หนุน ‘ปิดเทอมสร้างสรรค์’ เปลี่ยนวันว่างเด็กให้เกิดประโยชน์

“ปิดเทอมสร้างสรรค์ : 31 วัน ไม่ธรรมดา” ในช่วงเดือน ต.ค.54 ที่ผ่านมา ที่สามารถเอาเวลาว่างของเด็กมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ส่วนกิจกรรมสร้างสรรค์ที่เกิดขึ้นในช่วงปิดเทอมฤดูร้อนนี้ยังมี กำลังจะเรียงรายออกมาสู่สายตาน้องๆ แล้วในไม่ช้านี้

หลังจากที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จับมือกับภาคีเครือข่ายต่างๆ อย่างบริษัท จีเอ็มเอ็ม ทีวี จำกัด, สถานี  you  channel ในเครือบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน), บริษัท เดย์ โพเอทส์ จำกัด, กลุ่มสร้างสรรค์ไทย (d.i.y.), แผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน และ  change  fusion เปิดตัวโครงการ “ปิดเทอมสร้างสรรค์ : 31 วัน ไม่ธรรมดา” ในช่วงเดือน ต.ค.54 ที่ผ่านมา เพื่อทำให้ปิดเทอมของเยาวชนไม่ใช่แค่เวลาว่างโดยเปล่าประโยชน์อีกต่อไป

ด้วยการให้น้องๆ มีทางเลือกมากมายในการทำกิจกรรม อาทิ จิตอาสาเพื่อส่วนรวมด้วยการไปเป็นอาสาสมัครอ่านหนังสือให้คุณตาคุณยายฟังที่บ้านพักคนชรา หรือเล่านิทานให้เด็กฟัง ฝึกการสร้างเสียงให้ผู้พิการทางสายตาเพื่อเสริมสร้างจินตนาการให้แก่พวกเขา เป็นต้น

ในส่วนของการฝึกฝนตนเอง น้องๆ สามารถที่จะเข้าไปสัมผัสกับคนที่มีประสบการณ์จริง ทั้งเรื่องการร้องการเต้น และเป็นพิธีกร ซึ่งอาจทำให้เราได้ค้นพบตัวเอง

ส่วนน้องๆ ที่ชื่นชอบเรื่องของการทำงานฝีมืออาจจะไปทำกิจกรรมที่เกี่ยวกับงานเพนต์ งานปั้น และประดิษฐ์เครื่องประดับจากวัสดุเหลือใช้ผ่านกิจกรรมห้องเรียนรู้สร้างสรรค์ ซึ่งนอกจากจะสร้างสมาธิแล้ว ไม่แน่ งานเหล่านี้อาจสวยงาม โดนใจผู้ดู จนกลายเป็นที่มาของเงินค่าขนมที่น่าภูมิใจกลับมาเข้ากระเป๋าได้ด้วย

กิจกรรมในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เราลองมาดูกันว่าน้องๆ ที่เข้าร่วมกิจกรรมค่ายปิดเทอมสร้างสรรค์ที่ สสส. และภาคีเครือข่ายจัดทำขึ้นเกิดประโยชน์แก่พวกเขาและสังคมอย่างไรบ้าง และนี่เป็นเพียงบางประสบการณ์ที่เราได้เดินทางไปเฝ้าดูน้องๆ ในการเข้าค่ายต่างๆ เพื่อนำมารายงานให้พ่อแม่และน้องๆ จะได้ทราบแนวทางไว้ก่อนที่จะเตรียมตัวสำหรับช่วงปิดเทอมใหม่ที่กำลังจะมาถึงในภาคฤดูร้อนนี้

ขอเริ่มที่กิจกรรมสนุกตามฝัน มันส์กับตัวจริง หลักสูตรการร้องเพลง โดย สสส. ร่วมกับบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) และบริษัท จีเอ็มเอ็ม ทีวี จำกัด เป็นเจ้าภาพในการจัดกิจกรรม มีการจัดค่ายให้แก่เยาวชนระดับมัธยมศึกษาทั่วประเทศ คัดเลือกผู้เข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 20 คน ให้มาพูดคุยกับป๊อป แคลอรี่ส์ บลาห์ บลาห์ ถึงประสบการณ์เรื่องการร้องเพลง

น้องๆ จากค่ายนี้ อย่าง “น้องนก” ศุภร ชีขาว หรืออายุ 17 ปี ชั้น ม.6 โรงเรียนศรีบุณยานนท์ หนึ่งในเยาวชนผู้ร่วมโครงการ เล่าให้ฟังว่า ชอบร้องเพลงและเริ่มฝึกจริงจังตั้งแต่ ม.3 โดยเฉพาะช่วงปิดภาคเรียนจะหากิจกรรมฝึกฝนการร้องเพลงอยู่ตลอด ตอนแรกคิดว่าการร้องเพลงไม่ยากเท่าไหร่ แต่เมื่อมีโอกาสได้พูดคุยกับนักร้องอาชีพ รวมถึงครูผู้ชำนาญเทคนิคและการร้องเพลง ทำให้ได้ความรู้เพิ่มอีกมากมาย และจะนำไปพัฒนาการร้องของตนเองให้ดียิ่งขึ้น

“ฝากถึงเพื่อนๆน้องๆ ว่าอยากชวนให้มาใช้เวลาว่างช่วงปิดภาคเรียน เช่น หากิจกรรมที่ชอบหรือสนใจ และเข้าร่วมโครงการต่างๆ ช่วงปิดภาคเรียน เพราะเป็นช่วงที่มีเวลาว่างค่อนข้างมาก และจะได้ความรู้เพิ่มจากการเรียนในห้องเรียน รวมทั้งได้รู้จักเพื่อนใหม่ๆ แลกเปลี่ยนความรู้ สนุกสนานในการทำกิจกรรมร่วมกัน”

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม “how  to be  vj” จากแบง แชลแนล ซึ่งเป็นการสอนเกี่ยวกับการพูดแบบมีสคริปต์และไม่มีสคริปต์ ประกอบด้วย การพูดหน้ากล้อง พูดต่อหน้าคนดูมากมาย รวมถึงแนะนำบุคลิกการแต่งตัวให้ดูดีและโดดเด่น ค่ายนี้มีน้องๆ เข้าร่วมกิจกรรม 30 คนที่ผ่านการคัดเลือกจากผู้สมัครทั่วประเทศ โดยมีผู้ชำนาญการพูด การจัดรายการ หรือที่เราเรียกกันคุ้นหูว่าวีเจ (vj) มาร่วมให้ความรู้แบบมืออาชีพแก่น้องๆ

พอเจอกับพี่ๆ วีเจวัยรุ่นตัวจริงเสียงจริงที่มาแนะนำ ทำให้น้องๆ ได้เรียนรู้อย่างสนุกสนานกับเส้นทางสู่การเป็นนักพูด มีการพัฒนาทักษะการเรียนรู้ การส่งเสริมความกล้าแสดงออกอย่างถูกวิธี และเคล็ดลับอื่นๆอีกมากมาย ทำให้น้องๆ ตื่นเต้นกันอย่างเห็นได้ชัด

หลังจากจบกิจกรรมแล้ว “น้องเอิร์ธ” หรือ นายปัญญา สุภาจารย์ อายุ 15 ปี จาก รร.สตรีวิทยา 3 ตัวแทนเยาวชน ได้เล่าให้ฟังถึงความประทับใจที่ได้จากการร่วมเวิร์กช็อปและพูดคุยกับวีเจในครั้งนี้ว่า ในส่วนของน้องเอิร์ธนั้น มีความใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วที่จะได้เป็นพิธีกร แต่ไม่เคยได้เข้าร่วมกิจกรรมหรือฝึกหัดที่ไหนมาก่อน ครั้งนี้รู้สึกประทับใจครูและพี่ๆ ที่มาสอนในโครงการปิดเทอมสร้างสรรค์ฯ มาก มีความเป็นกันเอง สนุกสนาน สอนเพื่อให้เราได้รับความรู้จริงๆสามารถนำไปปรับใช้ได้ในชีวิตประจำวัน

“โดยเฉพาะเรื่องการพูดเช่น การพูดทั่วไป การรายงานหน้าชั้น เราสามารถออกเสียงได้อย่างถูกต้อง ถูกอักขระ พูดชัดเจนขึ้น น่าฟังมากขึ้น ผมอยากจะชวนเพื่อนๆมาใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ครับ ได้ทั้งทักษะ ความรู้ เป็นการพัฒนาตัวเองด้วยครับ” น้องเอิร์ธเชิญชวน

ทางด้าน “น้องเอ๋ย” นางสาวสุธาดา จงใจพระ อายุ 17 ปี รร.สาธิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง เล่าว่า ดีใจมากค่ะที่มีโอกาสได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของโครงการปิดเทอมสร้างสรรค์ฯ การเข้าร่วมกิจกรรมก็รู้สึกว่าเราได้ความรู้เพิ่มเติม ได้ประสบการณ์เพิ่มเติม ได้วิธีการใหม่ๆ ในการออกเสียง ในการพูดได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้น

“อยากให้เพื่อนๆ หันมาใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ใครอยากจะเล่นกีฬาหรือดนตรี อะไรก็ได้ค่ะ ขอแค่ให้เกิดประโยชน์กับตัวเรามากกว่าโทษ เพื่อนๆก็จะมีความสุขขึ้นอีกเยอะเลยค่ะ”

ยังมีกิจกรรม “ทำหนังสือเสียง (ซีดี) เพื่อเด็กผู้พิการทางสายตา” โดยบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) และยูแชนแนล ฟรีทีวีของวัยรุ่น โดยน้องๆ ที่เข้าร่วมจะได้เรียนรู้เทคนิคการใช้เสียงจากวิทยากรผู้คร่ำหวอดในแวดวงการใช้เสียง อย่างพีเจซีเจ จากคูล 93 ฟาห์เรนไฮต์, อาจารย์เรณู เดือนดาว เจ้าหน้าที่มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูป ถัมภ์, คุณขนิษฐา ธรรมปัญญา และคุณฉัตรวรุณ เล้าแสงชัยวัฒน์ จากกลุ่มเล่านิทานมะขามป้อม มาร่วมถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์จริง เพื่อให้น้องๆได้เกิดไอเดียและสามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์แล้ว รวมทั้งยังมีวีเจจากยูแชนแนลมาร่วมเป็นพี่เลี้ยงด้วย

ด.ญ.พิมพ์ภัทธา จีระนาวัฒน์ ชั้น ม.1 รร.วัฒนาวิทยาลัย กล่าวว่า ตื่นเต้นและดีใจมากที่ได้มาร่วมกิจกรรมอ่านหนังสือให้กับเด็กตาบอด รู้สึกว่ายากเหมือนกันในการทำเสียงเพื่อให้น้องๆ เข้าใจ แต่ก็ภูมิใจที่มีส่วนช่วยเหลือน้องๆ ที่ตาบอด หลังจากจบกิจกรรมแล้วจะไปชวนเพื่อนๆและครอบครัวมาช่วยกันอ่านหนังสือเสียงให้มากขึ้น

นายอภิถาวร ภักดีกิจถาวร ชั้น ม.5 รร.ป้อมนาคราชสวาทยานนท์ จ.สมุทรปราการ กล่าวว่า ประทับใจที่ได้มาร่วมทำบุญกับเพื่อนใหม่ๆ ได้เรียนรู้เทคนิคการพูด การแสดงน้ำเสียง หลังจากนี้ก็อยากจะไปเป็นอาสาสมัครช่วยคนหูหนวกและเด็กที่ด้อยโอกาสในโอกาสต่อไปอีก

สุดท้ายยังมีกิจกรรมที่ร่วมกับสถาบัน change  fushion มูลนิธิชนบทแห่งประเทศ ไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดมหกรรมปิดเทอมสร้างสรรค์ที่หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร ซึ่งได้รับความสนใจจากเยาวชนและผู้ปกครองพอสมควร มีมุมนิทรรศการการดำเนินโครงการได้อย่างน่าสนใจ และจัดเวิร์กช็อปให้ความรู้ด้านต่างๆ เช่น เส้นทางสู่การเป็นนักเขียน โดยนักเขียนมืออาชีพจากนิตยสาร  a-day และสาขาอาชีพอื่นๆด้วยการนำเสนอการจัดค่ายอาสากิจกรรมสุดฮิต และการสาธิตวิธีการทำถุงผ้าใช้แทนถุงพลาสติกเพื่อช่วยลดมลภาวะ

“น้องพิมพ์” นางสาวจันทร์เพ็ญ โชควิบูลย์สุข จาก รร.สายน้ำผึ้ง และนางสาวจุฑาทิพ ส่งนาม หรือน้องบุ๋ม ปัจจุบันอยู่ ม.6 รร.สุวรรณารามวิทยา เป็นตัวอย่างเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่รู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ด้วยการมาร่วมกิจกรรม

น้องพิมพ์กับน้องบุ๋มบอกคล้ายๆ กันว่า อยากลองฝึกทำถุงผ้าและก็ได้เป็นเพื่อนกันจากการร่วมกิจกรรมวันนี้ด้วย

“รู้สึกสนใจ เพราะสามารถนำไปเป็นความรู้ไว้ใช้ในยามว่างได้ ดีกว่าอยู่บ้านเฉยๆ นอกจากนี้ยังได้เพื่อนใหม่ต่างโรงเรียนแลกเปลี่ยนความคิดทั้งเรื่องเรียนและกิจกรรมสนุกๆช่วงวันหยุดยาวอย่างนี้ อยากชวนให้เพื่อนๆ เยาวชนลองหาข้อมูลข่าวสารและเลือกกิจกรรมที่เราสนใจทำยามว่าง

นอกจากนี้ กิจกรรมน่าสนใจที่ผ่านมา ล่าสุด นางสุดใจ พรหมเกิด ผู้จัดการแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สสส. ยังได้สานต่อกิจกรรม “ปั่นปันปัญญา” ในช่วงปิดเทอมที่จะมาถึงด้วย โดยเปิดโอกาสให้เยาวชนปั่นจักรยานนำหนังสือดีเดินทางเข้าสู่ชุมชนทั้งในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้เด็กใช้ใช้เวลาว่างอ่านหนังสือให้คนในชุมชนใต้ทางด่วนเพลินจิตอีกด้วย

นี่คือความประสบความสำเร็จบางส่วนในกิจกรรมสร้างสรรค์ 31 วัน ไม่ธรรมดา ในช่วงเดือน ต.ค.54 ที่ผ่านมา ที่สามารถเอาเวลาว่างของเด็กมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ส่วนกิจกรรมสร้างสรรค์ที่เกิดขึ้นในช่วงปิดเทอมฤดูร้อนนี้ยังมี กำลังจะเรียงรายออกมาสู่สายตาน้องๆ แล้วในไม่ช้านี้

ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์