สุขภาพ คือ เรื่องสำคัญ ดูแลทุกวันทั้งกาย-ใจ
เรื่องโดย ปัญจวรา บุญสร้างสม Team Content www.thaihealth.or.th
หากพูดถึงพระเอกหนุ่มหล่อ คมเข้ม สูงโปร่ง มีไลฟ์สไตล์ เชื่อว่าอย่างไรนักแสดงหนุ่มคนนี้ก็ต้องติดโผเป็นอันดับต้น ๆ อย่างแน่นอน เคล็ดลับคนดังสุขภาพดีฉบับนี้ จะพาไปทำความรู้จักกับนักแสดงหนุ่มมากความสามารถแห่งช่อง 7HD อย่างหนุ่ม บิ๊กเอ็ม กฤตฤทธิ์ บุตรพรม พระเอกหนุ่มสุดฮอตมาแรงแห่งยุคสมัย ที่ครองใจเหล่าแฟนคลับทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่อยู่ ณ ขณะนี้
เมื่อถามถึงเคล็ดลับการดูแลสุขภาพร่างกาย พระเอกหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและจริงจังให้ฟังว่า “ตนเองเป็นคนที่ดูแลสุขภาพในทุกด้านอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารการกิน การพักผ่อน รวมทั้งการออกกำลังกาย แต่หลัก ๆ จะเน้นไปที่เรื่องของการพักผ่อนเป็นหลัก เพราะด้วยความที่เป็นนักแสดงจะไม่ค่อยมีเวลาพักผ่อนมากเท่าไรนัก บางครั้งก็ทำงานไม่เป็นเวลาบ้าง นอนดึกบ้าง เพราะฉะนั้นการพักผ่อนจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ช่วงไหนที่ทำงานหนัก ๆ เมื่อมีวันหยุด ก็จะนอน พักผ่อนให้เต็มที่”
“ส่วนเรื่องอาหาร ก็จะเลือกรับประทานอาหารที่หวานน้อย และเน้นการรับประทานผลไม้ โดยเฉพาะน้ำผลไม้สกัดเย็น ซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่ชื่นชอบเป็นพิเศษ จนถึงขนาดซื้อเครื่องมาไว้ทำรับประทานเองที่บ้าน เพราะการดื่มน้ำผลไม้สด ๆ นั้น จะทำให้ได้รับวิตามินจากผัก ผลไม้ มากกว่าการรับประทานน้ำผลไม้สำเร็จรูป ซึ่งช่วยในเรื่องของสุขภาพ เสริมภูมิคุ้มกัน รวมทั้งบำรุงผิวพรรณอีกด้วย” นักแสดงหนุ่มกล่าว
ส่วนเรื่องการออกกำลังกายบิ๊กเอ็มเล่าถึงกีฬาที่ชื่นชอบให้ฟังว่า “ช่วงที่เป็นวัยรุ่นชอบเล่นบาสเกตบอลมาก โดยจะเล่นทุกวันหลังลิกเรียน เลยมีส่วนช่วยทำให้ตัวสูง แต่พอโตขึ้น ก็ไม่ค่อยมีเวลาได้เล่นเท่าไร ช่วงนี้จะเน้นการออกกำลังกายที่บ้านมากกว่า โดยจะพยายามออกกำลังกายให้ได้อาทิตย์ละ 4-5 วัน แต่ถ้าช่วงไหนไม่ค่อยมีเวลา อย่างน้อยก็จะพยายามออกกำลังกายให้ได้อาทิตย์ละ 3 วัน”
ในส่วนของการดูแลสุขภาพจิต บิ๊กเอ็มเล่าว่า “โดยส่วนตัวแล้วเป็นคนชื่นชอบทำกิจกรรมเอาต์ดอร์ เช่น ไปแคมป์ปิง ขี่มอเตอร์ไซค์ หรือแค่ได้ขับรถออกไปข้างนอก ฟังเพลงไปเรื่อย ๆ ก็ทำให้รู้สึกมีสมาธิมากขึ้นแล้ว เพราะการขับรถต้องโฟกัสกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า การได้เห็นสิ่งแวดล้อม ผู้คน ก็ช่วยให้รู้สึกสบายใจมากขึ้น นอกจากนี้ การดูหนัง และฟังเพลงก็เป็นกิจกรรมที่ช่วยทำให้ผ่อนคลาย ลืมความเครียด ความทุกข์ที่เกิดขึ้นได้เช่นกัน”
บิ๊กเอ็มเล่าต่อว่า “เวลามีปัญหา หรือความเครียด จะรับมือด้วยการเข้าหาธรรมชาติ ออกไปใช้ชีวิต ไปดูสัตว์ป่า ดูสีเขียวของต้นไม้ แล้วค่อยกลับมาดำเนินชีวิตตามปกติต่อ โดยจะเลือกสถานที่ที่มีความสงบ อากาศดี ๆ และเดินทางไปคนเดียว เอาความรู้สึกไม่สบายใจ ไปปลดปล่อยกับธรรมชาติ”
ส่วนงานอดิเรกที่ชอบทำยามว่าง บิ๊กเอ็มเล่าว่า “ตนเป็นคนชอบร้องเพลง และดูศิลปินแสดงบนเวทีมาก โดยจะนำสิ่งที่ได้จากการดูไปปรับใช้กับการแสดงให้เข้ากับตัวละครที่ตนได้รับบทบาท การร้องเพลง เป็นงานศิลปะ ที่ช่วยปลดปล่อยความรู้สึก และความเป็นตัวเองออกมา นอกจากนี้ ยังชื่นชอบการถ่ายภาพและการวาดภาพด้วย โดยส่วนตัวแล้วมีความรู้สึกว่าภาพถ่ายเป็นเหมือนไทม์แมชชีนที่สัมผัสได้จริง เป็นสิ่งที่ช่วยบันทึกความทรงจำ และจับต้องได้ ไม่ว่าจะกลับมาดูเมื่อไร ความรู้สึกในช่วงเวลานั้นก็จะชัดเจนอยู่เสมอ”
สำหรับการดูแลสุขภาพร่างกายในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 บิ๊กเอ็มบอกว่า “ตนเองเป็นบุคคลที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงบ่อยมาก แต่ก็สามารถรอดจากการติดเชื้อมาได้หลายครั้ง โดยส่วนตัวแล้วเป็นคนที่รักษาความสะอาด และใช้สเปรย์แอลกอฮอล์เยอะมาก โดยเฉพาะเวลาไปเข้าห้องน้ำสาธารณะ ก็จะฉีดเสมอทั้งตามลูกบิดประตู และบริเวณจุดเสี่ยงต่าง ๆ ส่วนหน้ากากอนามัยก็จะเปลี่ยนทุกวัน ไม่ใช้ซ้ำ เมื่อกลับถึงบ้าน ก็จะรีบอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าทันที และสิ่งสำคัญอีกอย่างก็คือ การฉีดวัคซีนให้ครบโดส ซึ่งตอนนี้ตนก็ฉีดครบเรียบร้อยแล้ว”
บิ๊กเอ็มฝากทิ้งท้ายถึงคนไทยและแฟนคลับของเขาว่า “ตอนนี้ทุกคนน่าจะสามารถปรับตัวได้แล้วกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่อยากให้ทุกคนดูแลสุขภาพให้ดี พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อป้องกันไม่ให้ภูมิคุ้มกันร่างกายตก เพราะสุขภาพเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ สำคัญกว่าเงินทองของนอกกาย การไม่มีโรคภัยไข้เจ็บคือ สิ่งที่ดีที่สุด อยากให้ดูแลทั้งสุขภาพของตนเอง และสุขภาพของคนในครอบครัว คนที่เรารัก เพื่อที่จะสามารถก้าวผ่านเรื่องราวต่าง ๆ ไปด้วยกันได้อย่างมีสุขภาวะทั้งกายและใจ”
ไม่ว่าจะอีกกี่ปัญหา เราทุกคนก็จะสามารถก้าวผ่านไปได้ด้วยสุขภาพกาย-ใจที่แข็งแรง สสส. สนับสนุนแนวคิด “ป้องกัน” ก่อน “รักษา” เน้นให้คนไทยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่ทำลายสุขภาพ ควบคู่ไปกับการดำเนินชีวิตแบบวิถีใหม่ เตรียมพร้อมกาย-ใจรับมือกับทุกวิกฤต ก้าวสู่วิถีชีวิตสุขภาวะอย่างยั่งยืน