หมวกกันน็อก เลือกอย่างไรให้ใช่และปลอดภัย

ที่มา : สำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.)


หมวกกันน็อก เลือกอย่างไรให้ใช่และปลอดภัย thaihealth


แฟ้มภาพ


หมวกกันน็อกเป็นอุปกรณ์นิรภัยที่ใช้สำหรับป้องกันการบาดเจ็บหนักของศีรษะ ช่วยลดแรงกระแทก เมื่อเกิดอุบัติเหตุ โดยส่วนใหญ่จะมีอายุการใช้งานที่ประมาณ 2-5 ปี  ผู้ขับขี่ควรเลือกให้พอดีกับขนาดของศีรษะ และเหมาะกับประเภทการใช้งาน เเละควรเลือกหมวกกันน็อกที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน มอก. เพื่อให้ได้หมวกกันน็อกที่มีประสิทธิภาพ สามารถลดความรุนแรงจากอุบัติเหตุได้  


ประเภทของหมวกกันน็อก


1.หมวกกันน็อกครึ่งใบ (Half Face)  – สวมใส่ง่าย ราคาไม่แพง ไม่มีกระจกบังลม เวลาเกิดอุบัติเหตุแทบไม่ได้ ช่วยอะไรเลย การป้องกันอยู่ในระดับต่ำ


2.หมวกกันน็อกเปิดหน้า (Open face) – สวมใส่ง่าย คลุมรอบศรีษะ มีกระจกบังลมแต่ไม่มีการป้องกันบริเวณ คาง เหมาะกับการขับขี่ในเมืองและการเดินทางระยะกลาง 


3.หมวกกันน็อกเต็มใบ (Full face) – มีการป้องกันครอบคลุมทั้งศรีษะ เห็นเฉพาะจมูกและตา เหมาะสำหรับการขับขี่ที่มีความเร็วสูง แต่อาจจะอึดอัดสำหรับผู้ไม่คุ้นเคย จึงเป็นที่นิยมในกลุ่ม Bigbike และในสนามแข่ง


4.หมวกกันน็อกยกคาง (Modular) – ลักษณะเดียวกับหมวกกันน็อกเต็มใบ แต่สามารถยกคางหมวกกันน็อกขึ้นได้ ปลอดภยักว่าหมวกเปิดหน้าปกติ    น้ำหนักค่อนขา้งมาก เพราะมีกลไกที่ช่วยเรื่องความปลอดภัยมากขึ้น นิยมใช้ในกลุ่ม Big Scooter และ Bigbike


5. หมวกกันน็อกวิบาก (Dirt, Motocross) มีพื้นที่บริเวณคางยื่นออกไปมากกว่าหมวกแบบอื่น ๆ เพื่อป้องกันการกระแทกบริเวณคาง ไม่มีกระจกบังลมแต่ถูกออกแบบให้สามารถสวมแว่นตาแบบรัดกับหมวก และมีแก๊ปด้านบน เพื่อช่วยบังแดดและดินโคลน


6. หมวกกันน็อกกึ่งวิบาก, ทัวร์ริ่งแอดเวนเจอร์ (Dual sport) – หน้าตาคล้ายหมวกวิบาก ส่วนใหญ่จะติดตั้งแว่นกันแดดมาด้านใน นิยมใช้ในกลุ่มที่เดินทางไกลกับรถสไตล์ Touring Adventure เพราะมีแก๊ปด้านบน เพื่อช่วยบังแสงไม่ให้แยงตา

Shares:
QR Code :
QR Code