หนุนสื่อ 4 ภาค ลดการสูบบุหรี่ในชนบท
ที่มา : เว็บไซต์มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่
ภาพประกอบจากเว็บไซต์มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่
ภาคีเครือข่ายสื่อท้องถิ่นจาก 4 ภาค หนุนประเด็น “บุหรี่ : ภัยคุกคามต่อการพัฒนา” เนื่องในวันงดสูบบุหรี่โลก 2560
ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวว่า วันที่ 31 พฤษภาคมของทุกปี องค์การอนามัยโลกและภาคีต่างๆ จะร่วมกันจัดกิจกรรมเนื่องในวันงดสูบบุหรี่โลกขึ้น เพื่อมุ่งเน้นถึงความเสี่ยงด้านสุขภาพที่เกิดจากการสูบบุหรี่ และสนับสนุนให้มีการกำหนดนโยบายที่มีประสิทธิภาพเพื่อลดการบริโภคยาสูบ สำหรับวันงดสูบบุหรี่โลกในปี พ.ศ. 2560 นี้ องค์การอนามัยโลก ได้กำหนดคำขวัญว่า “Tobacco : a threat to development” “บุหรี่ : ภัยคุกคามต่อการพัฒนา” เพื่อแสดงถึงภัยคุกคามที่ธุรกิจยาสูบมีต่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของทุกประเทศ ในด้านสุขภาพ เศรษฐกิจ และสุขภาวะของประชาชน รวมทั้งเพื่อเสนอมาตรการที่รัฐบาลและภาคประชาชนควรจะดำเนินการเพื่อส่งเสริมสุขภาพและการพัฒนา โดยการเผชิญหน้ากับภาวะวิกฤตที่เกิดจากยาสูบ
ทั้งนี้ การสำรวจโดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ พ.ศ.2557 พบว่า จำนวนประชากรกลุ่มที่จนที่สุดจำนวน 1,336,073 คน และจำนวนประชากรที่จนจำนวน 1,851,191 คนที่สูบบุหรี่ รวมแล้วใช้เงินเป็นค่าซื้อบุหรี่เท่ากับ 7,674 ล้านบาทต่อปี ซึ่งเป็นเงินจำนวนมาก อีกทั้งคนไทยเสียชีวิตปีละกว่า 50,000 คน จากโรคร้ายแรงที่เกิดจากการสูบุหรี่ เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคถุงลมปอดพอง โดยแต่ละคนจะป่วยจนสูญเสียคุณภาพชีวิต (ป่วยจนถึงยังไม่ตายก็เหมือนตาย) คนละ 2 ปี และ อายุสั้นลงโดยเฉลี่ย 12 ปี และร้อยละ 30 หรือ 15,213 คนเสียชีวิตก่อนอายุ 60 ปี ซึ่งการเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงเหล่านี้ ยิ่งเพิ่มภาระแก่ผู้สูบบุหรี่ที่ยากจน แม้จะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษา แต่ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ และสูญเสียรายได้เพราะเจ็บป่วยทำงานไม่ได้ รวมถึงครอบครัวขาดรายได้เมื่อเสียชีวิต หากผู้สูบบุหรี่เป็นผู้ที่หาเลี้ยงครอบครัว ซึ่งไม่เพียงผลกระทบที่ครอบครัวจะได้รับเท่านั้น ผู้สูบบุหรี่ที่เจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงเหล่านี้จะเข้าๆ ออกๆ จากหอผู้ป่วยหนักของโรงพยาบาลก่อนที่จะเสียชีวิต เป็นการเพิ่มภาระแก่โรงพยาบาลที่มีผู้ป่วยล้นอยู่แล้วและเพิ่มภาระงบประมาณรักษาโรคที่มีอยู่จำกัด โดยเฉพาะเมื่อโรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่เหล่านี้เป็นโรคที่ป้องกันได้หากไม่สูบบุหรี่
ศ.นพ.ประกิต กล่าวเพิ่มเติมว่า ภาคีเครือข่ายสื่อมวลชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งสื่อท้องถิ่น มีบทบาทสำคัญในการให้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง รวมถึงต้องส่งผ่านข้อมูลข่าวสารรอบด้านไปยังกลุ่มประชาชนในท้องถิ่นให้มากที่สุด เพื่อให้ประชาชนทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการสร้างสังคมปลอดบุหรี่ที่ยั่งยืน ทุกคนสามารถยืนหยัดที่จะไม่เริ่มใช้ยาสูบ ผู้ที่ใช้ยาสูบอยู่แล้วสามารถที่จะเลิกสูบหรือหาความช่วยเหลือเพื่อเลิกสูบ ซึ่งจะเป็นการปกป้องสุขภาพของตัวเขาเอง และคนอื่นจากควันบุหรี่มือสอง รวมถึงเด็กๆ เพื่อนๆ และคนในครอบครัว