หนุนคนไทยมีลูก ปรับแผนหวังเพิ่มการเกิด
ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด
แฟ้มภาพ
อัตราการเกิดของประชากรไทย มีแนวโน้มลดลง ดังนั้นเพื่อให้มีการเกิดเพิ่มมากขึ้น จึงได้มีการผลักดันให้ภาวการณ์มีบุตรยาก เป็นสิทธิประโยชน์ขั้นพื้นฐานของหญิงวัยเจริญพันธุ์
นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาอนามัยเจริญพันธุ์แห่งชาติ ครั้งที่ 1/2563 เห็นชอบในหลักการข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย เพื่อส่งเสริมการเกิดและการเจริญเติบโตอย่างมีคุณภาพ ได้แก่ 1.การเพิ่มสิทธิประโยชน์การตรวจคัดกรองสุขภาพ ก่อนมีบุตรให้ประชาชนทุกสิทธิ โดยเพิ่มการตรวจคัดกรองการติดเชื้อซิฟิลิส (VDRL) ให้กับคู่รักที่วางแผนมีบุตร หรือตามพฤติกรรมเสี่ยงและดุลพินิจของแพทย์ เนื่องจากซิฟิลิสมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 0.04 ในปี 2555 เป็นร้อยละ 0.41 ในปี 2562
เนื่องจากแม่ที่ติดเชื้อซิฟิลิสสามารถแพร่เชื้อสู่ลูก โดยในปี 2562 พบว่า มีเด็กป่วยโรคซิฟิลิสตั้งแต่กำเนิด 509 ราย ทำให้เด็กเติบโตช้า พิการแต่กำเนิด คลอดก่อนกำหนดหรือเสียชีวิต ซึ่งการตรวจเมื่อตั้งครรภ์จะช้าเกินไป และเสียค่าใช้จ่ายในการรักษามากกว่าการคัดกรองก่อนตั้งครรภ์
2.จากการศึกษาอัตราการเกิดของประชากรไทย พบว่าลดลงจาก 766,370 คน ในปี 2553 เหลือ 618,193 คน ในปี 2562 ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ คือ ปีละ 700,000 คน เนื่องจากทัศนคติการมีบุตรเปลี่ยนไป และส่วนหนึ่งเกิดจากภาวะการมีบุตรยาก ดังนั้นเพื่อให้มีการเกิดเพิ่มมากขึ้น จึงได้ผลักดันให้ภาวการณ์มีบุตรยาก เป็นสิทธิประโยชน์ขั้นพื้นฐานของหญิงวัยเจริญพันธุ์ โดยควรได้รับการรับรองว่าเป็นโรค และมีสิทธิในการลาป่วย เพื่อเข้าถึงการรักษา รวมถึงควรให้สิทธิการตรวจคัดกรองภาวะมีบุตรยาก
หากพบก็นำเข้าสู่กระบวนการรักษาได้เร็วขึ้น เป็นอีกแนวทางที่จะช่วยเพิ่มการเกิดของประชากร ซึ่งจะมีการพิจารณารายละเอียดรูปแบบและสิทธิอีกครั้ง โดยคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนสูงสุด ให้ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมจัดทำแผนปฏิบัติการ และให้คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์ฯ พิจารณาดำเนินการ เพื่อให้บรรลุตามข้อเสนอแนะต่อไป