดียมและพลังงานที่ควรได้รับในแต่ละวัน และเรียนรู้การอ่านฉลากโภชนาการ


          โซน 2 You are What You Eat  เป็นพื้นที่ที่ทำให้ รู้ถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับร่างกายจากพฤติกรรมการกิน/data/content/25359/cms/e_acdilqu23479.jpgที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ภายใต้ชื่อ ทัวร์อวัยวะ โดยจำลองนิทรรศการให้เป็นอวัยวะของคนเราทั้งหัวใจ ตับ ไต และแสดงให้เห็นว่าหาก รับประทานอาหารแต่ละประเภทจะเกิดผลต่อร่างกายอย่างไร เช่น ความเค็ม ทำให้ร่างกายระบายน้ำออกได้ช้าลง และน้ำไปกีดขวาง การเดินทางของเลือด จนกลายเป็นสาเหตุของโรคความดัน โลหิตสูง เป็นต้น


          และโซน 3 Fit Fight Fat  แนะนำทางรอดจากโรคอ้วน ลงพุงด้วยหลัก 3 อ. รวมถึงการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ลดหวาน มัน เค็ม และกินถูกส่วน เพิ่มผักและผลไม้ และ รูปแบบการออกกำลังกายที่หลากหลาย เช่น การปั่นจักรยาน


          น้ำหนักเป็นสิ่งที่ลดได้ และความอ้วนเป็นสิ่งที่เลือกได้ คุณจะปล่อยให้มันเป็นไปตามยถากรรมทำไม???


 


 


          ที่มา: หนังสือพิมพ์แนวหน้า

Shares:
QR Code :
QR Code