หลากประสบการณ์ชีวิต เพื่อครอบครัวเข้มแข็ง (จบ)
พลิกชีวิตใช้ธรรมะหักดิบเลิกเหล้าเข้าพรรษา
ครอบครัวเป็นแหล่งผลิตทรัพยากรบุคคลออกสู่สังคม แต่บางครั้งครอบครัวก็ถูกสถานการณ์ต่างๆ พัดโหมกระหน่ำ สิ่งเดียวที่สามารถทำให้ยังอยู่ได้อย่างมั่นคงก็คือ “การเสริมสร้างครอบครัวเข้มแข้งในทุกช่วงวัยของสังคม” ไม่มานมานี้ โครงการครอบครัวเข้มแข็ง จ.ลำปาง ได้มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ให้กัน
พลิกชีวิตใช้ธรรมะหักดิบเลิกเหล้าเข้าพรรษา จากที่กินมานาน 30 กว่าปี
คุณสุนทร สายอรุณ หรือลุงแดง อายุ 52 ปี อาชีพเกษตรกร และรับจ้างทั่วไปเล่าประสบการณ์ว่าเดิมหลังจากทำงานเสร็จก็จะตั้งวงกับพรรคพวกเพื่อนฝูง บางครั้งข้ามวันข้ามคืน เลิกจากวงนี้ไปอีกวง ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเลี้ยงกันไปเรื่อย ๆ เงินทองที่ได้มาก็ใช้จ่ายไม่พอ เกิดการทะเลาะในครอบครัวจนถึงขนาดจะหย่าร้างเพราะลูกและภรรยาอีก 3 ชีวิตที่รอคอยอยู่ถูกทอดทิ้งให้หาอยู่กินตามลำพัง โดยที่ไม่ค่อยได้รับการเหลียวแลจากผู้เป็นพ่อเป็นเวลากว่า 30 ปี
กระทั่งปี 2547 มีคนกลุ่มหนึ่งที่ทำโครงการครอบครัวเข้มแข็งชวนให้ตนไปประชุมแทน ครั้งแรกก็ไม่เข้าใจิ แต่ต่อมาก็เห็นถึงความสำคัญและประโยชน์ของแนวคิด จึงเข้าร่วมเต็มตัว เรียนรู้ร่วมกับผู้อื่น และนำมาปรับใช้ในครอบครัว
“ใช้ธรรมะชำระจิตใจก่อน สวดมนต์ไหว้พระ ผมใช้โอกาสเลิกเหล้าเข้าพรรษาแบบหักดิบเลิกแล้วเลิกเลย ที่เขาบอกว่าเลิกกะทันหันจะมีอาการต่าง ๆ ตามมา ผมคิดว่าไม่จริง และมองว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับจิตใจ เพราะเพื่อน ๆ บางคนเลิกแล้วกลับมาดื่มเหมือนเดิม ทางครอบครัวญาติพี่น้อง คนรอบข้างเขาก็แปลกใจว่าทำได้อย่างไร และอะไรเป็นจุดเปลี่ยน เพื่อนฝูงที่เขากินเหล้าอยู่ก็มักจะพูดเย้าแหย่ว่าจะทำได้หรือ แต่ทุกอย่างก็ไม่เท่ากับเราต้องต่อสู้กับตัวเอง และหากชนะตัวเองได้ก็สามารถชนะทุกอย่างได้ และเราสามารถเนรมิตสิ่งที่ดีที่สุดให้กับครอบครัวเราได้”
ทุกวันนี้ครอบครัวของลุงแดงรวมถึงญาติพี่น้องก็อยู่อย่างมีความสุข และลุงแดงยังพยายามเปิดเวทีชาวบ้านแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ทำให้ชุมชนเปลี่ยนหน้ามือเป็นหลังมือ และคนที่ดื่มก็น้อยลง เงินทองก็เหลือมาจุนเจือครอบครัว ทุกอย่างไม่มีคำว่าสายหากเราจะแก้ไข
ลุงแดงใช้คาถาที่ว่า “ใช้ธรรมะหักดิบ ใช้สติเพิ่มปัญญา เพื่อมวลประชาให้ครอบครัวเข้มแข็งอย่างยั่งยืน”
เด็กหนุ่มที่เคยหลงทาง เมื่อเจอแสงสว่างจึงพร้อมจะสร้างทางให้ตัวเอง และผู้อื่นเดิน
บุญฤทธิ์ โยธา อายุ 20 ปี หนุ่มนักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ ชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง เล่าให้ฟังว่า ตัวเองก็เหมือนเด็กวัยรุ่นทั่วไปที่ชอบดื่ม กิน เที่ยวเตร่ เฮฮาในยามราตรี บางครั้งถึงกับทำให้แม่ร้องไห้ เพราะความมือไว ใจร้อน ก่อเรื่องไม่เว้นวัน
“จนวันหนึ่งก็เกิดจุดเปลี่ยนในชีวิต เมื่อคุณแม่ชวนให้เข้าไปร่วมฟังโครงการครอบครัวเข้มแข็ง ตอนแรกก็ปฏิเสธเพราะคิดว่าเป็นเรื่องน่าเบื่อ แต่หลังจากได้เข้าไปฟังและแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากคนอื่น ๆ ในหลายช่วงวัย ก็เกิดแนวคิดว่า หากเราสามารถนำมาปรับใช้ก็คงเป็นประโยชน์กับตัวเอง จึงได้เข้ามาศึกษาเต็มตัว และโชคดีที่มีผู้ใหญ่ใจดีท่านหนึ่งได้ให้โอกาสให้ผมเข้ามาร่วมพูดคุยในรายการวิทยุ และถือเป็นอีกก้าวหนึ่งที่ผู้ใหญ่เห็นในศักยภาพของเรา จนทุกวันนี้ก็ยังจัดรายการเพื่อเผยแพร่ความรู้ และพูดคุยให้คำปรึกษาแก่น้อง ๆ เพื่อน ๆ ที่มีปัญหาส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องความรักความเข้าใจในครอบครัว หรือระหว่างเพื่อนและแฟน”
บุญฤทธิ์บอกว่า ชีวิตเปลี่ยนจากช่วงวัยที่โลดโผน กลับมาเป็นคนใจเย็น มีเหตุผล ฟังพ่อแม่และผู้อื่นมากขึ้น การเรียนจากดิ่งต่ำสุดขึ้นมาถึงดีใช้ได้ทีเดียว ใช้เวลาอยู่กับครอบครัว พูดคุยหารือได้ทุกเรื่อง ที่สำคัญมีกำลังใจพร้อมจะฝ่าฟันอุปสรรคในชีวิตได้
“ทุกอย่างทำได้หมดถ้าคิดจะทำ แต่ยากอยู่ที่การทำใจ ส่วนตัวผมคิดว่าโชคดีที่ครอบครัวซึ่งมีทั้งรุ่นปู่ ย่า ตา ยาย มากด้วยประสบการณ์ชีวิตคอยหล่อหลอมสิ่งดี ๆ และเราพร้อมที่จะรับ”
เมื่อถามถึงอนาคต เขาบอกว่า อยากเป็นตำรวจเพื่อเป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูลและได้บำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่ประชาชน และอีกภารกิจหนึ่งคือการเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจในบริบทของการเสริมสร้างครอบครัวเข้มแข็งต่อไปแก่สาธารณชน
เรื่องโดย : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
ที่มา : หนังสือพิมพ์บ้านเมือง
ภาพประกอบ : อินเตอร์เน็ต
Update : 01-09-51