สหภาพแรงงานชวน “พักตับ ครบพรรษา”
ที่มา : เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์
ภาพประกอบข่าวจากอินเทอร์เน็ต
สหภาพแรงงานชวน "งดเหล้าครบพรรษาได้เวลาพักตับ"ผลสำรวจพบแรงงาน 61.4%ยังนิยมดื่ม ส่งผลมีปัญหาสุขภาพ อุบัติเหตุ หนี้สิน เสียงาน
เมื่อวันที่28ก.ค.59 เวลา 10.00 น. ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ นายมนัส โกศล ประธานสภาองค์การลูกจ้างพัฒนาแรงงานแห่งประเทศไทย และภาคีเครือข่าย กว่า 150 คน จากสภาองค์การลูกจ้างพัฒนาแรงงานแห่งประเทศไทย สหพันธ์แรงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอ การตัดเย็บเสื้อผ้าและผลิตภัณฑ์หนังแห่งประเทศไทย สมาคมส่งเสริมสิทธิชุมชนเพื่อการพัฒนา กลุ่มสหภาพแรงงานอ้อมน้อยอ้อมใหญ่ และมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล จัดกิจกรรมรณรงค์ “แรงงานงดเหล้าครบพรรษา ได้เวลา พักตับ” หวังกระตุ้นแรงงานไทยหันมารักสุขภาพ งดเหล้า สู่คุณภาพชีวิตที่ดี จากนั้นเดินรณรงค์ขบวนแฟนซี แจกสื่อประชาสัมพันธ์ เชิญชวนร่วมลงนาม “พักตับ งดเหล้าครบพรรษา” ทั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
นายสิทธิศักดิ์ พนไธสงค์ ฝ่ายส่งเสริมภาคีเครือข่าย มูลนิธิหญิงชายกาวไกล เปิดเผยผลสำรวจ “การดื่มสุราและผลกระทบจากการดื่มของแรงงานปี 2559” ในกลุ่มแรงงานทั้งหญิงและชายจำนวน 1,914 ตัวอย่าง พื้นที่โรงงานอุตสาหกรรมและแรงงานนอกระบบ ได้แก่ สมุทรปราการ นนทบุรี นครปฐม สมุทรสาคร โดยพบว่าผู้ใช้แรงงาน 54.7% ทราบดีว่าสุรามีพิษภัย แต่ยังพบเกินครึ่งหรือ 61.4% ที่ยังนิยมดื่มสุรา และมีเพียง 1 ใน 4 เท่านั้นที่ไม่เคยดื่มเลย ที่น่าห่วงคือ12.7% ดื่มทุกวัน อีก 22.5% ดื่มสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง และ 43% ดื่มตามโอกาสสำคัญ สำหรับพฤติกรรมการดื่ม พบว่า 11.6% ดื่มจนเมาครองสติไม่ได้ และต้องหมดเงินไปกับค่าเหล้า 1-2 พันบาท และมากสุด 4 พันบาทต่อเดือน เมื่อถามถึงผกระทบตามมาคือ ปวดหัวปวดท้อง อาเจียน ไปทำงานไม่ไหว เสียดังโวยวาย เกิดอุบัติเหตุ มีหนี้สิน ขณะเดียวกันยังพบ17.3% มีพฤติกรรมลวนลามขณะเมา
“เข้าพรรษาปีนี้กลุ่มผู้ใช้แรงงานกว่า 73.9% อยากให้โรงงานและชุมชนมีนโยบายสนับสนุนกิจกรรมงดเหล้าเข้าพรรษา เนื่องจากเห็นว่า สุขภาพร่างกายจะดีขึ้น หนี้สินลดลง มีเงินเก็บครอบครัวมีความสุขมากขึ้น รวมถึงอุบัติเหตุความเสี่ยงในการทำงานจะลดลง ทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้อีกด้วยที่สำคัญ เมื่อถามถึงความตั้งใจจะงดเหล้าเข้าพรรษา3เดือนนี้หรือไม่ กลุ่มตัวอย่างกว่า 58.4% สนใจเข้าร่วม และในจำนวนนี้อยากชวนให้เพื่อนในโรงงานหรือในชุมชนงดเหล้าเข้าพรรษาด้วย” นายสิทธิศักดิ์ กล่าว
นายภาคภูมิ สุกใส ประธานสหภาพแรงงานธนบุรีประกอบรถยนต์ กล่าวว่า เข้าพรรษานี้ตนตั้งใจงดดื่มเหล้า และตั้งเป้าทิ้งระยะห่างจากขวดเหล้าต่อเนื่องไปอีก 2-3 เดือน เนื่องจากที่ผ่านมาเห็นถึงผลกระทบทั้งต่อตัวเองและคนรอบข้าง ช่วงนั้นดื่มแบบหัวราน้ำ วงจรชีวิตหลังเลิกงานต้องจับขวดเหล้าทุกวัน หมดเงินไปกับค่าเหล้าเดือนละ 5-6 พัน เคยเกิดอุบัติเหตุหลายครั้งเพราะเมา ขาดลามาสายเป็นประจำ สุขภาพแย่ลง ทั้งนี้คิดว่าครอบครัวเป็นแรงใจสำคัญจะทำให้งดดื่มเอาชนะใจตัวเองได้สำเร็จ ซึ่งปีที่ผ่านมาใช้วิธีหยอดกระปุกออมสินให้ลูกจากเงินที่งดดื่มเหล้า 3 เดือน จนมีเงินหมื่นกว่าบาทไปซื้อของใช้ให้ลูกและใช้จ่ายในบ้าน คุณภาพชีวิตดีขึ้นมากจากแต่ก่อน สำหรับปีนี้ทางสหภาพแรงงานฯยินดีร่วมเป็นส่วนหนึ่งรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษา และเน้นกิจกรรมตามนโยบายของผู้บริหารที่มุ่งมั่นชวนกลุ่มผู้ใช้แรงงานให้ลดละเลิก มีกิจกรรมผ่อนคลายตลอด3เดือน สร้างกำลังใจในการทำงาน เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น คาดว่าจะผู้สนใจเข้าร่วมเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา
ด้าน นายบุญส่ง คำสันเทียะ อายุ 50 ปี ชาวจังหวัดนครราชสีมา พนักงานโรงงานไทยอุตสาหกรรมเครื่องปั้นดินเผา กล่าวว่า เริ่มดื่มสุราตั้งแต่อายุ 17 ปี พอวัยทำงานก็นิยมดื่มเหล้าขาว ตกวันละ 2 ขวด เช้าเย็น ดื่มหนักจนถูกสั่งพักงาน และเกิดอาการชัก ญาติพาส่งโรงพยาบาลถึง 2 ครั้ง หมอระบุว่าเป็นโรคตับอักเสบให้เลิกดื่มเหล้า หากไม่เลิกอาจเสียชีวิตได้ แต่หลังออกจากโรงพยาบาลก็กลับมาดื่มซ้ำ เมื่อสุขภาพแย่ลงและกระทบกับการทำงาน อีกทั้งครอบครัวคนรอบข้างก็เครียดกับพฤติกรรมการดื่มของเรา จึงพยายามลดการดื่มลง สุดท้ายเอาชนะความอยากได้จนสำเร็จ แม้ตอนนี้จะเลิกเหล้าได้ไม่ขาด แต่เข้าพรรษานี้ถือเป็นครั้งแรกที่ตั้งใจงดดื่มเหล้า3เดือน และจะพยายามเอาชนะเหล้าให้ได้ เพราะรู้ว่าสุขภาพสำคัญที่สุด ต้องทิ้งขวดเหล้าหันหน้ามาทำงาน สู้เพื่อครอบครัวให้ได้ เพราะตัวเองถือว่าโชคดีที่ผู้บริหารบริษัทยังให้โอกาส ตนจึงอยากใช้โอกาสนี้ปรับพิสูจน์ตัวเอง
ขณะที่ นางสาวประนอม เชียงอั๋ง รองประธานสหพันธ์แรงงานการตัดเย็บเสื้อผ้าและผลิตภัณฑ์หนังแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เริ่มทำงานรณรงค์ลดละเลิกการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในกลุ่มผู้ใช้แรงงานมานานกว่า10 ปี เริ่มจากสร้างความเข้าใจ และสะท้อนผลกระทบต่างๆที่เกิดขึ้น ทั้งต่อสุขภาพ ครอบครัว หน้าที่การงาน เห็นทุกข์ร่วมกัน รวมทั้งได้รณรงค์ให้คนงานปฏิบัติตามกฎหมาย พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คนที่ยังดื่มต้องไม่ขับ และขณะนี้กำลังขยายไปยังสหพันธ์สิ่งทออื่นๆคาดว่าจะมีหลายโรงงานสนใจและเริ่มมองเห็นผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ได้หันมาร่วมสร้างโรงงานและผู้ใช้แรงงานให้ปลอดเหล้าปลอดภัยซึ่งหลายโรงงานมีเครื่องตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์เพื่อป้องกันพนักงานดื่มก่อนปฏิบัติงานหรือช่วงพักเบรค อย่างไรก็ตามกิจกรรมงดเหล้าเข้าพรรษาปีนี้ถือว่าหลายโรงงานเริ่มตื่นตัวและให้ความสนใจเชิญชวนพนักงานงดดื่ม3เดือน เพื่อคุณภาพชีวิตของผู้ใช้แรงงาน และท้ายที่สุดเชื่อว่าฝ่ายบริหารโรงงานทุกแห่งจะหันมาสนับสนุนกิจกรรมนี้ เพราะประโยชน์ตกอยู่กับทุกคนจริงๆ