‘สุขโขไทย’ นิทรรศการรวมความสุข 50 คนไทย

ตามหลักคำสอนของพุทธศาสนา "ความสุข" จะเกิดขึ้นเมื่อมีความสงบในจิตใจเสียก่อน การจะเข้าถึงความสงบได้ต้องลดละกิเลสความอยากให้เบาบางลงได้ การเริ่มต้นนับหนึ่งเพื่อเดินทางไปสู่คความสงบในใจให้ได้นั้นหากหันกลับมามองในหน้าที่การงานที่ทำด้วยความรัก มุ่งมั่นตั้งใจ มีศรัทธาแห่งอาชีพ เหล่านี้ก็คือความสุขที่หมุนรอบตัวอยู่ในทุกๆ คน


'สุขโขไทย' นิทรรศการรวมความสุข 50 คนไทย thaihealth


แฟ้มภาพ


ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.)ได้นำไปสัมผัสแนวคิดที่น่าเหลือเชื่อว่า ยังมีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่ยังมีรอยยิ้มกับสิ่งรอบตัวได้ แม้ว่าในมุมมองของคนอื่น ชีวิตของพวกเขาเหล่านี้เป็นเพียงความธรรมดาสามัญ เพียงแต่สิ่งมีค่าในการดำเนินชีวิตของพวกเขา นั่นคือมุมมองและทัศนคติ ผ่านนิทรรศการ "สุขโขไทย" นิทรรศการหมุนเวียนที่รวบรวมภาพถ่าย 50 คนไทยหัวใจสุข ทั่วประเทศ


อย่างภาพถ่ายของ กนิษฐา รัตนสินธุ์ อาชีพล่ามภาษามือ อายุ 52 ปี ผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการล่ามภาษามือในสถานีวิทยุโทรทัศน์ช่องต่างๆ มากมาย เป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตาทั้งการเป็นล่ามในการประชุมระดับประเทศจนถึงล่ามในรายการข่าวต่างๆ เธอเล่าว่า ล่ามที่ดีนั้นควรเป็นผู้แปลอารมณ์และความรู้สึกของผู้พูดด้วย ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ความเจ็บปวด ดีใจ เสียใจ "มีความภูมิใจสูงสุด คือการที่คนหูหนวกยอมรับเราให้เป็นที่หนึ่งของล่ามในใจเขา"


"ตั้งใจว่าจะทำงานกลางทะเลอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าร่างกายจะไม่ไหว ผมมีความสุขที่ได้ทำงาน" คือคำบอกเล่าความสุขของ วิรัตน์ แซ่เฮา อายุ 65 ปี อาชีพคนขับเรือ พื้นเพเป็นคน จ.สุราษฎร์ธานี ที่เริ่มหัดขับเรือตั้งแต่อายุ 12-13 ปี ก่อนจะเป็นกระเป๋าเรือเมล์และเลื่อนขั้นเป็นคนขับเรือในที่สุด วิรัตน์เล่าว่าตลอดการขับเรือของตนไม่เคยประสบอุบัติเหตุเลยสักครั้ง นั่นเพราะเขาใส่ใจกับความปลอดภัยของผู้โดยสาร และตั้งอยู่บนความไม่ประมาท


อีกหนึ่งตัวแทนความสุขที่อยู่ในนิทรรศการ "สุขโขไทย" คือความสุขของ ชโลทัย ฐาปาวงศ์ นักโบราณคดี แหล่งโบราณคดีหนองราชวัตร จ.สุพรรณบุรี สาวน้อยวัย 25 ปี ที่หลงใหลใน ประวัติศาตร์ เธอเล่าว่าคนส่วนใหญ่คิดว่านักโบราณคดีนั้นเหมือนภาพยนตร์ อินเดียน่า โจนส์ แต่จริง ๆ แล้ว นักโบราณคดี คือผู้ศึกษาภูมิปัญญาของคนในรุ่นก่อน ๆ ผ่านจดหมายเหตุ ซากปรักหักพัง ในการค้นคว้าแต่ละแห่งจะต้องมีการคำนวณ วางแผน ส่งผลให้พบข้อมูลใหม่ ๆ มากมาย ที่สามารถบอกเล่าเรื่องราวและความเป็นมากว่าจะเป็นคนในยุคปัจจุบัน การค้นหาในแต่ละที่ก็ไม่เหมือนกัน นั่นคือความสุขและความสนุกที่จะต้องคอยลุ้นทุกวันว่าจะพบอะไร  เพื่อเก็บรักษาภูมิปัญญาของคนในอดีตไม่ให้สูญหายไปกับกาลเวลานั่นเอง


สนธยา ทองดี คืออีกหนึ่งตัวแทนที่มาร่วมถ่ายทอดความสุขจากการเป็นพี่เลี้ยงนักมวย N&P Boxing Gym&P.Pao-in ในวัย 38 ปี ที่ต้องเริ่มฝึกหัดนักมวยตั้งแต่เริ่มหัดต่อยไปจนถึงสามารถขึ้นเวทีได้ ซึ่งสนธยามีเคล็ดลับการสอน คือ การเก็บตัว การบริโภคอาหารให้ครบถ้วนตามที่ร่างกายต้องการ การมีวินัยในการฝึกซ้อม


"ผมจะสอนนักมวยทุกคนให้ทำตามคำสอนพ่อหลวง คือไม่ต้องรีบ ไม่ต้องคิดถึงเงินมาก แค่ขยันตั้งใจซ้อม ทุกอย่างจะมาเอง" นี่คือความสุขของสนธยา


ส่งท้ายด้วยความสุขของ น.ท.มณีพันธ์ รบชนะชัย นักบินโครงการฝนหลวง หัวหน้านักบิน 1 เครื่องยนต์ กรมฝนหลวงและการบินเกษตร วัย 58 ปี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นทหารอากาศผู้รักการบิน เมื่อมียศสูงขึ้นจึงได้บินน้อยลง ทำให้เขาหันมาใช้ความสามารถทางการบินรับใช้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในโครงการฝนหลวง ที่นอกจากจะเป็นความสุขเหนือสิ่งอื่นใดแล้ว ยังท้าทายความสามารถของเขาอีกด้วย เนื่องจากการบินในโครงการฝนหลวงนั้นแตกต่างจากการบินทั่วไป คือต้องบินเข้าไปในกลุ่มเมฆซึ่งอันตรายมาก แต่หากมีความชำนาญก็จะสามารถสร้างฝนหลวงให้ตกในพื้นที่การเกษตรของประชาชน หรือพื้นที่แห้งแล้งที่รอความช่วยเหลือ ซึ่ง น.ท.มณีพันธ์ กล่าวว่า "เราเป็นเหมือนฟันเฟืองเล็ก ๆ ที่สนองพระราชดำริของพระองค์ที่อยากให้พสกนิกรมีความสุข"


นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งของนิทรรศการ "สุขโขไทย" ที่ยังมีอีกหลายเรื่องราวความสุขของคนไทยหลายอาชีพ ทั้งชาวนา ชาวสวน ช่างภาพ นักเรียน นักร้อง ไปจนถึงผู้ประกาศข่าว เพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการมองหาความสุขในชีวิตประจำวัน


ผู้สนใจสามารถเดินทางไปชมนิทรรศการหมุนเวียนชุด "สุขโขไทย" และแวะชมนิทรรศการถาวร ชุด "การเรียนรู้สุขภาวะ" ได้ที่ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ ซอยงามดูพลี ถนนพระราม 4 (เปิดแสดงวันอังคาร-วันเสาร์) รายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.thaihealthcenter.org


 


 


ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

Shares:
QR Code :
QR Code