สิทธิเบิกเงินคลอดบุตร

 

ผู้ประกันตนมีสิทธิเบิกค่าคลอดบุตรได้เมื่อจ่ายเงินสมทบครบ 7 เดือน ภายใน 15 เดือนก่อนเดือนคลอดบุตร จึงมีสิทธิเบิกค่าคลอดบุตรได้ในอัตรา 13,000 บาทต่อการคลอดบุตร 1 ครั้ง

นายอารักษ์ พรหมณี รองเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม(สปส.)ในฐานะโฆษก สปส. กล่าวถึงการใช้สิทธิประโยชน์ทดแทนของผู้ประกันตนกรณีคลอดบุตร ในปี 2555 ว่า มีผู้ประกันตนมาใช้สิทธิคลอดบุตรจำนวน 300,075 ราย แบ่งเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 จำนวน 246,566 ราย คิดเป็นร้อยละ 82.17 ของผู้ประกันตนที่ใช้สิทธิกรณีคลอดบุตร และจ่ายเงินประโยชน์ทดแทนกว่า 5,598 ล้านบาท และเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 จำนวน 53,509 ราย คิดเป็นร้อยละ 17.83 ของผู้ประกันตนที่ใช้สิทธิกรณีคลอดบุตร และจ่ายเงินประโยชน์ทดแทนกว่า 1,028 ล้านบาท ทั้งนี้ รวมแล้ว สปส. จ่ายประโยชน์ทดแทนกรณีคลอดบุตรทั้งสิ้นกว่า 6,627 ล้านบาท

นายอารักษ์ กล่าวว่า ผู้ประกันตนมีสิทธิเบิกค่าคลอดบุตรได้เมื่อจ่ายเงินสมทบครบ 7 เดือน ภายใน 15 เดือนก่อนเดือนคลอดบุตร จึงมีสิทธิเบิกค่าคลอดบุตรได้ในอัตรา 13,000 บาทต่อการคลอดบุตร 1 ครั้ง โดยผู้ประกันตนหญิงมีสิทธิรับเงินสงเคราะห์การหยุดงานเพื่อการคลอดบุตรเหมาจ่ายในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างเฉลี่ยเป็นระยะเวลา 90 วัน และกรณีสามีและภรรยาเป็นผู้ประกันตนทั้งคู่ให้ใช้สิทธิในการเบิกค่าคลอดบุตร รวมกันได้ไม่เกิน 4 ครั้งโดยแต่ละคนมีสิทธิเบิกได้คนละ 2 ครั้ง

“เงินสมทบ 4 กรณี ได้แก่ เจ็บป่วย ทุพพลภาพ คลอดบุตร และตายรวมกว่า 19,292 ล้านบาท เป็นเงินสมทบผู้ประกันตนมาตรา 33 กว่า 18,424 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 95.50 และผู้ประกันตนมาตรา 39 กว่า 867 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 4.50 ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาอัตราประโยชน์ทดแทนกรณีคลอดบุตรต่อเงินสมทบ 4 กรณี พบว่า การจ่ายประโยชน์ทดแทนสูงกว่าเงินสมทบที่รับมาคิดเป็นร้อยละ 34.35”

นายอารักษ์ กล่าวว่า ส่วนกรณีเงินสงเคราะห์บุตรนั้น ผู้ประกันตนที่มีสิทธิเบิกเงินจะต้องจ่ายเงินสมทบครบ 12 เดือน ภายใน 36 เดือนก่อนเดือนที่มีสิทธิ  โดยเบิกได้ตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 ปีบริบูรณ์ เบิกได้มากสุดคราวละ 2 คนเป็นเงินคนละ 400 บาทต่อเดือน โดยสปส.จะโอนเข้าบัญชีจนกว่าบุตรอายุครบ 6 ปีบริบูรณ์ ซึ่งในปี 2555 มีผู้ประกันตนมาตรา 33 และ39 มายื่นขอเบิกเงินประโยชน์ทดแทนสงเคราะห์บุตร 1,297,860 คน รวมเป็นเงินกว่า 6,720 ล้านบาท

นายอารักษ์  กล่าวถึงกรณีที่ผู้ประกันตนร้องเรียนต่อสื่อมวลชนว่าได้ยื่นเรื่องขอเบิกเงินประโยชน์ทดแทนสงเคราะห์บุตรไว้ แต่เจ้าหน้าที่สปส.ทำเอกสารหายไป ทำให้เสียสิทธิเงินประโยชน์ทดแทนไปบางส่วนว่า เมื่อครบกำหนดตามที่เจ้าหน้าที่ สปส.แจ้งต่อผู้ประกันตนว่าเงินสงเคราะห์บุตรจะเข้าบัญชีธนาคาร ขอให้ผู้ประกันตนตรวจสอบว่ามีเงินดังกล่าวเข้าบัญชีตามกำหนดเวลาหรือไม่

อย่างไรก็ตาม สปส.จะปรับปรุงแนวปฏิบัติโดยให้เจ้าหน้าที่ สปส.จ่ายใบรับเอกสารหลักฐานให้แก่ผู้ประกันตน โดยใบรับดังกล่าวมีการระบุชื่อเจ้าหน้าที่ สปส. และกำหนดเวลาที่เงินสงเคราะห์บุตร จะเข้าบัญชีธนาคารของผู้ประกันตนในเดือนแรก รวมทั้งสปส.จะเก็บสำเนาต้นฉบับใบรับไว้เพื่อใช้เป็นหลักฐานตรวจสอบภายหลัง หากเกิดปัญหาเอกสารที่ผู้ประกันตนยื่นไว้หายไป

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน

Shares:
QR Code :
QR Code