อนุรักษ์ ‘ผักพื้นบ้าน’ มากคุณค่า
สำนักพิพิธภัณฑ์และวัฒนธรรมการเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) เปิดอุทยานผักพื้นบ้านในวิถีไทย รวบรวมผักพื้นบ้านหายากกว่า 40 ชนิด เนื่องจากเป็นผักที่คุณค่าทางอาหารสูง แต่ปัจจุบันผักเหล่านี้เริ่มไม่เป็นที่รู้จักในคนรุ่นใหม่
ศ.ประเสริฐ ณ นคร ราชบัณฑิต เป็นประธานในพิธีเปิด “อุทยานผักพื้นบ้านในวิถีไทย” เนื่องในวาระครบรอบ 20 ปี แห่งการสถาปนาสำนักพิพิธภัณฑ์และวัฒนธรรมการเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) ซึ่งรวบรวมแปลงผักพื้นบ้านที่หายากไว้กว่า 40 ชนิด อาทิ ดีปลากั้ง เครือหมาน้อย แก้วเมืองจีน หรือกุ้ยโจว เป็นต้น
ทั้งนี้ นายยิ่งยง ไพสุขศานติวัฒนา ผู้เชี่ยวชาญด้านผักพื้นบ้าน กล่าวในการสัมมนาวิชาการ เรื่องผักพื้นบ้านที่คนไทยหลงลืม ว่าคนไทยส่วนใหญ่ใช้ผักพื้นบ้านเป็นส่วนผสมในตำรับอาหาร ที่นิยมบริโภคในภูมิภาคต่างๆ อาทิ ภาคเหนือ ผักคราดหัวแหวน ใช้ทำแกง แก้อาการปวดฟัน ผักเสี้ยว นิยมแกงใส่ปลาย่าง มีรสเปรี้ยว งานวิจัยจากญี่ปุ่นระบุว่า มีสรรพคุณช่วยรักษาโรคเบาหวาน ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อาทิ ผักแขยง ผักหวาน ขณะที่ภาคกลางและภาคตะวันออก อาทิ ตับเต่า บอนจีนหรือตาละปัดฤๅษี ผักน้ำ ชะมวง สำหรับภาคใต้ แกงส่วนใหญ่มักมีสีเหลืองจากขมิ้น ซึ่งช่วยเรื่องการอักเสบในทางเดินอาหาร นิยมกินขนมจีนกับยอดมันปู ซึ่งมีรสฝาด มัน เป็นยาสมานแก้อาการอักเสบ และยังมีนิยมกินผักเหลียงและสะตอ เป็นต้น
นายยิ่งยงกล่าวว่า ผักพื้นบ้านมีประโยชน์มาก โดยให้พลังงานต่ำ เหมาะสำหรับผู้ต้องการลดน้ำหนัก หรือหลีกเลี่ยงโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ได้แก่ ตลิงปลิง บวบหอม ยอดฟักทอง ผักกูดเขียว ผักที่ให้โปรตีนสูง เหมาะกับเด็กวัยเจริญเติบโตและผู้ป่วยระยะพักฟื้น ได้แก่ ยอดกระถิน ยอดแค ยอดชะอม ลูกเหรียง ใบขี้เหล็ก ยอดมะระ ยอดชะอม ผักที่มีใยอาหารสูง ช่วยการขับถ่าย อาทิ แมงลัก พริกไทยอ่อน มะเขือพวง ใบทองหลาง ใบยอ พริกขี้หนูเม็ดเล็ก ใบชะพลู ผักที่มีธาตุเหล็กสูง อาทิ ผักแว่น ผักกระเฉด ดอกโสน เป็นต้น
“แต่ไม่ควรกินชนิดเดียวในปริมาณมากๆ ต้องให้หลากหลายเพื่อให้ได้คุณค่าทางอาหาร แต่สิ่งที่ต้องตระหนักก็คือ ผักพื้นบ้านเริ่มไม่เป็นที่รู้จักในคนรุ่นใหม่ ที่กินกันอยู่ทุกวันนี้กว่าครึ่งต้องนำเข้าเมล็ดพันธุ์จากต่างประเทศ ดังนั้น นักโภชนาการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงควรพัฒนาให้เป็นอาหารที่ถูกปากแก่คนรุ่นใหม่ นอกจากนี้ ควรหันมาปลูกผักพื้นบ้านไว้กินเอง เพราะประหยัดค่าใช้จ่าย ปลอดสารพิษ และช่วยให้สุขภาพดีขึ้น” นายยิ่งยงกล่าว
ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน