หนุนกิจกรรมภาวนา พัฒนาสุขภาวะคาทอลิกไทย
คณะฯ คาทอลิกสัมมนามหาพรตเชื่อมกิจกรรมสวดมนต์สร้างปัญญา ยกเทศกาลทางศาสนาและการภาวนาสู่การรับใช้สังคม
เมื่อไม่นานมานี้ บ้านโอบรัก วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อการพัฒนา ร่วมกับ เครือข่ายประชาคมสร้างเสริมสุขภาวะ(คปสส.) ได้ประชุมหารือถึงร่าง “โครงการสร้างสุขด้วยปัญญาพัฒนาสุขภาวะคาทอลิกไทย” โดยมี พระสังฆราช(มุขนายก) ยอแซฟ ชูศักดิ์ สิริสุทธิ์ เป็นประธานเปิดการสัมมนา และมี พระมหาสมัย สมโย เจ้าอาวาสวัดป่าพระเจ้า จ.สุพรรณบุรี พระนักพัฒนา ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้การนำธรรมะและเทศกาลทางศาสนาเข้ามาประยุกต์สู่การลด ละ เลิกอบายมุข
นายประญัติ เกรัมย์ ผู้จัดการเครือข่ายประชาคมสร้างเสริมสุขภาวะ(คปสส.) กล่าวให้ข้อมูลว่า การมีนโยบายหนุนเสริมให้มีการทำกิจกรรมสวดมนต์สร้างปัญญาพัฒนาสุขภาวะของคาทอลิกในไทย ในช่วงเทศกาลมหาพรต ซึ่งเป็นช่วงเวลาของการฟื้นฟูชีวิตจิตใจเพื่อพัฒนาตนเอง เพื่อนมนุษย์ และรับใช้พระเจ้านั้น หากสภาพระสังฆราช 10 รูป ท่านเมตตารับไว้พิจารณาและไปหารือในเขตมิส ก็นับเป็นสิ่งที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง
“คำสอนในทุกศาสนาเป็นดั่งบ่อน้ำเย็นดับกระหายของเหล่าคนทุกข์ยากในโลกใบนี้ ตัวสถาบันทางศาสนาเอง และคณะสงฆ์จึงเปรียบเสมือนเป็นเจ้าของบ่อน้ำทิพย์นั้น ดังนั้น การได้เปิดใจและสานสัมพันธ์เชื่อมงานในลักษณะนี้ นับเป็นบทบาทของศาสนาที่มีหน้ารับใช้มนุษย์ มีความสำคัญในฐานะทุนทางศาสนา ที่จะนำพาหัวใจรักเพื่อนมนุษย์ให้สัมผัสสุขทั้งทางกายและใจ”
ด้าน นายนพรัตน์ คาริตัสไทยแลนด์ ให้ความเห็นว่า นับเป็นบันทึกหน้าใหม่ของประวัติศาสตร์การสัมมนามหาพรตคาทอลิกที่มีพระสงฆ์ในพุทธศาสนาและวิทยากรที่มีประสบการณ์โดยตรงจากภายนอก เข้ามาร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้และจุดประกายความคิดดีๆ ในการนำเอาคุณค่าของธรรมะและโอกาสในเทศกาลสำคัญทางศาสนามาประยุกต์ใช้เพื่อลด ละ เลิกจากสิ่งไม่ดี และสร้างความดีให้เป็นรูปธรรม หวังว่าผลความสำเร็จในการจัดประชุมเพื่อร่างโครงการฯ นี้ จะทำให้คาทอลิกไทยได้เป็นส่วนหนึ่งของสำนักงานองค์กรเครือข่ายงดเหล้าและภาคีทุกศาสนา ในการทำโครงการเพื่อสร้างเครือข่ายแห่งธรรมะที่นำไปสู่ความดีผ่านกิจกรรมการสวดมนต์ภาวนาต่อไปด้วย
สอดคล้องกับเสียงของคณะร่างโครงการฯ ทั้ง 5 พื้นที่ ประกอบด้วย นายบุญนิธิ นามบุญ จ.อุบลราชธานี นายอดุลย์ ตระกูลมา จ.สกลนคร นายนิราศ ศิริชัย จ.อุดรธานี นายวิเชียร สุขตาม จ.นครราชสีมา นางวิชภา หลวงจอก จ.ราชบุรี นางนิตย์ มือแป จ.ตาก และหัวหน้าครูคำสอนปกาเกอะญอ ที่เห็นตรงกันว่า โครงการฯ นี้จะเป็นการมุ่งส่งเสริมให้เกิดการสวดมนต์ภาวนาแบบคาทอลิก ที่มิใช่แค่การสวดแบบพร่ำเพรื่อ หรือท่องบ่นอย่างน่าเบื่อ แต่เป็นการสวดมนต์ภาวนาที่นำไปสู่ความสุขในระดับบุคคล และพร้อมที่จะลุกขึ้นมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตนเอง เพื่อนำความสุขที่เกิดขึ้นในจิตใจนี้ ส่งต่อให้กับครอบครัว ชุมชนคาทอลิกตลอดจนทุกคนในสังคมต่อไป
ปิดท้ายที่ พระมหาสมัย สมโย เจ้าอาวาสวัดป่าพระเจ้า จ.สุพรรณบุรี กรรมการพระสงฆ์นักพัฒนาเพื่อสังคมควบคุมปัจจัยเสี่ยงภาคกลาง ที่ได้เข้าร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับคาทอลิกในการสัมมนาครั้งนี้ เล่าเพิ่มเติมถึงการจัดทำโครงการงดเหล้าฯ ที่ผ่านมาว่า บทเรียนความสำเร็จต่อการนำคุณธรรมและธรรมะทางพระพุทธศาสนามาประยุกต์ใช้ในการลด ละ เลิกสุราและอบายมุข จนเกิดเป็นงานรูปธรรมทั้งวัดและชุมชนนั้น มาจากแนวนโยบายการทำงานที่เรียกว่า "รัตนโมเดล" ซึ่งเป็นการบูรณาการในการนำเอาธรรมะและเทศกาลสำคัญทางศาสนามาเป็นเครื่องมือในการชวนคนลด ละ เลิก สุราและอบายมุข แล้วหันมาทำความดี
“กระบวนการหรือปัจจัยที่นำไปสู่ความสำเร็จได้อย่างน่าอัศจรรย์ ซึ่งน่าจะตรงกับปรัชญาของเทศกาลมหาพรต คือ กิจกรรมศรัทธา 3 เส้า ได้แก่ 1)การภาวนาคือ เปิดใจต่อการรับใช้พระเจ้าในการทำดีต่อเพื่อนมนุษย์ 2)ถือศีลคือ ปิดใจจากสิ่งสร้างให้เกิดความลังเล ฟุ่มเฟือย ท้อถอย 3)ให้ทานคือ เปิดใจสร้างวิธีการหลากหลายในการเผื่อแผ่หวังดีต่อเพื่อนมนุษย์” เจ้าอาวาสวัดป่าพระเจ้า กล่าวทิ้งท้าย
รายงานโดย : คณะทำงานโครงการสวดมนต์สร้างปัญญาพัฒนาสุขภาวะ