ที่มา : สำนักข่าวสร้างสุข

ภาพประกอบจาก สสส.

สสส.- ศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน-มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน-สมาคมนักข่าวฯ ถกปัญหาพนันกับสื่อใหม่ ชี้ช่องโหว่พนันออนไลน์ยุค 4.0 เด็กและเยาวชนเข้าถึงพนันออนไลน์เพิ่มขึ้น ยกการพนันเป็นปัจจัยเสี่ยงสุขภาพ สมาคมนักข่าวฯ เตรียมร่างแนวทางปฏิบัติ-ควบคุมสื่อ งดให้ข้อมูลเกี่ยวกับพนันอย่างจริงจัง

เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 65 ที่ผ่านมา ในการประชุมวิชาการศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน ปี 2565 “ก้าวย่าง บนทางเสี่ยง การพนันในโลกที่กำลังเปลี่ยนไป” จัดโดย ศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ จัดเวทีอภิปรายในหัวข้อ “อุตสาหกรรมบ่อนการพนัน หลังวิกฤตโควิด 19” ‘สื่อใหม่’ ตัวแปรเปลี่ยนโลกการพนัน ? และเวทีอภิปราย “รับมือการพนัน ในฐานะปัจจัยเสี่ยงสุขภาพ”

พญ.มธุรดา สุวรรณโพธิ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีธัญญา กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า มีเด็กและเยาวชนจำนวนมาก ที่เข้าสู่วงจรการพนัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพนันออนไลน์ ที่สามารถเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา ซึ่งเข้ามาในรูปแบบโฆษณาแฝง ล่อใจ ทำให้เกิดความไม่รู้เท่าทัน หลงผิด และถลำตัวติดพนัน ที่ผ่านกระทรวงสาธารณสุข ขับเคลื่อนทำงานปกป้องคุ้มครองเด็ก และบำบัดบุคคลที่ติดการพนันมาโดยตลอด การแก้ไขปัญหาในเรื่องของการพนัน ต้องคำนึงว่าทำอย่างไร ให้ผู้ที่ติดพนันมีแรงจูงใจ ที่จะทำการเลิกเล่นการพนันเอง และเลิกเล่นพนันได้อย่างถาวร ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุข ได้ทำการเปิด “คลินิกจิตเวชและยาเสพติด” ที่จะช่วยบำบัด ให้คำปรึกษากับผู้ที่ต้องการเลิกการพนัน ซึ่งการพนันก็จะอยู่ในรูปแบบของสิ่งเสพติดประเภทหนึ่งด้วย

ดร.ธาม เชื้อสถาปนศิริ สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ได้ศึกษารูปแบบของการพนัน พบว่า การพนันแบ่งเป็น 4 ยุค คือ 1. ยุค 1.0 คือ การพนันตามเทศกาล มีที่ตั้ง ในงานบุญ งานวัด เป็นต้น 2. ยุค 2.0 ที่เจ้าหน้าที่และรัฐ ประกาศเองว่า เล่นการพนันถูกกฎหมาย อาทิ สลากกินแบ่ง สลากกาชาด 3.ยุค 3.0 คือ การตลาดและมาร์เก็ตติ้ง ที่แฝงอยู่ในรายการทีวี ไปรษณีย์ชิงโชค การตัดหนังสือพิมพ์ทำนายผลการแข่งขันกีฬาต่าง ๆ และ 4. ยุค 4.0 คือ ยุคที่น่ากลัวที่สุด คือ การพนันในโลกออนไลน์ ที่สามารถเล่นที่ไหน เมื่อไรก็ได้ และผู้เล่นสามารถเลือกเล่นบ่อนที่ไหนก็ได้บนโลกใบนี้ ทำให้เกิดผู้นักพนันหน้าใหม่จำนวนมาก โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน ที่เข้าถึงเทคโนโลยีได้โดยง่าย และถ้าถามว่าควรมีบ่อนเสรีอีกหรือไม่ ก็คงจะช้าไป เพราะมีหรือไม่มีก็ไม่สามารถแก้ปัญหาการพนันได้ และต่อไปจะยิ่งไม่สามารถจินตนาการได้ เพราะสื่อเองก็ไม่ได้อยู่ในมือมนุษย์อีกแล้ว แต่อยู่ในโลกของ AI

นายมงคล บางประภา นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า สื่อสามารถสร้างทัศนคติร่วมในสังคม การที่สื่อเผยแพร่ข่าว เนื้อหา และข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับการพนัน จะทำให้เกิดอิทธิพลทางความคิดได้ โดยเฉพาะในยุคดิจิทัล ที่ข้อมูลข่าวสารเป็นไปด้วยความรวดเร็ว ในส่วนขององค์กรสื่อ ได้ตระหนักถึงปัญหานี้ ได้มีความพยายามในการสร้างจรรยาบรรณของการสื่อสารขึ้นมา ซึ่งกำลังมีการร่าง “แนวปฏิบัติสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ เรื่องการนำเสนอข่าวและภาพข่าว ความเชื่อไสยศาสตร์ ตัวเลขและสลากพนัน” เพราะในปัจจุบัน สื่อมีส่วนในการสนับสนุนให้คนสนใจการพนัน ให้เห็นเป็นเรื่องปกติธรรมดาของสังคม ทำให้สังคมเกิดความเคยชิน เกิดความรู้ไม่เท่าทันการพนันที่มาจากสื่อต่าง ๆ ดังนั้น จึงต้องมีการกำหนดมาตรการควบคุมสื่อ ในเรื่องของการเผยแพร่ข้อมูลอย่างเข้มข้น