หยุดการคุกคามทางเพศ
ที่มา: เครือข่ายเมืองปลอดภัยเพื่อผู้หญิง
แฟ้มภาพ
พฤติกรรมแบบไหนบ้าง ที่เป็นการคุกคามทางเพศ? การกระทําาหรือการแสดงออกที่จัดว่าเป็นการคุกคามทางเพศมีได้หลายรูปแบบ ดังนี้
1) การคุกคามด้วยสายตา หรือท่าทาง เช่น จ้องมอง ร่างกาย ใช้สายตาแทะโลม ทําาท่าทางเป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงอวัยวะเพศ ความต้องการทางเพศ หรือการร่วมเพศ
2) การคุกคามด้วยวาจา เช่น ผิวปากใส่ พูดแซว พูดเกี้ยวพาราสี พูดแบบหมาหยอกไก่ พูดสองแง่สองง่าม พูดตลกลามก หรือชวนพูดคุยในลักษณะที่ทําาให้คนฟังอึดอัด เช่น ซักไซร้เรื่องส่วนตัว พูดพาดพิงถึงรูปร่างหน้าตาและการแต่งกาย ชวนพูดคุยเรื่องเพศ ทั้งที่พูดลอย ๆ ให้ได้ยิน หรือพูดกับผู้ที่ตกเป็นเป้าโดยตรง
3) การคุกคามทางร่างกาย มีหลายระดับความรุนแรง ตั้งแต่การแตะเนื้อต้องตัว แต๊ะอั๋ง ลูบไล้ โอบ กอด หอม ใช้ส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกายสัมผัสถูไถ รวมทั้งการเดินตาม สะกดรอยตาม โชว์อวัยวะเพศ สําาเร็จความใคร่ให้ผู้อื่นเห็น หรืออาจรุนแรงจนถึงขั้นพยายามข่มขืน หรือข่มขืน
4) การคุกคามผ่านช่องทางการสื่อสาร หรือทําาให้เกิดสภาพแวดล้อมที่น่าอึดอัดในเรื่องเพศ เช่น แอบถ่าย ภาพผู้โดยสารคนอื่น ถ่ายภาพช้อนใต้กระโปรงหรือหน้าอก เปิดรูปภาพ คลิปวิดีโอ หรือภาพยนตร์ลามกอนาจารบนโทรศัพท์มือถือให้คนข้าง ๆ เห็น
การคุกคามทางเพศอาจเกิดอย่างโจ่งแจ้งและสังเกตเห็นได้ง่าย แต่บ่อยครั้ง ผู้คุกคามมักทําทีเป็นไม่ตั้งใจ ฉวยโอกาสในช่วงที่มีผู้โดยสารเบียดเสียด หรือเลือกกระทําาในมุมอับ และผู้ถูกคุกคามอาจรู้สึกตกใจ หรือกลัวจนไม่กล้าเปล่งเสียง ไม่กล้าบอกพนักงาน หรือย้ายตัวเองออกจากจุดที่เกิดเหตุ ในกรณีเช่นนี้ การที่คนรอบข้างจะบอกได้ว่าพฤติกรรมที่เห็นเป็นการคุกคามทางเพศหรือไม่ จึงต้องอาศัยการสังเกตอย่างถี่ถ้วน
จุดสังเกตสําาคัญที่จะช่วยชี้ชัดว่าพฤติกรรมที่เกิดขึ้นคือการคุกคามทางเพศ คือ ผู้ที่ตกเป็นเป้าของพฤติกรรมนั้น ๆ มีท่าทีอึดอัด ไม่พอใจ หรือหวาดกลัว หากสังเกตเห็นท่าทีดังกล่าว ให้เชื่อได้ว่าพฤติกรรมที่เห็นคือการคุกคามทางเพศ ยกเว้นในกรณีที่ผู้ถูกกระทําาเป็นเด็กเล็ก ผู้โดยสารที่เผลอหลับ หรือไม่รู้ตัวว่ากําาลังถูกคุกคาม ในกรณีอย่างหลังนี้ ยิ่งต้องอาศัยการสอดส่องดูแลเอาใจใส่ของคนรอบข้างและพนักงานเป็นสําาคัญ