สสส.เผยเทศกาลอาหาร “อร่อยได้ไร้แอลกอฮอล์”

พบคนมุ่งแต่ไปดื่มเหล้า-เบียร์มาเป็นลำดับที่สอง

 

สสส.เผยเทศกาลอาหาร “อร่อยได้ไร้แอลกอฮอล์”          ช่วงวันที่ 15-17 ก.พ.ที่ผ่านมาสำนักงานกองทุนสนับสนุนสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) ร่วมกับสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า(สคส.) และสมาคมภัตตาคารไทยเดินหน้ารณรงค์ยกระดับมาตรฐานอาหารไทยให้คุณภาพสู่ระดับสากล อร่อยอย่างมีคุณภาพ ได้สุขภาพดีพร้อมทั้งเน้นการรณรงค์ให้อาหารที่เพียบพร้อมไปด้วยความอร่ออยอย่างมีสุขภาพดีนั้น ไม่มีส่วนของแอลกอฮอล์เข้าไปเกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด

 

          ภายใต้แนวคิด”อร่อยได้…ไร้แอลกอฮอล์”

 

          เป็นโครงการพัฒนาผู้ประกอบการร้านอาหารทั้งประเทศเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการในท้องถิ่นแบบมืออาชีพหรือภาษาอังกฤษว่า Thailand Restaurant Champion2009

 

          โครงการนี้จะเป็นการเดินสายจัดกิจกรรมไปตามพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศที่จะมีขึ้นต่อไปอีก 9 ครั้งหลังจากที่เพิ่งจัดผ่านไปล่าสุดช่วงวันที่กล่าวข้างต้น

 

          การจัดกิจกรรมภายใต้แนวคิด “อร่อยได้…ไร้แอลกอฮอล์” ที่ผ่านมานั้นพบผู้มาร่วมงานส่วนใหญ่ตั้งใจมาชิมอาหารเด่นและเลือกซื้อสินค้าในงานแต่ยังน่าวิตกเพราะอันดับรองลงมาตั้งใจมาดื่มเหล้าและเบียร์

 

          เมื่อมีการสอบถามความเห็นถึงการจัดกิจกรรมด้วยแนวคิดดังกล่าวส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการจัดงานเทศกาลอาหารภายใต้แนวคิด “อร่อยได้…ไร้แอลกอฮอล์” ขอให้ดำเนินการต่อไป

 

          สสส.- สคส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงพร้อมเดินหน้ารณรงค์ต่อในอีก 9 พื้นที่หลักทั่วประเทศในเทศกาลต่างๆ พร้อมจัดประวกดร้านค้าในพื้นที่ โดยเน้นอร่อยได้มาตรฐานแบบไร้แอลกอออล์ พร้อมสอดแทรกความรู้เกี่ยวกับ พ.ร.บ.เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ให้กับร้านค้าและผู้บริโภค

 

          นายธีระ วัชรปราณี ผู้จัดการแผนงานทุนอุปถัมภ์เชิงรุกทดแทนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฯ สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า(สคส.) กล่าวถึงการจัดกิจกรรมดังกล่าวว่าจัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคในการรับประทานอาหาร โดยคำนึงถึงคุณภาพของอาหารและประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายเป็นหลัก โดยต้องนำแอลกอฮอล์มาเป็นส่วนประกอบที่สำคัญทั้งของอาหารและของงานโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงนี้ที่มีเทศกาลสำคัญและงานสังสรรค์รื่นรมย์ต่างๆ ที่คนมักจะนำแอลกอฮอล์เข้ามามีบทบาทสำคัญเสมอซึ่งการณรงค์ได้จัดขึ้นใต้แนวคิด อร่อยได้…ไร้แอลกอฮอล์ โดยมุ่งเน้นการให้ความรู้ในเรื่องของอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ถูกสุขลักษณะและมีความอร่อยได้มาตรฐานควบคู่กันไป การณรงค์จะมีการเสริมกิจกรรมต่างๆ สำหรับครอบครัวและทุกเพศทุกวัยไม่ว่าจะเป็นเกมหรือบูธอาหารเพื่อสุขภาพต่างๆ เน้นการสอดแทรกการให้ความรู้อย่างมีสันสันมีความสุข มีความเพลิดเพลิน

 

          “เราอยากให้ประชาชนเกิดการรับรู้มากขึ้น ในเรื่องของการรับประทานอาหารว่าการทานอาหารไม่จำเป็นต้องทานร่วมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็สามารถอร่อยได้เช่นกัน จึงอยากจะรณรงค์ให้คนไทยทุกคนมีความเชื่อมั่นที่จะไม่ดื่มเพื่อสุขภาพของตัวเองและอยากจะเชิญชวนให้ทุกๆ เทศกาลรวมไปถึงงานบุญประเพณีที่กำลังจะจัดขึ้นในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ เป็นงานที่ปลอดบุหรี่และแอลกอฮอล์ซึ่งนอกจากจะได้บุญจากการสร้างความสุขร่วมกันแล้วยังจะถือเป็นการมอบของขวัญที่ทรงคุณค่าทั้งแก่ตัวเองและครอบครัวในการสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคมให้แก่เด็กและเยาวชนอีกทางหนึ่งด้วย

 

          โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีนี้ถือเป็นปีแรกของการประกาศใช้ พระราชบัญญัติควบคุมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ซึ่งห้ามไม่ให้มีการจำหน่ายแอลกอฮอล์ในสถานที่ต่างๆ ตามที่ระบุ ไม่ว่าจะเป็นสวนสาธารณะต่างๆ หรือการห้ามไม่ให้จำหน่ายแอลกอฮอล์ให้กับเด็ก และคนเมาขาดสติเป็นต้น ซึ่งจะต้องมีการเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวต่อทั้งผู้ประกอบการร้านอาหารรวมทั้งกลุ่มผู้บริโภคได้รับทราบข้อมูลดังกล่าวด้วย”

 

          นายธีระ ยังได้เปิดเผยถึงผลการสำรวจล่าสุดที่ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่างที่มาร่วมงานเทศกาลอาหารดีเขตทวีวัฒนาครั้งที่ 8 ซึ่งจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “อร่อยได้…ไร้แอลกอฮอล์” จำนวน 200 คน พบส่วนใหญ่ร้อยละ 58.5 มารับประทานอาหารรสดี แต่ที่น่าตกใจคือ อันดับสองพบว่าร้อยละ 17 ตั้งใจมาดื่มเหล้าเบียร์โดยจากการสำรวจพบว่าจำนวนผู้เคยดื่มมีปริมาณมากกว่าผู้ที่ไม่เคยดื่ม ซึ่งชนิดของแอลกอฮอล์ที่ดื่ม คือ เบียร์ พบมากที่สุดถึงร้อยละ 48 และรองลงมา คือเหล้าร้อยละ 13 และพบว่าร้อยละ 51 เห็นด้วยกับการจัดงานเทศกาลอาหารปลออดจากเครื่องดื่มแอลกอออล์ตามคำขวัญที่ว่า “อร่อยได้…ไร้แอลกอฮอล์” และไม่เห็นด้วยกับการจัดงานดังกล่าวร้อยละ 49 ที่สำคัญพบว่ามีมากถึงร้อยละ 64.5 ที่เห็นดีด้วยหากเทศกาลอาหารดีในครั้งต่อๆ ไปจะปลอดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ขณะที่มีเพียงร้อยละ 35.5 ที่ไม่เห็นด้วย

 

          ทางด้าน นางปารวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย กล่าวถึง โครงการนี้ว่า ได้ตั้งเป้าหมายในการจัดพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศจำนวน 11 ครั้ง  โดยสานต่อจากการจัดกิจกรรมในปีที่ผ่านมาซึ่งจัดไปแล้ว 2 ครั้ง มหกรรมกินเจเพื่อสุขภาพ ที่ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง จ.สมุทรปราการ และที่อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม โดยเน้นพื้นที่หรือท้องถิ่นที่มีจุดเด่นและเสน่ห์ในเรื่องของอาหารและวัฒนธรรมที่น่าสนใจต่างๆ

 

          “จึงอยากจะเชิญชวนผู้ประกอบการร้านอาหารต่างๆ ให้กลับมาให้ความสำคัญในเรื่องของคุณภาพและมาตรฐานของอาหารเป็นหัวใจหลัก ซึ่งมีหลายเมนูที่ไดรับการกล่าวขวํยไปทั่วโลกในเรื่องของรสชาติและความอร่อยและหากเราร่วมกันพัฒนาก็จะทำให้เราสามารถรักษามาตรฐานและชื่อเสียงที่ดีได้ไม่ยาก นอกจากนั้น หากเราสามารถทำให้ทุกๆ เทศกาลโดยเฉพาะอย่างยิ่งเทศกาลอาหารซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวและกลุ่มครอบครัวมาเลือกซื้อสินค้าและเลือกชิมอาหารเมนูเด็ดเป็นสถานที่หรือเทศกาลที่ปลอดไร้ซึ่งแอลกอฮอล์ก็จะทำให้เทศกาลดังกล่าวมีความปลอดภัยมากขึ้นมีคุณค่าในทางสังคมมากขึ้น และจะทำให้มีเสน่ห์ดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ไม่มุ่งเน้นแอลกอฮอล์เข้ามาร่วมงานกระทั่งคนที่ยังคิดถึงแอลกอฮอล์ก็จะพลอยลดละไปด้วย” นายกสมาคมฯ กล่าวในที่สุด

 

 

 

 

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์สยามรัฐ

 

 

Update 19-02-52

Shares:
QR Code :
QR Code