ห่างไกลโรคNCD ด้วยหลัก 3 อ 2 ส
ที่มา: หนังสือพิมพ์แนวหน้า
แฟ้มภาพ
กระทรวงสาธารณสุข จัดมหกรรมสุขภาพโรคไม่ติดต่อ (NCD Forum 2017) ประชุมวิชาการเพื่อการป้องกันควบคุมโรคไม่ติดต่อ โดยระดมผู้เชี่ยวชาญและบุคลากร ด้านการแพทย์และสาธารณสุขในการป้องกันปัญหาโรคไม่ติดต่อในระดับชาติ ภายใต้แนวคิด "ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์บูรณาการโรคไม่ติดต่อยุคไทยแลนด์ 4.0" หลังพบว่า ประเทศไทยมีอัตราการเสียชีวิตของประชากร 3 ใน 4 มีสาเหตุจากโรคไม่ติดต่อ
นายแพทย์ธวัช สุนทราจารย์ ผู้ช่วย รัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข พร้อม นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข, นายแพทย์ อัษฎางค์ รวยอาจิณ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข และผู้บริหารจากกรมควบคุมโรค ร่วมเปิด มหกรรมสุขภาพโรคไม่ติดต่อ (NCD Forum 2017) ซึ่งเป็นการประชุมวิชาการเพื่อการป้องกันควบคุมโรคไม่ติดต่อ โดยมีผู้เชี่ยวชาญและบุคลากรด้านการแพทย์และสาธารณสุข ในการป้องกันปัญหาโรคไม่ติดต่อในระดับชาติ และในปีนี้ใช้ชื่องาน "มหกรรมสุขภาพโรคไม่ติดต่อ (NCD Forum 2017)" ภายใต้แนวคิด "ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์บูรณาการโรคไม่ติดต่อยุคไทยแลนด์ 4.0"
นายแพทย์ธวัช กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยพบว่า อัตราการเสียชีวิตของประชากร 3 ใน 4 มีสาเหตุมาจากโรคไม่ติดต่อ เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งโรคดังกล่าว ไม่ได้มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อโรค แต่เป็นผลจากการมีพฤติกรรมการดำเนินชีวิตที่ไม่เหมาะสม เช่น ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ขาดการออกกำลังกาย ทานอาหารหวาน มัน เค็มมาก พักผ่อนน้อย และมีความเครียด ส่งผลให้ความดันเลือดสูง น้ำตาลในเลือดสูง ไขมันในเลือดสูงขึ้น น้ำหนักตัวเกิน จนกระทั่งอ้วน ส่งผลให้เกิดโรคไม่ติดต่อตามมา
สถานการณ์โรคไม่ติตต่อ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความชุกของโรคก็มี แนวโน้มเพิ่มขึ้น จากการสำรวจสุขภาพประชาชนไทย โดยการตรวจร่างกาย ครั้งที่ 4 พ.ศ. 2551 และ ครั้งที่ 5 พ.ศ. 2557 ตามลำดับ พบว่า ความชุกของเบาหวานเพิ่มขึ้นจาก 6.9 เป็น 8.9 และความชุกของความดันโลหิตสูงเพิ่มขึ้น จาก 21.4 เป็น 24.7 ตามลำดับ ทั้งนี้ การจัดการเพื่อลดการเกิดโรคไม่ติดต่อ ควรเริ่มด้วยการจัดให้มีระบบบริการสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพ เข้าถึงได้อย่าง เท่าเทียม และการผลักดันให้มีนโยบายสาธารณะ เพื่อจัดการลดปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรค ซึ่งนโยบายสาธารณะและยุทธศาสตร์เพื่อการจัดการปัญหาโรคไม่ติดต่อ คือยุทธศาสตร์โรคไม่ติดต่อและยุทธศาสตร์การลดการบริโภคเกลือ ตลอดจนการจัดการเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงจากพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ซึ่งต้องเป็นความร่วมมือของทุกภาคีเครือข่ายและประชาชนทุกภาคส่วน
นายแพทย์ธวัช กล่าวต่อไปว่า ในการดำเนินงานเพื่อจัดการกับโรคไม่ติดต่อ ดังกล่าว กระทรวงสาธรณสุข โดยกรมควบคุมโรค ในฐานะที่เป็นกรมวิชาการ มีบทบาทหน้าที่ในการนำวิชาการและเทคโนโลยีต่างๆ มาประยุกต์ใช้ในการควบคุมโรคไม่ติดต่อ ให้มีขีดความสามารถ มีโอกาสและได้รับความรู้เพิ่มขึ้น และกลับไปพัฒนาคุณภาพการให้บริการ เพื่อควบคุมป้องกันโรคไม่ติดต่ออย่างต่อเนื่อง ตลอดจนเป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของบุคลากรสาธารณสุขทั่วประเทศ
"โรคไม่ติดต่อน่ากลัวก็จริง แต่ทุกคน สามารถป้องกันได้ง่ายๆ ด้วยหลัก 3 อ 2 ส ดังนี้ อ ที่ 1 อาหาร ทานอาหารแต่พอดี งดทานอาหารหวาน มัน เค็ม ควรมีผักหรือผลไม้ในอาหารทุกมื้อ อ ที่ 2 คือ ออกกำลังกาย ควรออกกำลังกายสม่ำเสมอ วันละครึ่งชั่วโมง อย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 วัน อ ที่ 3 คือ อารมณ์ ทำจิตใจให้แจ่มใส พักผ่อนให้ เพียงพอ ส ที่ 1 คือ ไม่สูบบุหรี่ ซิการ์ ยามวน ยาเส้น และหลีกเลี่ยงควันบุหรี่ และ ส ที่ 2 คือ ลดการดื่มสุรา เบียร์ และเครื่องดื่มมึนเมา ที่สำคัญ ประชาชนควรตรวจเช็คสุขภาพอย่างน้อยปีละครั้ง โดยเฉพาะการเจาะเลือด ดูค่าน้ำตาล ค่าไขมัน การทำงานของตับและไต การวัดความดันโลหิต สิ่งที่ควรทำบ่อยๆ เพื่อประเมินสุขภาพ คือ การชั่งน้ำหนัก การวัดรอบเอว ว่าเพิ่มขึ้นหรือยัง ซึ่งการตรวจเช็คเหล่านี้ สามารถทำได้ด้วยตัวเองที่บ้าน เพียงมีเครื่องชั่งน้ำหนัก และตลับเมตร หรือสายวัดรอบเอว หรือหากไม่มี ก็สามารถไปรับบริการได้ที่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล หรือสถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้านท่านทุกแห่ง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422"