สานพลัง ยกระดับ ‘จิตอาสาสู่จิตศรัทธา’
ที่มา : ทีมจิตอาสาคาทอลิกเข็กน้อย รายงานโดย แสน ธรรมาวตาร
ภาพประกอบจากทีมจิตอาสาคาทอลิกเข็กน้อย
ชุมชนม้งเข็กน้อย สานพลัง ยกระดับ “จิตอาสาสู่จิตศรัทธา”
ชุมชนม้งเข็กน้อย มี 12 หมู่บ้าน ตั้งเรียงรายติดกันคั่นด้วยซอยและถนนเล็กๆ ในชุมชน ซึ่งตั้งอยู่ในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลเข็กน้อย อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ จัดว่าเป็นชุมชนชาวม้งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
ด้วยความที่มีประชากรมากกว่า 5,048 คน ทำให้เกิดช่องว่างในการรู้จักและเกื้อกูลกันมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป และขาดการปฎิสัมพันธ์ร่วมกันระหว่างคนทั้ง 3 วัย อย่างเป็นระบบและมีรูปธรรมให้เรียนรู้ร่วมกันได้ ประกอบด้วยคนทั้ง 3 วัยคือ วัยเด็ก วัยทำงานและวัยชรา โดยกลุ่มคนวัยชราหรือผู้สูงอายุที่ติดบ้านและติดเตียงมากกว่า 215 คน
ทำให้ บาทหลวงทศพร นารินรักษ์ (คุณพ่อโจ้) ผู้อำนวยการฝ่ายสังคมพัฒนา เขต 2 วัดพระมารดานิจจานุเคราะห์ 99 ม.8 ต.เข็กน้อย อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ คิดว่า ควรต้องมีโครงการบางอย่างที่จะร้อยคนทั้ง 3 วัยนี้ให้ได้เรียนรู้ ทำความเข้าใจและช่วยเหลือกันและกันอย่างเหมาะสม จึงได้พัฒนา “โครงการจิตอาสาคาทอลิกสร้างสุขภาวะพัฒนาชุมชน” ขึ้นมา โดยเน้นการรับสมัครเยาวชนและคนวัยทำงานให้เข้ารวมกลุ่มเป็น “กลุ่มจิตอาสาคาทอลิกเข็กน้อย” เพื่อเป็นอาสาสมัครช่วยงานในชุมชนและเยี่ยมเยือให้กำลังคนวัยชราที่ติดบ้าน ติดเตียงและพิการ และได้เสนอโครงการ จนได้รับการสนับสนุนจากสำนัก 5 ภายใต้สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ในที่สุด
ตลอดการดำเนินงานที่ผ่านมา ทำให้สามารถกำหนดให้ทุกวันอาทิตย์ต้นเดือน เป็นวัน “จิตอาสาคาทอลิก” โดยให้กลุ่มเยาวชนและคนวัยทำงาน ได้ลงพื้นที่ไปในหมู่บ้านต่างๆ เพื่อเยี่ยมเยือนให้กำลังใจและมอบของใช้จำเป็นให้คนชราในชุมชน ซึ่งถือว่าเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ทำให้เกิดการรวมตัวของคน 3 วัยได้พบปะและเรียนรู้กันและกันเพื่อสร้างเสริมสุขภาวะในชุมชน จนเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน และกลายเป็นชุมชนที่มี “ทำเนียบกลุ่มจิตอาสาคาทอลิกเข็กน้อย” อย่างชัดเจนในการไปช่วยงานทั้งของโบสถ์ วัด ชุมชนและหน่วยงานราชการต่างๆ ทั้งในและนอกพื้นที่
บาทหลวงทศพร นารินรักษ์ (คุณพ่อโจ้) ผู้อำนวยการฝ่ายสังคมพัฒนา เขต 2 ในฐานะผู้บริหารโครงการ กล่าวว่า ชุมชนเข็กน้อย มีการรวมของกลุ่มผู้สูงอายุบ้างอยู่แล้ว แต่มักจะมีกิจกรรมเฉพาะกลุ่ม ขาดการเชื่อมงานกับกลุ่มอื่นๆ ทำให้ขาดโอกาสในการร่วมกิจกรรมกับคนวัยทำงานและเยาวชนที่จะได้สื่อสารประเด็นด้านสุขภาวะเพื่อช่วยเหลือกันและกันในการสร้างชุมชนสร้างเสริมสุขภาวะ บางคนที่ติดเตียงหรือพิการก็ขาดโอกาสในการไปพบปะกับคนอื่นๆ ในชุมชน การมี “กลุ่มจิตอาสาคาทอลิกเข็กน้อย” ช่วยอุดช่องว่างตรงนี้ได้อย่างมาก เพราะเป็นการทำงานเชิงรุก เข้าถึงตัวคนชราหรือพิการ จนองค์การบริหารส่วนตำบลเข้ามาสนับสนุนให้มีการทำกิจกรรในโครงการอย่างต่อเนื่อง
มาที่ นางสาวกวินนา แสนยากุล หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า ป้าชัวร์ แกนนำกลุ่มพลมารีย์ ของชาวชุมชนเข็กน้อย บอกว่า งานจิตอาสานี่ ถ้าเป็นทั่วไปก็จะเน้นการช่วยเหลือด้านวัตถุสิ่งของเป็นหลัก เพื่อให้คนๆ นั้นมีความสะดวกในการดำรงชีพมากขึ้น แต่สิ่งที่ป้าทำคือ ป้าต่อยอดและให้การช่วยเหลืออีกมิติหนึ่ง มิติทางใจ ด้วยการมอบความรักและศรัทธาในพระเจ้าให้กับกลุ่มคน 3 วัยได้รับ รู้รับทราบ และปฏิบัติตามในส่วนที่สามารถทำได้ เวลาเราลงพื้นที่ ก็จะทำ 2 อย่างคือ มอบของใช้และพาสวด พร้อมทั้งร้องเพลงเกี่ยวกับพระคริสต์ให้ฟัง ตรงที่พาสวดนี่แหละคือ หัวใจสำคัญ เพราะว่าสิ่งของที่เราให้ สักวันมันก็หมด แต่บทสวดที่เราให้สวดจะอยู่กับเขาตลอดและเขาจะถูกเชื้อเชิญเข้าสู่อาณาจักรแห่งสวรรค์แน่นอน เรื่องพวกนี้น้องๆ เยาวชนที่ไปร่วมกิจกรรมเขาได้มีโอกาสสัมผัสตั้งแต่ตอนนี้ เป็นเรื่องที่ดี คนวัยทำงานแม้จะเน้นทำแต่งานก็ยังดีที่มีบางส่วนสนใจและสืบต่อการสวดเอาไว้ ส่วนคนชราและคนพิการบางคนนั้นได้รับประโยชน์มากที่สุด ถือว่าบั้นปลายชีวิตแล้วที่จะได้เลือกเส้นทางสู่อ้อมกอดของพระเจ้า
ทางด้าน นางสาวอรพิน แซ่ลี หรือน้องพิมพ์ หนึ่งในสมาชิกกลุ่มจิตอาสาคาทอลิกเข็กน้อย เล่าให้ฟังว่า ปรกติก็ทำหน้าที่ในฐานะเจ้าหน้าที่ของศูนย์เยาวชนและช่วยงานคุณพ่ออยู่แล้ว งานในส่วนที่ได้รับมอบหมายตามหน้าที่ก็ทำเต็มที่ และงานอื่นๆ ที่คุณพ่อชวนหรืออาสาให้ไปช่วย ก็ไปไม่เคยขาด ซึ่งก็รู้สึกว่า การได้ทำงานที่ตนเองรับผิดชอบและช่วยงานพ่อ ก็เป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้ว แต่ภายหลังจากได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการทำโครงการ และได้มีโอกาสไปเข้ารับการฝึกอบรมการเป็นจิตอาสาจากทีมงาน สสส. ก็ทำให้เข้าใจคำว่า จิอาสาที่แท้จริงมากขึ้น อย่างเช่นตอนประสานงานให้คนทั้ง 3 วัยได้มาเจอกันและทำกิจกรรมร่วมกัน ก็เห็นชัดเลยว่า ทุกคนมีความสุข ตนเองก็มีความสุขไปด้วย เพราะทุกครั้งก่อนจะไปลงพื้นที่เราจะมีการสวดขอพรแม่พระให้งานของเราราบรื่น จิตใจของเราที่อาสาช่วยงานนี้ จึงไม่ใช่แค่อยากจะช่วยคนที่ลำบาก ชราหรือพิการ แต่ต้องการใช้การช่วยเหลือเหล่านี้ในการรับใช้พระเจ้าด้วย งานที่ทำจึงไม่ใช่การอาสาทำ แต่เป็นจิตที่มีศรัทธาต่อพระเจ้าที่จะรัก รับใช้และเสียสละไม่มีสิ้นสุด กิจกรรมในโครงการนี้เป็นสิ่งที่ดีมาก และหนูตั้งใจจะทำต่อไป ชักชวนให้คนวัยต่างๆ ได้มาเจอกัน มาทำกิจกรรมร่วมกัน รักสามัคคีกัน เพื่อช่วยกันทำให้ชุมชนบ้านเข็กน้อยนี้ เป็นชุมชนที่มีสุขภาวะที่ดีและมีความสุข
การสานพลังเพื่อเชื่อมโยงงานกันในกลุ่มคน 3 วัย โดยได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานในพื้นที่ ทั้งวัดพระมารดานิจจานุเคราะห์ ภายใต้มูลนิธิคาทอลิกนครสวรรค์ และองค์การบริหารส่วนตำบลเข็กน้อย ที่ได้มีนโยบายชัดเจนในการพัฒนา พร้อมกับยกระดับให้กลุ่มจิตอาสาคาทอลิกเข็กน้อย เป็นองค์กรสาธารณะที่มีบทบาทในการช่วยเหลือดูแลและสร้างเสริมสุขภาวะในชุมชน ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ก็เห็นด้วย ทั้งยังมีส่วนร่วมในการคิดตัดสินใจ และร่วมมือกันทำงานมาโดยตลอด จึงทำให้โครงการจิตอาสาคาทอลิกสร้างสุขภาวะพัฒนาชุมชน ได้เดินหน้าผ่านการรับใช้สังคมมาอย่างมั่นคง และจะช่วยสร้างเสริมสุขภาวะอย่างยั่งยืนในอนาคต ดังที่ทุกคนสามารถเข้าไปสัมผัสและเรียนรู้ได้จริง
สำหรับผู้ที่สนใจโครงการจิตอาสาคาทอลิกสร้างสุขภาวะพัฒนาชุมชน สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ชมรมจิตอาสาคาทอลิกเข็กน้อย บาทหลวงทศพร นารินรักษ์ (คุณพ่อโจ้) โทร. 0819742212 อีเมล์ : t[email protected] และสามารถมาร่วมกิจกรรมในวันอาทิตย์ได้ที่ วัดพระมารดานิจจานุเคราะห์ 99 ม.8 ต.เข็กน้อย อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป