“สสส.”สร้างพื้นที่สร้างสรรค์ให้เยาวชนเป็นสังคมสุขภาวะ

ยังมีพื้นที่อีกมากมายภายใน เขต กรุงเทพมหานครเมืองหลวงของประเทศไทย ที่ยังต้องการ ความช่วยเหลือจากสังคมเพื่อสร้างสรรค์ให้ชุมชน หรือ คนในพื้นที่ ที่มีปัญหาสามารถมีชีวิตอยู่ได้โดยปราศจากปัญหา

สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติฯ 80พรรษา ซอยงามดูพลี กทม. จึงเป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่ที่มีความหลากหลายทางสังคม ทั้งย่านเศรษฐกิจ ชุมชน และแหล่งรวมชาวต่างชาติ แต่สิ่งที่พิเศษไปกว่านั้นคือ เด็กๆ เยาวชน ภายในย่านนี้มีอยู่เป็นจำนวนมาก สังเกตได้จากกิจกรรมวัดเด็กแห่งชาติที่ผ่านมา ทำให้หลายอย่างภายในชุมชนนี้ “กลายเป็นปัญหา”

เกี่ยวเรื่องนี้ นายเชษฐา แสนสุข ประธานชุมชนบ้านเอื้ออาทร เล่าให้ฟังถึงบรรยากาศภายในชุมชน โดยเฉพาะการจัดงานที่เกี่ยวข้องกับเยาวชนในชุมชนให้ทราบว่า กิจกรรมวันเด็กแห่งชาติในสวนสาธารณะฯ ซอยงามดูพลี จะเป็นกิจกรรมที่ค่อนข้างมีคนมาก เนื่องจากเกิดขึ้นโดย 3 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนบ้านมั่นคงสวนพลู ชุมชนหน้าสมาคมธรรมศาสตร์ และชุมชนบ้านเอื้ออาทร ซึ่งก่อนการจัดงานจะมีการประชุมหารือกันให้รูปแบบกิจกรรมที่เด็กๆ ในชุมชนต้องการ กิจกรรมในครั้งนี้ทางชุมชนได้รับความช่วยเหลือจาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สสส. โดยจะเข้ามาช่วยในหลายๆ อย่าง โดยเฉพาะมุมเรื่องของความต้องการของเด็กที่อยากเห็น อยากได้ และอยากให้มีขึ้น ทำให้งานวันเด็กนี่้มีทั้งกิจกรรมบันเทิงแทรกสาระความรู้ที่ลงตัว เป็นที่พึงพอใจทั้งคนในชุมชนและเด็กๆ เป็นอย่างมาก 

กิจกรรมของเด็กในวันนั้นมีการแสดง “รำตังหวาย” เป็นการแสดงความสามารถของเด็กๆ ในชุมชน ซึ่ง น.ส.เอื้ออารี อาหมัด เด็กสาววัย 15 ปี หนึ่งในนางรำจากชุมชนบ้านเอื้ออาทร เล่าว่า ตนอยู่ชมรมนาฏศิลป์ ซึ่งเป็นชมรมของชุมชนบ้านเอื้ออาทรและบ้านมั่นคงสวนพลู เมื่่อ สสส.ชวนชุมชนของเราไปร่วมจัดงานวันเด็กก็เลยติดต่อมาทางชมรมว่าอยากให้มีกิจกรรมหรือการแสดงอะไรบ้าง จึงได้เลือกแสดงรำตังหวาย เพราะเป็นเพลงเร็ว สนุกสนาน การแต่งกายไม่ยาก และเหมาะสมกับเด็ก

“หนูมีส่วนร่วมกับการแสดงงานวันเด็กมาแล้วหลายปี ซึ่งแรกๆ ก็รู้สึกไม่ฃอยากทำ อยากเล่นสนุกสนานมากกว่า แต่เมื่อทำมาได้หลายปีเราก็จะเริ่มรู้ว่าการแสดงแบบไหนถึงจะเหมาะกับเด็ก จึงรู้สึกภูมิใจมากที่ได้มีส่วนร่วมในการออกแบบกิจกรรม เพราะในฐานะเด็กคนหนึ่งก็จะรู้ว่าสิ่งที่เด็กๆ ต้องการคืออะไร ที่ผ่านมาเคยเห็นการแสดงวันเด็กในบางที่ก็ไม่เหมาะสมสำหรับเด็ก มีการเต้นแบบโคโยตีบ้าง นุ่งสั้นบ้าง อยากฝากถึงคนจัดงานว่าการแสดงก็ควรเป็นอะไรที่เหมาะสมสำหรับเด็ก” เด็กสาววัย 15 ปี เล่าให้ฟังอย่างชื่นชม

การจัดกิจกรรม ที่ พยายามให้เด็กทุกคนได้มีส่วนร่วมนี้ นอกจากเป็นเวทีเปิดกว้างสำหรับเด็กและเยาวชนได้มีพื้นที่สร้างสรรค์ แสดงความสามารถ และมีกิจกรรมวันเด็กในแบบที่เด็กต้องการแล้ว ยังถือได้ว่า เป็นการสร้างสังคมต้นแบบให้เป็นตัวอย่างกับ ชุมชนอื่นๆ ได้อีกด้วย 

ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการ สสส. กล่าวว่า สังคมต้นแบบดังกล่าวนี้ จัดได้ว่า เป็น”ต้นแบบสังคมสุขภาวะ” เพราะกิจกรรมต่างๆ ล้วนสอดแทรกเนื้อหาสาระที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของเด็ก ที่สำคัญการจัดกิจกรรมร่วมกันของ 3 ชุมชนจะช่วยให้เกิดความรักความสามัคคีกัน เด็กๆ ก็ได้สร้างเครือข่ายเพื่อนต่างชุมชน ซึ่งเมื่อเด็กโตขึ้นก็จะสามารถดูแลชุมชนต่อได้

เรื่องการสร้างสังคมต้นแบบ นี้ ผู้จัดการ สสส. ยืนยันว่า ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สสส.จะพยายามสร้างพื้นที่สร้างสรรค์ในชุมชนให้เพิ่มมากขึ้น ไม่เพียงแต่เฉพาะวันเด็กเท่านั้น แต่ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สสส.จะจัดงานที่มีประเด็นเนื้อหาเกี่ยวกับการดูแลสุขภาวะเพื่อให้ชุมชนหรือหน่วยงานต่างๆ นำไปปรับใช้ได้ เช่น จัดนิทรรศการอาหารปลอดภัย อาจเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ชุมชนหรือโรงเรียนต่างๆ มาศึกษา หรือเรื่องการทำงานสร้างสุขก็จะเชิญโรงงานต่างๆ เข้ามาศึกษา เป็นต้น ซึ่งเนื้อหานี้จะผลัดเปลี่ยนทุกๆ  3 เดือน”

ได้ยินเสียงยืนยันอย่างหนักแน่นแบบนี้ ทำให้ค่อยเบาใจได้ว่า หากวันที่ประชาคมอาเชียนเกิดขึ้นในประเทศไทย เยาวชนไทยจะเป็นหน้าเป็นตาให้กับประประเทศได้อย่างแน่นอน

ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า