หัวใจเต้นระริก ภาวะอันตรายที่ต้องเฝ้าระวัง
ที่มา : รายการพบหมอรามา ช่วง Meet The Expert “โรคหัวใจเต้นระริก” ภาวะอันตรายของผู้สูงวัย
แฟ้มภาพ
หัวใจเต้นระริก เป็นภาวะการเต้นของหัวใจที่ผิดปกติชนิดหนึ่ง และเป็นการเต้นผิดปกติของหัวใจที่พบบ่อยที่สุด มีโอกาสเกิดสูงขึ้นตามอายุ และสัมพันธ์กับโรคหัวใจชนิดอื่น ความรุนแรงของภาวะหัวใจเต้นระริกไม่ถึงกับทำให้เสียชีวิตทันที แต่นำมาซึ่งภาวะรุนแรง ได้แก่ อ่อนเพลียเรื้อรัง อัมพฤกษ์ อัมพาต และเสียชีวิตในภายหลังได้
อ. นพ.ธัชพงศ์ งามอุโฆษ สาขาวิชาโรคหัวใจ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ข้อมูลว่า หัวใจเต้นระริก เป็นภาวะหัวใจเต้นผิดปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งกับหัวใจห้องบนและหัวใจห้องล่าง หากเกิดขึ้นกับหัวใจห้องล่าง คนไข้จะเสียชีวิตทันทีหรือที่เรียกกันทั่วไปว่าไหลตาย แต่ถ้าหากเกิดกับหัวใจห้องบน จะส่งผลให้หัวใจเต้นเร็วมากและไม่สัมพันธ์กัน ทำให้หัวใจไม่มีการบีบตัว เกิดลิ่มเลือดตกตะกอนอยู่ที่หัวใจห้องบนตามมา จากนั้นลิ่มเลือดอาจไปอุดตันส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ หากไปอุดตันที่สมองจะทำให้เกิดอัมพาต โดยภาวะหัวใจเต้นระริกยังเป็นสาเหตุของอัมพาตประมาณ 1 ใน 3 ของผู้ป่วยอัมพาตทั้งหมด
สาเหตุของการเกิดภาวะหัวใจเต้นระริกมีหลายประการ แต่ปัจจัยที่ส่งผลมากที่สุดคืออายุ รองลงมาคือโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคปอด ตามลำดับ รวมถึงโรคอื่น ๆ อีกหลากหลายโรคด้วยกัน
ในคนไข้ที่มีอายุมาก ที่เกิดภาวะหัวใจเต้นระริกมักมาพบแพทย์ด้วยโรคอัมพฤกษ์อัมพาต จึงตรวจพบภายหลังว่ามีสาเหตุมาจากภาวะดังกล่าว เนื่องจากไม่มีอาการแสดงว่าเกิดภาวะหัวใจเต้นระริกให้เห็นก่อนหน้านี้ ขณะที่คนไข้อายุน้อย หากมีภาวะดังกล่าวจะมีอาการแสดง ซึ่งแสดงออกเป็น 2 ลักษณะ ได้แก่ ใจสั่นและเหนื่อยง่าย
ในคนไข้ที่มีความเสี่ยงควรตรวจดูชีพจรหรืออัตราการเต้นของหัวใจอย่างสม่ำเสมอ โดยการจับชีพจรหรือวัดอัตราการเต้นของหัวใจผ่านแอพพลิเคชั่น ฯลฯ โดยคนไข้ที่มีความเสี่ยงสูงคือผู้สูงอายุ โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป รวมถึงผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน เส้นเลือดหัวใจตีบ เป็นต้น หากพบอัตราการเต้นของหัวใจที่ผิดปกติควรรีบพบแพทย์ เพื่อเข้ารับการรักษาได้ทันท่วงที
การรักษาภาวะหัวใจเต้นระริกในผู้สูงอายุ มักเป็นการรักษาเพื่อป้องกันอัมพฤกษ์อัมพาต ขณะที่ผู้ป่วยอายุน้อยจะเป็นการรักษาเพื่อควบคุมไม่ให้หัวใจเต้นเร็วเกินไปหรือรักษาเพื่อให้อัตราการเต้นของหัวใจเป็นปกติ
การรักษาเพื่อป้องกันการเกิดอัมพฤกษ์อัมพาต คือให้ยาละลายลิ่มเลือดเพื่อชะลอการแข็งตัวของเลือด ซึ่งสามารถป้องกันการเกิดลิ่มเลือดได้ 90% ส่งผลให้การเกิดอัมพฤกษ์อัมพาตลดลง
การรักษาเพื่อควบคุมไม่ให้หัวใจเต้นเร็วเกินไปหรือรักษาเพื่อให้อัตราการเต้นของหัวใจเป็นปกติ ทำโดยการให้ยา การจี้หัวใจ และผ่าตัด แต่ส่วนมากแพทย์จะทำการตรวจหาสาเหตุก่อนว่าคนไข้มีโรคประจำตัวอื่นที่ทำให้เกิดภาวะหัวใจเต้นระริกหรือไม่ หากมีจะทำการรักษาที่โรคนั้น