“หวัด 2009″ยังไม่น่าไว้วางใจ แนวโน้มป่วยเพิ่ม-ตาย1ราย
ระบาดอีกรอบ ต้องระวังมากขึ้น
เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 หรือไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ว่า รอบสัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 จำนวน 1 ราย ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 185 ราย ที่สำคัญ มีรายงานตัวเลขการป่วยมีแนวโน้มขยับตัวเพิ่มขึ้นในพื้นที่ปริมณฑลและภาคกลาง จากที่ก่อนหน้านี้ลดระดับลงแล้ว เนื่องจากภาคกลางและปริมณฑลเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว สภาพแวดล้อมของพื้นที่มีการอยู่รวมกันอย่างแออัด และประชาชนเพิกเฉยต่อวิธีการในการป้องกันตนเอง การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ 2009 ในพื้นที่ภาคกลางและปริมณฑลในครั้งนี้ระบาดกลุ่มประชาชนทั่วไปแตกต่างจากครั้งก่อนหน้าเป็นการระบาดในกลุ่มนักเรียนที่ป้องกันการติดเชื้อและการแพร่ระบาดด้วยการกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือได้รวดเร็ว อย่างไรก็ตาม กลุ่มเสี่ยงที่จะติดเชื้อแล้วมีอาการรุนแรงยังเป็นกลุ่มผู้ที่มีโรคประจำตัวและหญิงตั้งครรภ์เช่นเดิม
“ผมได้กำชับแจ้งเตือนให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแต่ละพื้นที่เพิ่มมาตรการในการเฝ้าระวังผู้ป่วยมากขึ้นและให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมูบ้าน (อสม.) เร่งออกคัดกรองผู้ป่วยในพื้นที่รับผิดชอบ ส่วนจะถือว่าการกลับมาแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ 2009 ในพื้นที่ปริมณฑล และภาคกลางเพิ่มมากขึ้น เป็นการระบาดระลอก2ในพื้นที่นี้แล้วหรือไม่ อยู่ระหว่างการติดตามและประเมินสถานการณ์ว่ามีความรุนแรงมากน้อยแค่ไหน สำหรับไข้หวัดนก สธ.รอรายงานจากกรมปศุสัตว์หากได้รับรายงานว่าพบไข้หวัดนก กระบวนการด้านสาธารณสุขพร้อมดำเนินการทันที แต่ขณะนี้ยังไม่มีการพบไข้หวัดนกแต่อย่างใด” นายวิทยากล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงาน ในเวบไซต์ของสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้รายงานสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ในประเทศไทย ว่าการแพร่ระบาดในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลสถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจ และรอบสัปดาห์ที่ผ่านมามีรายงานการระบาดของเชื้อเป็นกลุ่มก้อนเกิดขึ้นในโรงเรียนระดับประถมถึงมัธยมศึกษาแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา พบผู้ป่วย 41 ราย เก็บตัวอย่างเชื้อส่งตรวจ 15 ราย พบเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 ทั้งสิ้น 13 ราย ทางจังหวัดได้ดำเนินการควบคุมโรค ด้วยการปิดโรงเรียนตั้งแต่วันที่ 14-22 พฤศจิกายน พร้อมทั้งทำลาบเชื้อบริเวณพื้นผิวต่างๆ
ด้าน นพ.วิชัย โชควิวัฒน ประธานคณะกรรมการบริหารองค์การเภสัชกรรม (บอร์ด อภ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการศึกษาวิจัยวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 หรือไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 ชนิดเชื้อเป็นว่า อภ.ดำเนินการผลิตวัคซีนนี้อย่างต่อเนื่องจนถึงล็อตที่ 20 แล้ว โดยเก็บรักษาด้วยการแช่แข็งไว้ที่อุณหภูมิ –20 องศาเซลเซียส ก่อนที่จะนำมาศึกษาการคงตัวของวัคซีน โดยจะต้องมีการศึกษาว่าเติมสารชนิดใดลงไปจึงจะสามารถทำให้วัคซีนคงตัวอยู่ได้ในอุณหภูมิ 2-5 องศาเซลเซียสหรือในอุณหภูมิตู้เย็น สำหรับการตรวจเชื้อที่อาจจะปนในวัคซีนซึ่งเกิดขึ้นได้ 3 ทาง คือ จากตัวไข่ ตัววัคซีนและบุคคลที่เข้าไปทำงาน พบว่าวัคซีนที่ผลิตได้ไม่มีการปนเปื้อนเชื้อ ขณะที่การทดลองในสัตว์ทดลองที่กระทำทั้งในหนูและหนูตะเภาจะทราบผลเบื้องต้นภายในวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้
ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน
Update: 19-11-52