หนุนแผน ‘ตั้งครรภ์’ คุณภาพ

          เร่งวางยุทธศาสตร์พัฒนาอนามัยการเจริญพันธุ์แห่งชาติ หนุนหญิงไทยตั้งครรภ์ที่มีการวางแผน-อยู่ในวัยที่เหมาะสม เพื่อให้กำเนิดเด็กไทยยุคใหม่ที่มีคุณภาพ ทั้งร่างกาย-จิตใจ

/data/content/25045/cms/e_ablmnquv1236.jpg

          นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า องค์การสหประชาชาติ กำหนดให้ทุกวันที่ 11 ก.ค.ของทุกปี เป็น “วันประชากรโลก” เพื่อกระตุ้นเตือนให้ทั่วโลก ที่มีประชากร 7,137 ล้านคน ตระหนักและให้ความสำคัญต่อการพัฒนา แก้ไขปัญหาของประชากร โดยในปีนี้มุ่งเน้นให้เป็นปีแห่งการลงทุนในเยาวชน ให้ได้รับการคุ้มครอง เติบโตเป็นผู้ใหญ่และใช้ศักยภาพในการดำเนินชีวิตตามที่ตั้งใจได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากในโครงสร้างประชากรในอนาคต เด็กและวัยรุ่นจะกลายเป็นวัยทำงานและรับผิดชอบการพัฒนาประเทศ

          ทั้งนี้ ในส่วนของประเทศไทย ปัจจุบันจำนวนวัยเด็กและวัยแรงงานลดลง ผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น ก้าวสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุ ข้อมูลจากกรมการปกครอง 31 ธ.ค. 56 ไทยมีประชากร 64.8 ล้านคน ในขณะที่สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล คาดประมาณประชากรกลางปี 2557 ไทยมีประชากรทั้งหมด 64.9 ล้านคน และอัตราเพิ่มของประชากรลดลงเหลือร้อยละ 0.4 จากที่เคยสูงอยู่ที่ร้อยละ 3 ต่อปี อัตราการเกิดจากหลักล้านคนต่อปี ลดลงมาอยู่ที่ 7-8 แสนคนต่อปี สาเหตุเกิดจากประชาชนเป็นโสดมากขึ้น แต่งงานช้าลง คนที่แต่งงานแล้ว มีลูกจำนวนน้อย อีกส่วนหนึ่งเกิดจากปัญหาการทำแท้ง เนื่องจากแม่ไม่มีความพร้อม คาดว่าแต่ละปีมีหญิงตั้งครรภ์ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านท้อง แต่คลอดเป็นทารกมีชีวิตเพียง 8 แสนราย

          “เรื่องที่น่าเป็นห่วง เด็กไทยขณะนี้มีปัญหาด้านคุณภาพสติปัญญาและพัฒนาการ โดยเฉพาะไอคิวที่ลดลงจาก 91 เป็น 88 จุด ในช่วงปี 2540-2552 ซึ่งต่ำกว่าเกณฑ์องค์การอนามัยโลกที่กำหนดไว้ที่ 90-110 เด็กอายุ 0-5 ปี มีพัฒนาการสมวัยลดลงจากร้อยละ 72 เหลือร้อยละ 67 ผลสำรวจระดับเชาว์ปัญญาของนักเรียนไทยทั่วประเทศ ของกรมสุขภาพจิต ในปี 2554 พบค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 98.59 จุด ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติแต่ค่อนไปทางต่ำมีนักเรียนเกือบร้อยละ 50 ที่มีระดับสติปัญญาอยู่ในเกณฑ์ต่ำ และมีนักเรียนอีกร้อยละ 7 มีปัญหาสติปัญญาบกพร่อง ในขณะที่มาตรฐานสากลไม่ควรมีเกินร้อยละ 2 นอกจากนี้ ยังพบมีพฤติกรรมเสี่ยงสูงขึ้น เช่น การติดยาเสพติด การมีเพศสัมพันธ์ การตั้งครรภ์ และการออกจากระบบการศึกษาก่อนวัยอันควร จำเป็นต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน” นพ.ณรงค์ กล่าว

          สำหรับ สธ.มีแผนพัฒนาคุณภาพประชากรไทย เริ่มตั้งแต่การปฏิสนธิต่อเนื่องไปจนถึงวัยสูงอายุ ได้จัดทำยุทธศาสตร์พัฒนาสุขภาพและอนามัยการตามกลุ่มอายุของประชากร คือ

          1.ในเด็กอายุ 0-5 ปี และสตรี จะเน้นที่การเพิ่มคุณภาพการฝากครรภ์ โดยเฉพาะการตั้งครรภ์ที่มีคุณภาพ จัดระบบตรวจคัดกรองทารกแรกเกิด เพื่อให้เกิดมาอย่างมีคุณภาพ

          2.กลุ่มเด็กวัยเรียนอายุ 5-14 ปี จะพัฒนาโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ ปลูกฝังพฤติกรรมสุขภาพดีติดตัวจนถึงวัยผู้ใหญ่ พัฒนาตำบลไอคิวดีอีคิวเด่น ชุมชนหมู่บ้านไอโอดีน เพื่อให้เด็กมีการพัฒนาที่สมวัย

          3.กลุ่มเด็กวัยรุ่นและเยาวชน จะพัฒนาระบบบริการสุขภาพที่เป็นมิตรกับวัยรุ่นมีระบบส่งต่อเชื่อมโยงระหว่างโรงเรียน สถานพยาบาล และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของครอบครัวชุมชนโดยจัดให้มีการสอนเรื่องเพศในครอบครัว ป้องกันการมีเพศสัมพันธ์และการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร

          4.กลุ่มวัยทำงาน จะพัฒนาการดูแลป้องกันโรคจากพฤติกรรม โดยเฉพาะโรคไม่ติดต่อ สร้างองค์กรไร้พุง สถานประกอบการปลอดโรค ชุมชนลดเสี่ยงลดโรคและตำบลจัดการสุขภาพ

          5.กลุ่มผู้สูงอายุ จะพัฒนาระบบบริการสุขภาพผู้สูงอายุในสถานบริการและชุมชน

 

          ที่มา : เว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์ 

          ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต

Shares:
QR Code :
QR Code