สานสุขตะลอนทัวร์ ตะลุยทุ่งรังสิต

ราคาสินค้าอาหารที่แพงด้วยปัจจัยทั้งค่าขนส่ง ค่าแรงที่สูงขึ้นหลายคนตั้งรับกันไม่ทันยิ่งในช่วงเทศกาลกินเจที่ผ่านมา บวกกับเหตุการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดทำให้อาหารผักปรับราคาสูงขึ้น โดยเฉพาะคนเมืองที่ซื้อทุกอย่างที่กิน มีโอกาสน้อยมากที่จะได้กินทุกอย่างที่ปลูก

ย่านชานเมืองของกทม.ออกไปทางย่านรังสิต จ.ปทุมธานี เป็นที่ตั้งของสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พื้นที่ 500 ไร่ที่รวมองค์ความรู้แนวพระราชดำริเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ทั้งกลางแจ้งและภายในอาคาร อีกทั้งเปิดให้ผู้สนใจทั่วไปมาฝึกอบรมทั้งการทำนาสมัยใหม่ ที่พิสูจน์ได้จริงว่าทำนา 1 ไร่ได้ 1 แสนนั้นทำได้ หรือการเรียนรู้การโยนกล้าแทนการดำนาแบบเดิม ๆ เพื่อลดแรงงาน การปลูกผักในบ่อซีเมนต์ ดาดฟ้าต่าง ๆ

วันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้จัดกิจกรรมสานสุขตะลอนทัวร์ ตะลุยทุ่งรังสิต…เรียนรู้ชีวิตพอเพียง ภายใต้แนวคิด เศรษฐกิจพอเพียงขึ้น สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิม พระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี  โดยรับสมัครกลุ่มครอบครัว 40 ครอบครัวร่วมกิจกรรมเรียนรู้วิถีชีวิตเกษตรกร เพื่อนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันของคนในเมือง พร้อมลงมือปฏิบัติจริง ๆ

เช้าตรู่วันนั้นหลายคนมารวมตัวกันที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสก่อนที่จะขึ้นรถตู้ที่ทีมงานมุ่งสู่ทุ่งรังสิต ก่อนที่จะเริ่มกิจกรรมเรียนรู้ ต่างคนต่างที่มาได้ร่วมละลายพฤติกรรมทำความรู้จัก ผ่านฐานความคิด “เชือกเจ้าปัญหา” ที่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะต้องใช้ไหวพริบปฏิภาณและความคิดสร้างสรรค์ในการแก้ปมเชือกทั้งเล็กทั้งใหญ่ จำลองชีวิตเมื่อเกิดปัญหา ที่มีทั้งปัญหาใหญ่และเล็กค่อยแก้ไปทีละเปลาะสุดท้ายก็ผ่านไปได้ จากนั้นทั้งเด็ก ๆและพ่อแม่ได้ร่วมกิจกรรมปลูกผักกลางแจ้ง เด็กหลายคนเพิ่งได้ลงแปลงผักครั้งแรก และยังได้ความรู้เกษตรสมัยใหม่ว่า มะละกอที่นี่สามารถตอนกิ่งได้

กิจกรรมต่อมา ได้ร่วมกันเรียนรู้เรื่องการจัดการพื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด พึ่งตัวเองได้ด้วยการทำเกษตรผสมผสาน ภายในพื้นที่ 1 ไร่ที่ประกอบด้วยแปลงผักพื้นบ้าน เช่นผักปลังปลูกแนวรั้ว โรงเรือนเพาะเห็ดนางฟ้า การเลี้ยงปลาแบบธรรมชาติ การสร้างบ้านดิน การสร้างพลังงานใช้เองอย่างโซลาร์เซลล์ การสร้างบ้านดิน การทำนา

เดินชมจนได้เหงื่อฐานต่อมาทุกคนได้ร่วมกันเพาะเห็ดฟางในตะกร้า เพื่อจะนำไปปรับใช้ในชีวิตได้จริง ซึ่งวิธีการไม่ยุ่งยากแถมใช้ก้อนเชื้อเห็ดนางฟ้าที่หมดอายุบวกกับผักตบเชื้อเห็ด เท่านี้คนเมืองก็มีผักบริโภคทุกวัน ในช่วงบ่ายผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้รับชมภาพยนตร์ 3 มิติเรื่องของพ่อในบ้านของเรา ซึ่งมีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในด้านต่าง ๆ ที่ทรงอุทิศพระวรกายประกอบพระราชกรณียกิจเพื่อพสกนิกรชาวไทยตลอดเวลากว่า 60 ปี นอกจากนี้ยังได้ชมนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ ในหลวงรักเรา ฐานหลักการทรงงาน

ใกล้เวลาแดดร่มลมตกผู้เข้าร่วมกิจกรรมร่วมเรียนรู้เทคนิคการปลูกพืชในพื้นที่ขนาดเล็กทั้งดาดฟ้า ระเบียง เพื่อช่วยเพิ่มพื้นที่อยู่อาศัย และทดลองการทำนาดำและการโยนกล้า กลางบรรยากาศทุ่งนาจริง เด็ก ๆ ต่างสนุกสนานกับกิจกรรมนี้เพราะเรียนรู้ เล่น และเลอะไปในทีเดียวกัน

จารุรัฐ จงพุฒิศิริ ผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เล่าว่า ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์จะมีกลุ่มเด็ก ๆ มาร่วมเรียนรู้กิจกรรม ที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษคือการโยนกล้า ดำนา และได้เรียนรู้พระอัจฉริยภาพด้านการเกษตรของพระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวเพราะเด็ก ๆ รุ่นใหม่ยังไม่เข้าใจว่าที่ผ่านมาในหลวงทรงงานหนักเพื่อแผ่นดิน ภายใต้หลักทรงงาน 23 ข้อ นอกจากเด็กแล้วมีผู้ใหญ่ที่เข้ามาอบรมเรื่องการทำนา ซึ่งขณะนี้กำลังเปิดหลักสูตรทำนา 1 ไร่ได้ 1 แสน โดยผู้เข้าอบรมมาใช้ชีวิตอยู่จนถึงรอบการผลิต

“เราเคยนำหลักสูตรนี้เผยแพร่ในโรงงานแถบ นวนคร คนทำงานโรงงานหลายคนมาเรียนแล้วกลับไปทำนาที่บ้านเกิด จนผู้ประกอบการกำลังหวั่นใจว่าจะไม่มีคนทำงานโรงงาน”

ในปีที่ผ่านมามีผู้เข้ามาเรียนรู้และเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้ ที่อดีตคือทุ่งรังสิต กว่า 300,000 คน หลายคนกลับไปเป็นเกษตรกรมืออาชีพที่บ้านเกิด และมีส่วนหนึ่งที่นำผลิตภัณฑ์การเกษตรทั้งหลายมาจำหน่าย ที่ทุกเสาร์อาทิตย์ต้นเดือนที่นี่จะมีตลาดนัดการเกษตรที่ไม่ได้มีเพียงพืชผัก อาหารปลอดภัยทั้งหลาย ตลาดแห่งนี้ยังเป็นแหล่งความรู้ทางเกษตรจากผู้ประกอบการตัวจริงมาบอกเล่า เช่น เพาะเห็ดฟางแล้วไม่ออกดอกมีสาเหตุจากอะไร ผู้เพาะและแม่ค้าในคนเดียวกันจะมาช่วยตอบปัญหา รวมทั้งการปลูกพืช การฝึกอบรมอาชีพต่าง ๆ

สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิม พระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะมีกิจกรรมตลอดทั้งปี ติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่เว็บไซต์สำนักงานฯ http://www.wisdomking.or.th/ ส่วนคุณพ่อคุณแม่สนใจร่วมกิจกรรมเพิ่มทักษะชีวิตให้เจ้าตัวเล็กทั้งกลางแจ้งและในอาคารที่ส่วนใหญ่จะไม่มีค่าใช้จ่ายหรือมีเพียงเล็กน้อย ติดตามรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะสสส.http://www.thaihealth center.org

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ 

Shares:
QR Code :
QR Code