หนุนขับเคลื่อนมัสยิดปลอดบุหรี่ต้นแบบ

ที่มา : สำนักข่าวสร้างสุข


 หนุนขับเคลื่อนมัสยิดปลอดบุหรี่ต้นแบบ thaihealth


แฟ้มภาพ


สสส. เดินหน้า “โครงการพหุวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาวะคนใต้” เปิดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ขับเคลื่อน “มัสยิดปลอดบุหรี่ต้นแบบ” และกิจกรรม "ละหมาดสร้างปัญญา" สร้างเครือข่ายเข้มแข็ง เสริมคุณภาพชีวิตมุสลิมไทย ห่างไกล บุหรี่ เหล้าและอุบัติเหตุ


เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2562 นางสาวทัศนีย์ ศิลปบุตร คณะกรรมการบริหารแผนคณะที่ 1 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ลงพื้นที่มัสยิดนูรุลยากีนบ้านดุหุน และมัสยิดบ้านทุ่งขี้เหล็ก อ.สิเกา จ.ตรัง เพื่อศึกษาเรียนรู้พื้นที่ต้นแบบด้านการจัดการความปลอดภัยเชิงบูรณาการประเด็นบุหรี่ เหล้า และอุบัติเหตุ ภายใต้ “โครงการพหุวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาวะคนใต้” พร้อมเปิดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ แนวทางการขับเคลื่อนมัสยิดปลอดบุหรี่ต้นแบบ และการละหมาดสร้างปัญญาลดปัญหาบุหรี่ เหล้า และอุบัติเหตุ


 หนุนขับเคลื่อนมัสยิดปลอดบุหรี่ต้นแบบ thaihealth


โดยนางสาวทัศนีย์ กล่าวว่า สถานการณ์การบริโภคยาสูบของประชากรไทย พบว่ามีอัตราการสูบบุหรี่ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยผลการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติในปี 2560 มีประชากรสูบบุหรี่ทั้งสิ้น 10.7 ล้านคน หรือร้อยละ 19.1 เป็นเพศชายร้อยละ 37.7 และเพศหญิงร้อยละ 1.7 เพศชายมีอัตราการสูบบุหรี่สูงกว่าเพศหญิง 22 เท่า เมื่อพิจารณาตามสภาพทางภูมิศาสตร์ภาคใต้มีอัตราการสูบบุหรี่สูงสุดร้อยละ 24.5 รองลงมาคือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยละ 21.1ภาคกลาง 17.6 ภาคเหนือ 17.1และกรุงเทพฯ 15.4 ขณะที่จากการสำรวจพฤติกรรมการบริโภคยาสูบในกลุ่มมุสลิมไทย พบว่ามีอัตราการบริโภคยาสูบและค่าใช้จ่ายเพื่อการบริโภคยาสูบสูงถึงปีละ 1,272 บาท / ครัวเรือน สูงกว่าค่าเฉลี่ยประชากรทั่วไปร้อยละ 15 หรือปีละ 1,092 บาท/ครัวเรือน


จากสถานการณ์ดังกล่าว สสส. ตระหนักถึงความสำคัญของการควบคุมการบริโภคยาสูบในภาคใต้ จึงได้ร่วมกับเครือข่ายคนเห็นคน มูลนิธิเครือข่ายพลังสังคม และเครือข่ายงดเหล้าจังหวัดตรัง จัดโครงการ “พหุวัฒนธรรมร่วมลดปัจจัยเสี่ยงหลักต่อสุขภาพและสังคมเพื่อสุขภาวะคนใต้” เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงและสร้างเสริมสุขภาวะในกลุ่มชาวมุสลิม


นาวสาวทัศนีย์ กล่าวต่อว่า สสส. สนับสนุนการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการลดปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ ในกลุ่มผู้นำศาสนาอิสลามหรือปราชญ์ทางสังคม ดึงศักยภาพของคนในชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการทำงาน ทำให้เกิดโมเดลการทำงานใหม่ที่สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่เรียกว่า "ละหมาดสร้างปัญญา" เป็นการปรับใช้หลักศาสนามาใช้เป็นมาตรการของชุมชน เน้นการผสมผสานวิถีวัฒนธรรม และหลักคำสอนศาสนา อาทิ คำสอนพระคำภีร์ และการบรรยายธรรมหลังการละหมาด เพื่อทำให้ชาวมุสลิมมีสุขภาวะที่ดีขึ้น โดยการสร้างความตระหนักถึงผลกระทบจากการสูบบุหรี่ ทำให้เกิด “มัสยิดปลอดบุหรี่ต้นแบบ” และสนับสนุนให้เด็กเยาวชนเข้ามัสยิดแทนที่การเฉลิมฉลองนอกมัสยิด ทำให้อัตราการเกิดอุบัติเหตุลดลง ซึ่งปัจจุบันขยายมัสยิดปลอดบุหรี่ไปถึง 50 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่ทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้


 หนุนขับเคลื่อนมัสยิดปลอดบุหรี่ต้นแบบ thaihealth


 หนุนขับเคลื่อนมัสยิดปลอดบุหรี่ต้นแบบ thaihealth


​นางไพรัช วัฒนกุล ผู้ประสานงานโครงการพหุวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาวะคนใต้ กล่าวว่า งานมัสยิดต้นแบบปลอดบุหรี่ เป็นโครงการที่พัฒนามาจากโครงการมัสยิดลดอุบัติเหตุปีใหม่สงกรานต์ ที่เห็นผลลัพธ์ในการลดอุบัติเหตุทางถนนของอำเภอที่เข้าร่วมโครงการ จึงขยายผลมาสู่งานควบคุมบุหรี่ในพื้นที่มัสยิด ผ่านโมเดลการทำงานวิถีวัฒนธรรม หลักศาสนา เช่น คำสอนพระคำภีร์ และการบรรยายธรรมหลังการละหมาด เป็นต้น ซึ่งมัสยิดนูรุลยากีนบ้านดุหุน และมัสยิดบ้านทุ่งขี้เหล็ก ถือเป็นมัสยิดต้นแบบปลอดบุหรี่ที่เห็นเป็นรูปธรรมในทุกมิติ สะท้อนถึงความมีศักยภาพและความเข้มแข็งของคนในพื้นที่ จึงนำไปสู่ประเด็นควบคุมปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพอื่น ๆ เช่น เหล้า บุหรี่และสามารถเป็นต้นแบบให้แก่พื้นที่อื่น ๆ มาเรียนรู้ได้


 หนุนขับเคลื่อนมัสยิดปลอดบุหรี่ต้นแบบ thaihealth


อัญญีดิเรก สมันหลี โต๊ะอิหม่ามมัสยิดนูรุลยากีนบ้านดุหุน กล่าวว่า ตนเลิกบุหรี่มาแล้วกว่า 5 ปีและได้นำแนวคิดมัสยิดปลอดบุหรี่มาใช้กับมัสยิดนูรุลยากีนบ้านดุหุน โดยการจัดการสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการสร้างสุขภาวะใช้หลัก “ฮะรอม” หรือ กฎบัญญัติห้ามที่มุสลิมทุกคนต้องละเว้นเมื่อเข้ามาละหมาด หรือมาเรียนศาสนาในมัสยิด ต้องห้ามสูบบุหรี่ เพราะบุหรี่เป็นของไม่ดีต่อสุขภาพ และได้เพิ่มการสอนศาสนาให้มีวันเรียนเต็มทั้งสัปดาห์ ทำให้ผู้ที่เข้ามามัสยิดต้องปฏิบัติตาม นอกจากนี้ยังได้นำเอาวิถีวัฒนธรรม หลักศาสนา เช่น คำสอนพระคัมภีร์และการบรรยายธรรมหลังการละหมาดมาช่วยในการควบคุมปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพอื่น ๆ อย่างได้ผล

Shares:
QR Code :
QR Code