สสส. เตรียมจัดประชุมนานาชาติกิจกรรมทางกายครั้งที่ 6
สสส.แถลงไทยเจ้าภาพประชุมนานาชาติกิจกรรมทางกายครั้งแรกในเอเชีย จัดยิ่งใหญ่อีก 2 ปี หัวข้อ “Active Living for ALL” ตั้งเป้า ปี 2564 เพิ่มกิจกรรมทางกาย อายุ 11 ปีขึ้นไป ไม่น้อยกว่า 80 % ลดภาวะน้ำหนักตัวเกิน-โรคอ้วนในเด็กน้อยกว่า 10% ในปี 2562 ชวน 40 ประเทศร่วมมือขับเคลื่อน
เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 2557 ที่อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ ศ. ฟิโอน่า บูล ประธานสมาพันธ์นานาชาติด้านการส่งเสริมกิจกรรมทางกายและสุขภาพ (The International Society for Physical Activity and Health – ISPAH) กล่าวว่า ISPAH มียุทธศาสตร์ส่งเสริมให้ประชาชนมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอเพื่อสุขภาพที่ดี เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ขับเคลื่อนนโยบายสุขภาพ ในมิติของการเพิ่มกิจกรรมทางกาย(physical activity) และการลดผลกระทบจากโรคอ้วนและโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (obesity & NCDs) ปัจจุบันมีสมาชิกที่เป็นองค์กรจากประเทศต่างๆ ราว 42 ประเทศ มีจุดมุ่งหมาย คือ 1.จัดให้เกิดเวทีแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ในระดับนานาชาติ สำหรับนักวิชาการ นักวิจัย นักยุทธศาสตร์ และนักพัฒนานโยบาย 2.ส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพของสมาชิก ผ่านกิจกรรมด้านวิชาการ 3.สนับสนุนการสื่อสารและการสร้างความเข้าใจในองค์กรนานาชาติ 4.ส่งเสริมและพัฒนาศาสตร์ด้านการส่งเสริมกิจกรรมทางกายและสุขภาพ 5.ผลักดันให้เกิดนโยบายและการจัดสรรงบประมาณ เพื่อการพัฒนาโอกาสและสิ่งแวดล้อมที่ส่งเสริมกิจกรรมทางกายของทุกประเทศ
ศ.นพ.อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม ประธานคณะกรรมการจัดการประชุมนานาชาติว่าด้วยการส่งเสริมกิจกรรมทางกายและสุขภาพ และที่ปรึกษาคณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สสส.ได้รับคำเชิญจาก ISPAH ให้ส่งข้อเสนอเพื่อรับการพิจารณาเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมนานาชาติว่าด้วยการส่งเสริมกิจกรรมทางกายและสุขภาพ (The 6th ISPAH Congress; International Congress on Physical Activity and Health –ICPAH) ครั้งที่ 6 ซึ่งจะจัดขึ้นปี 2559 หรือในอีก 2 ปี ระหว่างวันที่ 16-19 พ.ย.2559 ที่ศูนย์ประชุมสิริกิติ์ กรุงเทพมหานคร เป็นงานประชุมระดับโลกว่าด้วยการส่งเสริมการมีกิจกรรมทางกายที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชีย ประเด็นหลัก คือ Active Living for ALL คาดว่ามีผู้เข้าร่วม 800-1,200 คน ซึ่งไทยมีความพร้อมในการจัดประชุมระดับนานาชาติ เพื่อสร้างโอกาสให้ไทยเข้าสู่เวทีระดับโลกด้านนโยบายและด้านวิชาการกิจกรรมทางกาย เพื่อกระตุ้นผลักดันให้มีการผลิตผลงานวิชาการและงานวิจัยเพิ่มขึ้น โดยให้ความสำคัญกับการสะท้อนแนวคิดกิจกรรมทางกายในบริบทประเทศอาเซีย หวังว่าเวทีนี้จะเป็นโอกาสสำคัญเพื่อพัฒนาทิศทางนโยบายกิจกรรมทางกาย และก่อให้เกิดนวัตกรรมต่างๆ ในประเทศแถบอาเซียน
ด้าน ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ รองผู้จัดการ สสส.กล่าวว่า กว่า 10 ปีที่ผ่านมา สสส. ร่วมกับทุกภาคส่วน ลดปัจจัยเสี่ยงสุขภาพ เช่น เหล้า บุหรี่ อุบัติเหตุ เพิ่มปัจจัยบวกด้านการสร้างเสริมสุขภาพ เช่น กิจกรรมทางกาย พื้นที่สุขภาวะ และส่งเสริมให้เกิดพื้นที่สุขภาวะและกลุ่มวิถีชีวิตสุขภาวะสำหรับประชากรทุกกลุ่ม การขาดกิจกรรมทางกาย ที่เพียงพอกลายเป็นเหตุสำคัญของความเจ็บป่วย และเสียชีวิตที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จากข้อมูลเชิงวิชาการ (The Lancet July 2555) บ่งชี้ว่า การขาดกิจกรรมทางกายเป็น พฤติกรรมเสี่ยงที่นำไปสู่การเสียชีวิตด้วย NCD ของประชากรโลกมากกว่าการสูบบุหรี่ ปัจจุบันอัตราชุกของโรคอ้วนเพิ่มขึ้นรวดเร็ว แต่อัตราการออกกำลังกายประจำของคนไทยกลับขยับเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ ไม่ถึงร้อยละ 1 ในรอบ 5 ปี โดยเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 29.1 ในปี 2552 เป็นร้อยละ 29.7 ในปี 2557 เพราะคนไทยส่วนใหญ่คุ้นเคยกับ “การออกกำลังกาย” ที่เคลื่อนไหวร่างกายในระดับหนักและไม่น้อยกว่า 30 นาที/ครั้ง แต่ยังไม่ค่อยรับรู้ถึงความจำเป็นของ “กิจกรรมทางกาย” อย่างเพียงพอที่สามารถทำได้ทุกเวลาในชีวิตประจำวัน เช่น การเดิน การขึ้นบันได
ดร.สุปรีดา กล่าวอีกว่า ในปี 2564 สสส.ตั้งเป้าจะเพิ่มการมีกิจกรรมทางกายประจำของคนไทยอายุ 11 ปีขึ้นไป ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 และลดความชุกของภาวะน้ำหนักตัวเกิน และโรคอ้วนในเด็กให้น้อยกว่าร้อยละ 10 ในปี 2562 โดยมุ่งส่งเสริมการสร้างพื้นที่สุขภาวะ หรือปัจจัยแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีกิจกรรมทางกาย ควบคู่ไปกับการสนับสนุน และสื่อสารรณรงค์เพื่อให้ การมีกิจกรรมทางกายในชีวิตประจำวันเป็นพฤติกรรมที่ปฏิบัติได้ง่าย และลดพฤติกรรมแน่นิ่ง ให้เป็นส่วนหนึ่งของค่านิยมและวิถีชีวิตของคนในประเทศ ประโยชน์ที่จะได้รับจากการเป็นเจ้าภาพการประชุมครั้งนี้ ในการผลักดันนโยบายในระดับโลก จะเสนอผลการศึกษาเปรียบเทียบสถานการณ์กิจกรรมทางกายในแต่ละประเทศ (Report Card) ซึ่งขณะนี้เริ่มทาบทามประเทศต่างๆ เข้าร่วม คาดว่าจะแสดงผลสำรวจได้มากกว่า 40 ประเทศ เพื่อเสนอทิศทางที่แต่ละประเทศควรจะขับเคลื่อนต่อ รวมถึงเกิดความร่วมมือต่อไป
ที่มา : สำนักข่าวสร้างสุข