อยู่บ้าน หยุดเชื้อ ช่วยชาติ

ที่มา : เดลินิวส์


อยู่บ้าน หยุดเชื้อ ช่วยชาติ thaihealth


แฟ้มภาพ


ประเทศไทยกำลังเดินอยู่บนทาง 2 แพร่งในการต่อสู้ทำสงครามสกัดกั้นการแพร่ระบาดเชื้อไวรัส "โควิด-19" เนื่องเพราะสถิติตัวเลขของผู้ติดเชื้อทะลุหลักร้อย และมีแนวโน้มจะเขยิบสูงขึ้นเรื่อย ๆ


โดยทางแรก แม้จะมีผู้ป่วยมากแต่ก็ควบคุมได้ เช่น ไต้หวัน ญี่ปุ่น เกาหลี ส่วนทางที่สอง ผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจนทะลุหลักหมื่นอย่างรวดเร็ว มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก อย่างในทวีปยุโรป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความร่วมมือของประชาชนทุกคนว่า จะร่วมมือ ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของภาครัฐอย่างมีวินัยโดยเคร่งครัดมากน้อยเพียงใด หากไม่หยุดอยู่กับบ้าน ไม่รักษาระยะห่างทางสังคม 1-2 เมตร แล้วยังอยู่รวมเป็นกลุ่ม ก็ไม่สามารถหยุดการกระจายเชื้อ เพราะโรคติดต่อจะไม่ติดต่อ ถ้าคนไม่ติดต่อกัน


กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ปัจจุบันมีเตียงสำหรับรองรับผู้ป่วยอาการไม่มากประมาณ 1 หมื่นเตียงทั่วประเทศ ห้องไอซียูสำหรับผู้ป่วยหนัก 2-3 พันเตียง ถือว่ามีความพร้อมในการรับผู้ป่วยยามปกติ แต่หากผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็วก็จะเกิดปัญหาเตียงไม่พอกับผู้ป่วย และต้องไม่ลืมว่าจำนวนเตียงนี้ยังรวมถึงผู้ป่วยด้วยโรคอื่น ๆ ที่จำเป็นต้องใช้อีกด้วย ดังนั้นเราจึงได้เห็นการ เตรียมความพร้อมใช้โรงแรม สถานศึกษา และค่ายทหารบางแห่ง จัดทำเป็นสถานที่รองรับผู้ป่วยหรือกักตัวผู้ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อ หรือใช้เป็นที่พักของแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์เป็นการชั่วคราว


แม้ว่ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะมอบอำนาจให้แต่ละจังหวัดตัดสินใจใช้มาตรการควบคุม สกัดกั้น การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ด้วยการออกระเบียบและแผนบริหารจัดการได้เอง โดยคำนึงถึงประโยชน์และสุขภาพของประชาชนเป็นสำคัญ กระนั้น การให้ความร่วมมือของประชาชนแต่ละพื้นที่ก็มีแตกต่างกัน หลายคนยังห่วงเพื่อนห่วงฝูงมากกว่าห่วงตัวเองและคนในครอบครัว จึงมีเสียงเรียกร้องให้รัฐบาลประกาศใช้ "ไม้แข็ง" พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อยกระดับการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 เหมือนบางประเทศที่ใช้มาตรการคุมเข้มให้ทุกคนต้องอยู่บ้าน ยกเว้นมีเหตุจำเป็นจริง ๆ เท่านั้น


ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า เราเห็นด้วยกับ พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ที่ว่าแม้จะมีกฎหมายออกมาควบ คุมบังคับ ถ้าประชาชนไม่ร่วมมือปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข การแพร่ระบาด "โควิด-19" ก็มิอาจชะลอ ลดการระบาดได้ ประการสำคัญเมื่อใช้มาตรการเข้มข้นขั้นสูงสุด รัฐบาลต้องเตรียมความพร้อมรองรับผลกระทบที่เกิดขึ้น อย่าให้เหมือน "ล็อกดาวน์" พื้นที่เสี่ยงในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล แล้วกระทบจังหวัดอื่น ประชาชนหลั่งไหลกลับภูมิลำเนาเสี่ยงต่อการแพร่กระจายเชื้อมรณะอย่างยิ่ง.

Shares:
QR Code :
QR Code

ใส่ความเห็น

ระบุข้อความ