หนุนพระสงฆ์ เข้าถึงหลักประกันสุขภาพ
ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด
แฟ้มภาพ
ปัจจุบันกลุ่มพระสงฆ์เมื่อเกิดเจ็บป่วยมีปัญหาสุขภาพ ก็สามารถเข้าถึงสิทธิใช้บริการทางการแพทย์ได้เช่นเดียวกับประชาชนทั่วไป และมีความรู้ในเรื่องระบบหลักประกันสุขภาพมากขึ้นกว่าในอดีต
ภญ.ยุพดี ศิริสินสุข รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงภาพรวมการส่งเสริมสุขภาพในกลุ่มพระภิกษุว่า ในระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมา สปสช.ร่วมกับภาคีเครือข่ายและองค์กรสงฆ์ ร่วมกันขับเคลื่อนการดูแลสุขภาพกลุ่มพระภิกษุและสามเณรอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ปัจจุบันกลุ่มพระสงฆ์สามารถเข้าถึงบริการด้านสุขภาพและมีความรู้ในเรื่องระบบหลักประกันสุขภาพมากขึ้นกว่าในอดีต เมื่อพระสงฆ์เกิดมีปัญหาสุขภาพ ต้องเข้ารับบริการทางการแพทย์ ซึ่งพระสงฆ์มีสิทธิได้รับการรักษาพยาบาลเช่นเดียวกับประชาชนทั่วไป สามารถใช้สิทธิรับบริการทางการแพทย์ได้หมด ไม่มีค่าใช้จ่ายรวมทั้งกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินก็เข้ารับบริการได้ทุกที่
รองเลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า การใช้สิทธิเข้ารับบริการทางการแพทย์ของกลุ่มพระสงฆ์สามารถเข้ารับบริการได้เลย ถ้าเป็นสิทธิบัตรทอง ระบบจะลงทะเบียนหน่วยบริการประจำให้อัตโนมัติตามทะเบียนบ้าน แต่ส่วนใหญ่พระสงฆ์จะไปบวชหรือจำวัดที่ต่างจังหวัด ดังนั้นจึงต้องย้ายสิทธิไปอยู่หน่วยบริการใหม่ ซึ่งการย้ายสิทธิไม่ได้ยุ่งเพียงนำบัตรประชาชน เลขที่วัด หรือเอกสารที่รับรองว่าจำวัดอยู่ที่ไหนไปยื่นที่หน่วยบริการ เพียงวันเดียวก็ใช้สิทธิได้แล้ว ซึ่งในระยะ 1-2 ปีมานี้ สปสช. ร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติสำรวจข้อมูลพระสงฆ์ทั่วประเทศว่าพระรูปไหนจำวัดที่ไหนบ้าง รวมทั้งช่วยลงทะเบียนหน่วยบริการประจำให้ดังนั้น ในปัจจุบันนี้พระสงฆ์ส่วนใหญ่ที่มีเลข 13 หลัก จึงมีรายชื่อผูกกับหน่วยบริการหรือโรงพยาบาลใกล้วัดเรียบร้อยแล้ว หากเจ็บป่วยสามารถนำบัตรประชาชนไปยืนรับบริการได้
“นอกจากการพัฒนาการเข้าถึงบริการในกลุ่มพระสงฆ์แล้วด้านการส่งเสริมถวายความรู้ด้านการดูแลสุขภาพและระบบสุขภาพ สปสช.ยังร่วมมือกับภาคีเครือข่ายอื่นๆ ในการขับเคลื่อนหลายโครงการ เริ่มจากภาพใหญ่อย่างการจัดทำธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ การจัดตั้งศูนย์หลักประกันสุขภาพวิถีพุทธ 65 แห่ง เพื่อทำหน้าที่สื่อสารให้ความรู้ความเข้าใจระบบหลักประกันสุขภาพและการเข้าถึงสิทธิแก่ภิกษุสามเณร รวมทั้งวัดบางแห่งคณะสงฆ์กิช่วยกระจายความรู้เหล่านี้แก่ประชาชนในพื้นที่” ภญ.ยุพดี กล่าว