หมอดีในมือคุณรู้เรื่องอาการป่วยได้ง่ายและเร็ว
ในชีวิตของคนคนหนึ่ง ตั้งแต่แรกเกิดจนกระทั่งเสียชีวิต ทุกคนจะต้องได้เจอะได้เจอกับคำถามที่หลายอย่างไม่สามารถจะตอบให้ตัวเองเกิดความกระจ่างได้
ตัวอย่าง คำถามพื้นๆ ที่ไม่มีใครไม่เคยเจอ อาทิ
หากเราเจอคนเป็นลมเราจะช่วยเหลืออย่างไร?
เจอคนประสบอุบัติเหตุรถชน ควรจะเข้าไปช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้นอย่างไร?
เมื่อเราป่วย มีอาการปวดท้องหรือเป็นตะคริวกะทันหันจะมีวิธีการรักษาอย่างไร?
คำถามเหล่านี้มีทั้งคำถามที่เพื่อช่วยเหลือตัวเองและเพื่อช่วยเหลือคนอื่น
ด้วยเหตุนี้เอง มนุษย์จึงถูกสร้างสมองมาให้มีความคิดและมีเครื่องมือในการช่วยเสริมสร้างความคิด นั่นคือ การเรียนรู้ที่มีทั้งการเรียนรู้ในระบบที่เรียกกันว่าเรียนในสถาบันการศึกษาและเรียนรู้นอกระบบที่เป็นการเรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่างจากประสบการณ์หรือการเรียนรู้ที่ได้จากนอกสถาบันการศึกษา
เมื่อโลกเจริญขึ้นการเรียนรู้ก็ยิ่งมีรูปแบบแปลกใหม่มากขึ้นและได้ผลมากยิ่งขึ้นอย่างเช่น การเรียนรู้ด้วยแผนงาน ICT เพื่อการเรียนรู้ดิจิทัลและสนับสนุนภาคีเครือข่ายที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับสถาบัน Change Fusion, มูลนิธิหมอชาวบ้าน และบริษัท โอเพ่นดรีม จำกัด เปิดตัวMobile Application ที่ชื่อ “DoctorMe” แอพพลิเคชั่นสุขภาพตัวแรกของประเทศไทย
DoctorMe เป็นโปรแกรมแอพพลิเคชั่นที่จะให้ความรู้ด้านสุขภาพทั้งหมด ทั้งวิธีการรักษา การปฐมพยาบาล ข้อมูลการใช้ยา ทั้งยาแผนปัจจุบัน ยาสมุนไพร รวมไปถึงการรักษาอาการป่วยเบื้องต้นด้วย โดยได้รับการอนุเคราะห์ข้อมูลทั้งหมดจากมูลนิธิหมอชาวบ้าน
ใครที่อยากจะใช้โปรแกรม DoctorMe ตอนนี้คงต้องอาศัยเครื่องมือที่เป็นผลผลิตของแอปเปิ้ลเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น “ไอโฟน””ไอแพด” และ “ไอพอด ทัช” โดยสามารถดาวน์โหลดได้ฟรีผ่านทาง Apple App Store หรือ http://doctorme.in.th
และทันทีที่เราติดตั้ง DoctorMe แล้ว ภาพที่ปรากฏบนหน้าจอก็จะเห็นภาพเด็กชายที่มีสีหน้าท่าทางป่วยยืนอยู่และด้านซ้ายมือของเด็กจะเป็นแถบสีบอกส่วนต่างๆ ของร่างกาย โดยจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ ศีรษะ-ลำตัว และลำตัวส่วนล่าง
ถ้าเราต้องการจะรู้เพื่อการแก้ไขความเจ็บป่วย เราก็ไปดูในบริเวณนั้น เช่น หากเราเจ็บคอ ก็ให้เข้าไปดูในส่วนศีรษะ เมื่อเข้าไปแล้วก็จะมีอาการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับศีรษะและคอออกมาทั้งหมด จากนั้นก็ให้เราหาอาการเจ็บคอ เมื่อเข้าไปแล้วก็จะมีข้อมูลเกี่ยวกับอาการเจ็บคอทั้งหมด รวมทั้งสาเหตุและวิธีการรักษาด้วย
นอกจากนี้ ยังมีการเชื่อมโยงไปยังข้อมูลส่วนต่างๆ ด้วยเช่น หากมีการแนะนำให้รับประทานยาอะไร ก็จะมีข้อมูลของยาตัวดังกล่าวรวมทั้งข้อแนะนำในการรับประทานยาออกมาด้วยหรือถ้าพบว่ายาตัวใดที่มีอันตรายแอพพลิเคชั่นตัวนี้ก็จะมีข้อมูลแนะนำด้วยว่ายาตัวใดที่ควรให้แพทย์สั่ง หรือถ้าอาการที่เกิดขึ้นกับเรามีอาการรุนแรงมากแอพพลิเคชั่นนี้ก็จะแนะนำให้ไปพบแพทย์ทันที
และถ้าอาการที่เกิดขึ้นกับตัวเราไม่ได้เป็นอาการที่อยู่ในทั้ง3 ส่วนของร่างกาย เช่น เป็นโรคผิวหนัง แอพพลิเคชั่นตัวนี้ก็ยังมีคำตอบให้เช่นกัน คือ หากมีอาการที่เกิดขึ้นกับร่างกายแต่ไม่อยู่ในทั้ง 3 ส่วนของร่างกายที่ทางแอพพลิเคชั่นกำหนดมาให้ ก็ให้เข้าไปในรายการทั่วไปซึ่งจะเป็นส่วนที่รวบรวมอาการที่นอกเหนือจากที่ถูกระบุไว้ในทั้ง 3 ส่วนของร่างกาย
ถ้าเราลงมาดูด้านล่างของตัวเด็กป่วยบ้าง ก็จะเห็นเป็นแถบสีแบ่งเป็นช่องๆ ประกอบด้วย “อาการ” “ค้นหา” “รายการลัด” “ปฐมพยาบาล” และ “เพิ่มเติม” ซึ่งจะมีลักษณะเหมือนกับเมนูลัดที่ให้เราเข้าไปหาข้อมูลของอาการต่างๆ ได้เร็วขึ้น เช่นหากเรามีอาการอย่างไรก็ให้เข้าไปพิมพ์ในช่องค้นหาก็จะมีอาการที่เกี่ยวข้องขึ้นมาพร้อมกับข้อมูล หรือหากเราเข้าไปในส่วนของอาการก็จะมีอาการจากส่วนต่างๆ ขึ้นมา และให้เราเข้าไปดูในส่วนนั้นๆ ตามที่เกิดขึ้นกับตัวเราได้ทันที
ขณะที่ในส่วนของการปฐมพยาบาล จะเป็นการแนะนำวิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับตัวเราโดยจะมีภาพขั้นตอนการปฐมพยาบาลประกอบด้วย เพื่อให้ปฐมพยาบาลได้อย่างถูกวิธี
ทันทีที่มีการ นำแอพพลิเคชั่น “DoctorMe” เข้าสู่ Apple App Store ครั้งแรกเมื่อวันที่ 18 ส.ค. ที่ผ่านมา พบว่าได้รับความนิยมอย่างมาก โดยขึ้นเป็นอันดับ 1 ในหมวดสุขภาพ(Health and Fitness) ภายใน 4 ชั่วโมงแรก หลังเปิดให้ดาวน์โหลดจนถึงปัจจุบันและขึ้นเป็นอันดับ 1 ของแอพพลิเคชั่นทุกหมวดตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค. ที่ผ่านมา และขณะนี้ยังติด 1 ใน 4 ของแอพพลิเคชั่น ที่มีการดาวน์โหลดสูงที่สุด โดย 92% ของผู้ใช้DoctorMe โหวตให้คะแนน 5 ดาวเต็ม และได้ให้ความเห็น 80 ความเห็น ซึ่งเกือบทั้งหมด เป็นการชื่นชมระบุว่ามีประโยชน์มากทุกคนควรมีไว้ใช้งานติดตัว
และที่สำคัญทางผู้ที่ออกแบบแอพพลิเคชั่นตัวนี้ ยังยืนยันว่าจะมีการอัพเดต DoctorMe อยู่เป็นระยะๆ เพื่อให้ทันกับสถานการณ์การเกิดโรคต่างๆ ที่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงไปได้ตามเวลา นอกจากนี้ในอนาคตจะมีการพัฒนา DoctorMe ให้สามารถใช้ได้ในผู้ที่ใช้โทรศัพท์มือถือ
สมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการ “แอนดรอยด์” สามารถดาวน์โหลดไปใช้ได้ เพื่อให้มีผู้เข้าถึงข้อมูลสุขภาพผ่าน DoctorMe ได้อย่างกว้างขวางมากขึ้นด้วย
แต่ตอนนี้ขอเป็นโอกาสของ แอปเปิ้ล แต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น
ที่มา: หนังสือพิมพ์แนวหน้า