สำรวจกะเทยไทย 4 เมืองท่องเที่ยว

 

 สำรวจกะเทยไทย 4 เมืองท่องเที่ยว

 

              สสส. ร่วมแผนงานสร้างเสริมสุขภาวะทางเพศ  และโครงการกะเทยไทยฯ เผยผลสำรวจกะเทยไทย  4 เมืองท่องเที่ยว  ชี้ถูกนำเสนอภาพผ่าน ความแปลก-ตัวตลก-นางงาม-ผู้ขายบริการทางเพศหวัง สื่อ-สังคมสะท้อนภาพกะเทยครบทุกมิติ เพื่อหนุนเสริมสิทธิมนุษยชนของกะเทย

 

              เมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) แผนสุขภาวะทางเพศ มูลนิธิสร้างความเข้าใจเรื่องสุขภาพผู้หญิง (สคส.) โครงการเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คณะศิลปศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ และโครงการกะเทยไทย: สื่อ สุขภาพ สิทธิ์และวิถีชีวิต จัดงานเสวนา สื่อมวลชนมีส่วนหนุนเสริมสิทธิมนุษยชนของกะเทยผ่านข้อค้นพบเกี่ยวกับภาพลักษณ์กะเทยผ่านสื่อใน 4 เมืองท่องเที่ยว ในกรุงเทพมหานคร พัทยา เชียงใหม่ และภูเก็ต จากมุมมองและประสบการณ์จากตัวแทน ชุมชนกะเทย และสื่อมวลชน ณ ห้องประชุม 301 ชั้น 3 คณะศิลปศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์

 

              ณัฐยา บุญภักดี ผู้จัดการแผนงานสร้างเสริมสุขภาวะทางเพศ ในแผนงานสสส.ให้สัมภาษณ์ว่า ในฐานะที่ทำงานเรื่องสุขภาวะทางเพศ ก็ต้องการให้คนทุกเพศทุกวัยมีสุขภาวะทางเพศที่ดีเท่ากัน ทั้งในแง่ความปลอดภัย และการอยู่อย่างมีความสุขโดยไม่ถูกเลือกปฏิบัติไม่ว่าจะอยูในเพศสภาพใด

 

               เมื่อพูดถึงเรื่องเพศ กลุ่มคนที่มักถูกเลือกปฏิบัติจากการตีกรอบทางสังคม มักเป็นกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ  กะเทยมักถูกกีดกันทำให้ใช้ชีวิตอยากลำบาก เช่น กะเทยหลายคนไม่ได้รับการยอมรับในอาชีพเหมือนคนทั่วไป ทำให้พวกเขาอาจถูกผลักให้ทำอาชีพที่เสี่ยงต่อการติดโรคต่างๆ เช่น ขายบริการทางเพศ เต้นอะโกโก้ หรือต้องดิ้นรนแต่งงานกับชาวต่างชาติ เพื่อให้ได้สิทธิมนุษยชนที่ดีขึ้น เราก็อยากให้สังคมมีความเข้าใจที่ถูกต้องกับคนทุกเพศทุกวัยว่า พวกเขาจะได้รับผลกระทบจากสิ่งที่สังคมตีกรอบไว้อย่างไรบ้าง ขณะเดียวกันก็สะท้อนให้เห็นว่า สังคมต้องสูญเสียทรัพยากรบุคคลที่มีค่าไป หากเราไม่สร้างความเข้าใจ และปรับเปลี่ยนทัศนคติที่ถูกต้องให้กับในสังคมในเรื่องกะเทย หรือสาวประเภทสองว่า เขาก็เป็นหนึ่งในสมาชิกของสังคม ที่ควรได้รับสิทธิเท่าเทียมคนทั่วไปณัฐยากล่าว

 

              ส่วน เปรมปรีดา ปราโมช ณ อยุธยา ผู้จัดการโครงการกะเทยไทย: สื่อ สุขภาพ สิทธิ์ และวิถีชีวิตให้สัมภาษณ์ว่าจากประสบการณ์ทำงานร่วมกับชุมชนกะเทย 4 เมืองท่องเที่ยว สิ่งที่พบคือ ภาพลักษณ์ของกะเทยมักถูกนำเสนอในมิติที่จำกัด ผ่านภาพตัวตลก นางงาม หรือผู้ขายบริการทางเพศ ทำให้สังคมเกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนต่อกะเทย จนบางครั้งอาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของชุมชนกะเทยในสังคมไทย

 

               อยากวิงวอนให้สื่อมวลชนทำความเข้าใจในความหลากหลายทางเพศ และนำเสนอภาพกะเทยในมิติอื่นๆ นอกเหนือจากภาพตัวตลกที่สร้างความขบขัน หรือการให้ความสำคัญกับกะเทยในเวทีความงาม อยากให้มองว่า พวกเขามีความสามารถในอาชีพอื่นๆ เช่น เป็นแพทย์ เป็นนักวิชาการ การที่กะเทยถูกนำเสนอเป็นตัวตลก ด้วยการนำนักแสดงชายมาแต่งหญิงนั้น ทำให้พวกเขาถูกล้อเลียนในสังคม ขณะเดียวกันกะเทยที่ได้รับการยอมรับในสังคมก็ไม่จำเป็นต้องพึ่งมีดหมอเพื่อให้สวย โดยเราอยากให้สื่อมวลชนช่วยกันทำความเข้าใจความหลากหลายในมิติต่างๆ ของกะเทยและนำเสนอให้รอบด้านมากขึ้นเปรมปรีดาอธิบาย

 

              ด้าน สันติสุข มะโรงศรี โปรดิวเซอร์และพิธีกรรายการ คนวงในช่อง 11 ในฐานะสื่อมวลชน กล่าวว่า สื่อมักมองว่า กะเทย หรือสาวประเพศสอง เป็นตัวละครที่ถูกนำเสนอว่าเป็นของแปลก แต่ไม่ได้นำเสนอความคิดของพวกเขาในฐานะที่เป็นคน เช่น ถ้ามีข่าวกะเทยถูกผู้ชายหลอก ก็จะถูกนำเสนอว่า กะเทยลุ่มหลงผู้ชาย แต่ไม่ได้นำเสนอว่า เขาก็เป็นคนธรรมดา มีความรักอย่างไรบ้าง บางครั้งเรามองพวกเขาไม่เหมือนคนทั่วไป การนำเสนอภาพต่างๆ ของกะเทยเลยไม่ได้ทำให้เราเข้าใจเขามากขึ้น แค่รับรู้ว่าเขาเป็นของแปลกประหลาดเท่านั้น

 

               ปัญหาคือว่า เราไปติดอยู่กับภาพลักษณ์ภายนอกของเขาหรือเปล่า อยากให้มองกะเทยเหมือนในหนังเรื่องอวตารว่า ถ้าเราลองให้พวกเขามาอยู่ในร่างที่เป็นเหมือนกับเรา เราก็จะไม่เห็นความแตกต่างจากคนทั่วไป มีความคิด มีจิตใจ มีมุมมองความเป็นลูกที่ดี อยากมีครอบครัว และต้องการให้สังคมยอมรับในความสามารถ หรืออยากเป็นคนที่ดีของคนที่เขารัก บางครั้งเรื่องการปรับเปลี่ยนทัศนคติของคนในสังคม มันเป็นเหมือนเรื่องเส้นผมบังภูเขา หากสังคมมองข้ามสิ่งเหล่านี้ได้ ก็จะเห็นตัวตนของพวกเขาที่ไม่แตกต่างจากเราด้วยความเข้าใจมากขึ้นสันติสุขกล่าว

 

 

ที่มา : สำนักข่าว สสส.

 

 

Update 09-03-53

 

 

อัพเดทเนื้อหาโดย : ฤทัยรัตน์ ไกรรอด

 

 

 

Shares:
QR Code :
QR Code