หมอมงคล ยัน! เดินหน้ารณรงค์ป้องกันไข้หวัด 2009 ทุกพื้น
เผยห่วงสถาบันกวดวิชาเป็นต้นตอระบาดรอบ 2
หมอมงคล ห่วงสถาบันกวดวิชาเป็นต้นตอระบาดรอบ 2 หลังสหรัฐเริ่มมีสัญญาณระบาดรอบใหม่ตายแล้ว 600 คน ประสานโรงเรียน ผู้ปกครอง ดูแลเด็กใกล้ชิด หวั่นเปิดเทอมระบาดหนักซ้ำรอย
เมื่อวันที่ 23 กันยายน ที่ จ.ตราด นพ.มงคล ณ สงขลา ประธานคณะอนุกรรมการสนับสนุนป้องกันและควบคุมแก้ปัญหาการระบาดไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวภายหลังการตรวจเยี่ยมการป้องกันและควบคุมไข้หวัดใหญ่ในพื้นที่ อปท. จ.ตราด ว่า ขณะนี้สถานการณ์การระบาดโดยเฉพาะที่สหรัฐอเมริกาได้เข้าสู่การระบาดระลอก 2 มาร่วม 1 เดือนมีผู้เสียชีวิตแล้ว 600 ราย แต่ยังไม่รุนแรงเท่ากับการระบาดครั้งแรก เนื่องจากมีมาตรการป้องกันที่ดีขึ้น ขณะที่ไทย การระบาดในกทม.และปริมณฑลได้ชะลอตัวลง แต่กลับมีการระบาดหนักในต่างจังหวัด โดยเฉพาะภาคเหนือตอนบน ภาคอีสาน ซึ่งในช่วงปลายฝนต้นหนาวต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เพราะเป็นช่วงที่มีการระบาดของไข้หวัดตามฤดูกาลอยู่แล้ว อาจทำให้สถานการณ์แย่ลงได้ อีกทั้งยังเป็นช่วงเดียวกับสถานศึกษาปิดเทอมทำให้เด็กมีกิจกรรมที่ต้องออกนอกพื้นที่มากขึ้น
“ไม่รู้ว่าเมื่อเปิดเทอมแล้วจะเกิดอะไรขึ้น หากเกิดการระบาดระลอก 2 เพราะช่วงปิดเทอมเด็กในต่างจังหวัดมักจะเดินทางเข้ากทม.ไปเรียนพิเศษไปกวดวิชาตามสถาบันต่างๆ ซึ่งมีเด็กจากทุกพื้นที่เข้ามาเรียน อาจทำให้เกิดการระบาดในกทม.และปริมณฑลได้อีก ดังนั้นในระหว่างนี้จะประสานให้ผู้ปกครองรวมถึงครูทุกโรงเรียน เฝ้าระวังเด็กในความดูแลของตนอย่างใกล้ชิดให้เด็กรายงานความเคลื่อนไหวของเด็กอย่างใกล้ชิด”นพ.มงคล กล่าว
นพ.มงคล กล่าวว่า ในการติดตามหากพบว่าเด็กป่วยควรให้เด็กหยุดทันทีเพื่อยังยั้งการระบาด แต่จะไม่ไปก้าวก่ายการดำเนินงานของสถาบันกวดวิชาที่ต่างๆ เพราะเข้าใจว่ามีมาตรการป้องกันโรคอยู่แล้ว เช่น เจลล้างมือ หน้ากากอนามัย ซึ่งเหตุผลที่ยังเป็นห่วงว่าจะเกิดการระบาดระลอก 2 เพราะจนถึงขณะนี้ก็ยังมีอัตราการเสียชีวิตอย่างต่อเนื่องไม่ได้ลดลงแม้ว่าจะมีการระบาดมาหลายเดือนแล้ว ซึ่งหากจะบอกได้ว่าไม่มีการระบาดรอบใหม่ก็ต้องไม่มีอัตราการป่วยและเสียชีวิตติดต่อกัน ทั้งนี้ เชื่อว่าขณะนี้ประชาชนมีความเข้าใจในการป้องกันโรคมากขึ้น แต่ สสส.จะเร่งให้เครือข่ายต่างๆ รณรงค์ เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เพราะประชาชนอาจจะเฉยชาต่อการป้องกันโรคลง
ที่มา : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สสส.
Update 23-09-52
อัพเดทเนื้อหาโดย : ฤทัยรัตน์ ไกรรอด