“หมอเตือนวัยรุ่นใช้สารที่อ้างสรรพคุณผิวขาว” เสี่ยงมะเร็งผิวหนัง ตาเป็นต้อกระจก เส้นเลือดอุดตัน ย้ำไม่ควรใช้ยารักษาโรคมาใช้ผิดประเภท อาจได้รับผลค้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ เกิดความเสียหายถึงชีวิต
ผศ.พญ.สุวิรากร โอภาสวงศ์ สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัญหาความต้องการมีผิวขาวยังพบมากในวัยรุ่น จึงทำให้มีการพยายามหาวิธีการใหม่ๆ มาใช้เพื่อทำให้ผิวขาว ซึ่งบางครั้งมีการนำยาที่ใช้รักษาโรคต่างๆ ที่มีผลข้างเคียงทำให้ผิวขาวมาใช้อย่างผิดวิธี เช่น การใช้ยาละลายเสมหะ ที่มีสารอะเซตติลซีสเตอีน (acetylcysteine) ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของกลูตาไธโอนมาใช้ หากใช้มากจนเกินไป สารดังกล่าวก็จะเป็นพิษต่อร่างกายได้ และเป็นอนุมูลอิสระ ซึ่งแทนที่จะได้ผลดี แต่กลับให้ผลเสียได้
ผศ.พญ.สุวิรากร กล่าวต่อว่า มีการใช้สารต่างๆ เพื่อไปยับยั้งการสร้างเม็ดสีของผิว หรือเมลานิน เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนัง และตาเป็นต้อกระจก เนื่องจากเมลานินมีกลไกออกฤทธิ์ป้องกันแสงหลายประการ ทำหน้าที่เหมือนแผ่นกรองแสง
ขณะที่ รศ.พญ.เพ็ญพรรณ วัฒนไกร หน่วยโรคผิวหนัง ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ปัจจุบันมีวัยรุ่นบางกลุ่มนิยมใช้ยาทรานยามีค แอซิด (tranexamic acid) ซึ่งมีฤทธิ์ทำให้เลือดแข็งตัว ทางการแพทย์นิยมใช้กับผู้หญิงที่มีประจำเดือนมาก หรือหมอฟันและศัลยแพทย์ใช้เพื่อห้ามเลือดเวลาผ่าตัด และมีผลข้างเคียง คือ อาจทำให้ผิวขาวขึ้นได้ชั่วคราว ซึ่งหากใช้ผิดวัตถุประสงค์และติดต่อกันเป็นเวลานาน จะส่งผลทำให้ลิ่มเลือดแข็งตัว ส่งผลให้เส้นเลือดอุดตัน และยามีพิษสะสมในดับและไต
รศ.พญ.เพ็ญพรรณ กล่าวอีกว่า การนำยาต่างๆ มาใช้ เพื่อให้ได้ผลข้างเคียง คือ ผิวขาวนั้นเป็นการหวังผลที่ได้ไม่คุ้มเสีย เนื่องจากยาแต่ละชนิดนอกจากจะมีผลทำให้ผิวขาวแล้วอาจส่งผลข้างเคียงอื่นๆ ตามมาภายหลัง และผิวขาวที่ได้จากผลข้างเคียงจากการใช้ยาหรือสารต่างๆ นั้นไม่คงทนถาวร เมื่อมีการเลิกใช้ก็จะทำให้ผิวกลับไปคล้ำเช่นเดิม หากมีการใช้ยาหรือสารต่างๆ ที่ทำให้ผิวขาวในระยะยาวย่อมเกิดการสะสมและเป็นอันตรายต่อชีวิตได้
ด้าน นพ. พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเสริมอาหารที่มีการอ้างว่ามีส่วนผสมของสารบางชนิดที่ทำให้ผิวขาว อย่างกลูตาไธโอน ขณะนี้ ก็ได้มีการดำเดินการลงโทษตามกฎหมาย ซึ่งหากมีการโฆษณาโดยไม่ได้รับอนุญาตมีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท แต่ถ้ามีการโอ้อวดสรรพคุณเกินจริง เข้าข่ายหลอกลวงประชาชนมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 30,000 บาท
“ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หรือเครื่องดื่มบำรุงร่างกายที่โฆษณาอ้างว่ามีส่วนผสมของสารกลูตาไธโอน ซึ่งส่วนใหญ่อยู่มีปริมาณของสารดังกล่าวไม่เกินที่ อย. อนุญาต คือ 250 มิลลิกรัม ซึ่งเป็นปริมาณที่ไม่สามารถทำให้ผิวขาวใสขึ้นมาทันตาภายในเวลารวดเร็วได้”
ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ