หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง สู่ศูนย์เรียนรู้ชุมชน
ที่มา : สำนักสร้างสรรค์โอกาสและนวัตกรรม สสส.
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
ในปี 2549 สำนักสร้างสรรค์โอกาสและนวัตกรรม สสส. ได้สนับสนุนชุดโครงการหมู่บ้านสร้างเสริมสุขภาพตามแนวพระราชดำรัสเศรษฐกิจพอเพียง เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี จำนวน 236 หมู่บ้าน
“เข็มเล่มเดียวสร้างบ้าน บทเรียนจากสวนสวรรค์” เป็นหนึ่งในบทเรียนจากชุดโครงการหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง สสส. ในครั้งนั้น แม้บ้านสวนสวรรค์จะเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ในอำเภอศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู แต่จากการน้อมนำเศรษฐกิจพอเพียงเข้าเป็นแนวทางในการพัฒนาหมู่บ้านในครั้งนั้นนำไปสู่การเป็นศูนย์เรียนรู้ที่สำคัญของ จ.หนองบัวลำภู ในปัจจุบัน
แม่ครูละเอียด ปู่หลุ่น ผู้ดำเนินโครงการ ได้กล่าวถึงจุดเริ่มต้นก่อนดำเนินโครงการไว้ว่า “เมื่อทุนเข้ามาคนที่เคยรักกันก็เกีลียดกัน ทะเลาะกันเรื่องเงิน สังคมที่อยู่อย่างสงบสุขก็เปลี่ยนไป เมื่อนำแนวเศรษฐกิจพอเพียงเข้ามา ตอนแรกไม่มีใครเข้าใจว่าหมายถึงอะไร จนกระทั่ง หลวงตาแชร์ พเนจร หรือพระครูในฎีกาชนิล (สมณศักดิ์ในปี 2552) ได้เทศนาให้ฟังจึงถือเป็นการปรับกระบวนการคิดสู่ความเข้าใจเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงในครั้งแรก พวกเราจึงเข้าใจกันว่า วิถีชีวิตดั้งเดิมที่ขึ้นอยู่กับประเพณี วัฒนธรรม คุณธรรม ความรัก ความตัญญู ให้ความเคารพซึ่งกันและกัน เครือข่ายญาติพี่น้องคือทุนที่เรามีอยู่แล้ว”
จากคณะทำงานที่มีความเข้าใจในแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงและนำความรู้เรื่อง “ข้าวฮาง” และ “การผลิตผ้าย้อมสีธรรมชาติ” สู่การปลูกฝ้ายปลอดสารพิษร่วม 100 ไร่ ซึ่งเป็นวิถีการดำเนินชีวิตและวัฒนธรรมที่เป็นมรดกตกทอดมาจากคนในครอบครัว ซึ่งเป็นทุนเดิม มาเผยแพร่เพื่อให้สามารถสืบทอดไปยังรุ่นลูกรุ่นหลานในอนาคตโดยไม่หวงแหนความรู้ ทำให้เกิดประโยชน์ต่อบุคคลทั่วไปและผู้ที่อยู่ในภาวะเจ็บป่วย
ขณะเดียวกันได้มีความพยายามจะรวบรวมภูมิปัญญาท้องถิ่นและผู้รู้ ทำเป็นศูนย์เรียนรู้และถ่ายทอดโดยใช้ชื่อว่า “วิชชาลัยครุไทบ้าน” เพื่อใช้เป็นพื้นที่และแหล่งเรียนรู้ของประชาชนในชุมชนและผู้ที่สนใจเกี่ยวกับการดำเนินการและวิถีชีวิตของผู้คนในสมัยก่อน เพื่อถ่ายทอดสู่ประชาชนในรุ่นปัจจุบันและลูกหลานในอนาคตได้ อีกทั้งพยายามขยายความรู้ ผลักดันแนวคิด ออกสู่ระดับเครือข่ายในอำเภอศรีบุญเรือง เพื่อความยั่งยืนของกิจกรรมได้
นอกจากนี้องค์กรที่รับผิดชอบเป็นองค์กรที่มีคณะกรรมการดำเนินงานชัดเจน และมีภาคีเครือข่ายเข้าร่วมในการดำเนินงาน มีเป้าหมายและการประเมินผลลัพธ์ที่ชัดเจน และมีการประชุมคณะทำงานเพื่อประเมินผลการทำงานสม่ำเสมอ