‘สสส.สปอร์ต ลีดเดอร์ แคมป์ 2016’

ที่มา : เว็บไซต์สยามกีฬารายวัน


ภาพประกอบจากเว็บไซต์โพสต์อัพนิวส์


\'สสส.สปอร์ต ลีดเดอร์ แคมป์ 2016\'  thaihealth


ยังคงพัฒนาสังคมและสร้างประโยชน์สุขให้แก่คนไทยตลอดมา สำหรับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. ที่ในปีนี้กลับมาดำเนินโปรเจกต์ "ค่ายผู้นำและเยาวชนกีฬา เพื่อสุขภาพของชุมชน" กับ 'สสส.สปอร์ต ลีดเดอร์ แคมป์ 2016' มุ่งมั่นพัฒนาผู้นำชุมชนและเยาวชนของประเทศ


ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 1 ก.ย. ที่ผ่านมา ที่ห้องปาริชาต ชั้น 3 โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน กรุงเทพฯ ได้มีการจัดงานแถลงข่าวไปอย่างเป็นทางการ โดยใช้ชื่อโครงการเต็มๆ ว่า "สสส. ค่ายผู้นำและเยาวชนกีฬา เพื่อสุขภาพชุมชน ประจำปี 2559" (สสส. สปอร์ต ลีดเดอร์ แคมป์ 2016) โดยได้รับเกียรติจาก นายวิวัฒน์ วิกรานตโนรส อดีตรองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย และผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) พร้อมด้วย นายวายุ พยัคฆันตร ผู้อำนวยการโครงการ สสส. ค่ายผู้นำและเยาวชนกีฬา เพื่อสุขภาพชุมชน ประจำปี 2559 ร่วมกันแถลงข่าว


นายวิวัฒน์ วิกรานตโนรส กล่าวว่า สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ บริษัทสยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตหนังสือพิมพ์สยามกีฬา รายวัน ได้มอบหมายให้ บริษัทคอร์โน แอนด์ แนช จำกัด จัดโครงการ สสส. ค่ายผู้นำและเยาวชนกีฬา เพื่อสุขภาพชุมชน ประจำปี 2559 (สสส. สปอร์ต ลีดเดอร์ แคมป์ 2016) เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ โดยการสร้างผู้นำชุมชนและเยาวชนเพื่อเป็นแกนนำในการพัฒนาศักยภาพคนในชุมชนให้หันมาสนใจเล่นกีฬาและออกกำลังกาย อีกทั้งได้เรียนรู้ ตระหนักถึงการออกกำลังกายและการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน โดยใช้กีฬาเป็นสื่อกลางซึ่งการดำเนินโครงการที่ผ่านมาประสบความสำเร็จ และสามารถเพิ่มกลุ่มแกนนำชุมชนและเยาวชนให้มีจำนวนมากขึ้นครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการทำหน้าที่ขยายผลการเล่นกีฬาและออกกำลังกายในชุมชนต่อไป


\'สสส.สปอร์ต ลีดเดอร์ แคมป์ 2016\'  thaihealth


โดยโครงการค่ายผู้นำปีนี้ ได้แบ่งการฝึกอบรมออกเป็น 2 หลักสูตร คือ ผู้นำชุมชนและผู้นำเยาวชนในส่วนของหลักสูตรผู้นำชุมชน จะเป็นการให้ความรู้แก่ผู้นำชุมชนท้องถิ่น ชายและหญิง ที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป มีสุขภาพแข็งแรง เป็นเจ้าหน้าที่สังกัดอบจ., อบต., เทศบาล, สถาบันการศึกษาประจำจังหวัด หรือผู้นำชุมชนท้องถิ่น ที่มีหน้าที่รับผิดชอบในเรื่องของชุมชน มวลชน และเยาวชน หรือผู้นำทางด้านกีฬาโดยตรง จะเป็นการเปิดมิติใหม่ เพื่อจัดการค่ายอบรมที่เหมาะกับพื้นที่และวิถีชีวิตชุมชนตลอดจนเรียนรู้การบริหารจัดการกิจกรรมกีฬาและนันทนาการอย่างมีระบบและยั่งยืน สามารถนำความรู้ที่ได้จากการฝึกอบรมไปต่อยอดการเผยแพร่ และสานต่อกิจกรรมในพื้นที่ของตนเองโดยให้คนในชุมชนได้มีส่วนร่วม และเห็นประโยชน์ของการออกกำลังกายนั่นเอง


ขณะที่หลักสูตรผู้นำเยาวชน จะเป็นการให้ความรู้แก่เยาวชน ชายและหญิงทั่วประเทศ อายุระหว่าง 13-15 ปี เกี่ยวกับการออกกำลังกายและการเป็นผู้นำที่ดี รวมถึงการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันเป็นหมู่คณะ และเรียนรู้กีฬา ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ใน 3 ชนิดกีฬา ประกอบด้วย ฟุตบอล, ว่ายน้ำ และทักษะการป้องกันตัว โดยผู้เข้าร่วมอบรมทุกคนจะได้เรียนรู้ทั้ง 3 ชนิดกีฬา จากผู้ฝึกสอนระดับชาติเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้ตลอดโครงการ


พร้อมกันนี้ บนเวทีในงานแถลงข่าวยังได้รับเกียรติจาก 4 ผู้ฝึกสอนมากประสบการณ์ที่จะเข้าร่วมถ่ายทอดวิชาความรู้ในสายวิชาของตน เผยแพร่ให้แก่เหล่าผู้นำและบรรดาเยาวชนที่จะเข้าร่วมโครงการครั้งนี้ขึ้นร่วมพูดคุยบนเวทีอีกด้วย ประกอบไปด้วย อาจารย์วรพงษ์ พัชรวิชญ์ ผู้ฝึกสอนกีฬาว่ายน้ำ, อาจารย์ปรีชาพัฒน์ ปยุตเรืองกิต ผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตบอล, อาจารย์ติณ เผ่าวงศากุล วิทยากรผู้ฝึกสอนศิลปะป้องกันตัว และ อาจารย์อุดม วงศ์หอม หัวหน้าวิทยากรด้านนันทนาการ


ทั้งนี้ นายวิวัฒน์ วิกรานตโนรส ยังกล่าวทิ้งท้ายอีกด้วยว่า แม้ว่าในทุกวันนี้จะมีการจัดการค่ายผู้นำชุมชนขึ้นอยู่อย่างต่อเนื่องในหลายๆ ภาคส่วน แต่สำหรับ "สสส.ค่ายผู้นำและเยาวชนกีฬา เพื่อสุขภาพชุมชน" มีความแตกต่างกับที่อื่นๆ ตรงที่โครงการไม่ได้มุ่งเน้นไปที่เรื่องการแข่งขันกีฬาอย่างจริงจัง หรือจะพัฒนาเยาวชนอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่จุดมุ่งหมายที่แท้จริงก็คือ การนำเอาเรื่องของการพัฒนาผู้นำในชุมชนกับการเล่นกีฬาเพื่อสุขภาพ และใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์มารวมกันมากกว่า


อีกทั้ง 4 วิทยากรที่โครงการเชิญมาให้ร่วมเผยแพร่สิ่งดีๆ แก่ผู้นำชุมชนและเยาวชนนั้นก็ไม่ได้จะสอนเพียงเรื่องของวิชาความรู้ของตนเองอย่างเดียว แต่จะแฝงสิ่งสำคัญที่มากับกีฬานั้นๆ เข้ามาด้วย อาทิ กีฬาฟุตบอลที่กำลังเป็นที่นิยมอันดับ 1 ของโทย นอกจากเรื่องเบสิกการเตะฟุตบอลต่างๆ แล้ว อาจารย์ปรีชาพัฒน์ก็จะเน้นย้ำถึงการเล่นฟุตบอลอย่างไรให้เป็นนักฟุตบอลที่มีเกียรติ มีวินัย เป็นต้นแบบของสังคม มิใช่เป็นนักฟุตบอลที่เล่นฟุตบอลเป็นเพียงอย่างเดียว


วิชาการว่ายน้ำ


อาจารย์วรพงษ์ พัชรวิชญ์ ก็จะปฏิบัติให้ลูกศิษย์ทุกคนทำได้ตามนโยบายอย่างทุกๆ ปี คือการ "ว่ายน้ำเป็นเล่นน้ำได้" เพราะนอกจากการว่ายน้ำด้วยท่วงท่าที่ถูกหลักแล้ว การเอาตัวรอดในน้ำ หรือการช่วยเหลือผู้อื่นที่กำลังจะจมน้ำก็ถือเป็นสิ่งสำคัญที่มนุษย์ทุกคนควรจะปฏิบัติได้


'สสส.สปอร์ต ลีดเดอร์ แคมป์ 2016'  thaihealth


วิชาศิลปะป้องกันตัว


อาจราย์ ติณณ์ เผ่าวงศากุล จะคอยสอนให้น้องๆ หนูๆ ที่เข้าร่วมโครงการ คำนึงถึงภยันตรายในสังคม การเอาตัวรอดเมื่อต้องพบกับอาชญากรรมซึ่งจะเป็นศิลปะการป้องกันตัวแบบพื้นฐาน ที่อาจารย์ติณณ์เน้นย้ำมาเองว่า เรียนรู้และเข้าใจได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นคนไหนที่เข้ามาเรียนรู้ก็สามารถนำไปปฏิบัติตามได้อย่างแน่นอน


ส่วน อาจารย์อุดม วงศ์หอม หัวหน้าวิทยากรด้านนันทนาการก็พร้อมที่จะให้ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคนได้สนุกไปกับกิจกรรมนันทนาการหลากหลายรูปแบบที่จะเตรียมพร้อมไว้ให้ผ่อนคลาย แต่แน่นอนว่าจะไม่ใช่การเล่นสนุกธรรมดา เพราะทุกกิจกรรมจะแฝงไปด้วยข้อคิดว่าสิ่งต่างๆ ที่เล่นไปแล้วนั้น ได้อะไรจากการเล่น พร้อมทั้งแฝงการทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความสุข เปรียบเสมือนการสอนให้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับผู้อื่นในสังคมอย่างไรให้แฮปปี้มีความสุขได้นั่นเอง


ทั้งหมดนี่คือสิ่งพิเศษสุดที่ทางโครงการพยายามสอดแทรกไว้ในวิชาความรู้ ตนมั่นใจอย่างยิ่งว่าค่ายผู้นำชุมชนและเยาวชนกีฬาค่ายนี้จะมีความแตกต่างกับที่อื่นๆ และยังมั่นใจอีกด้วยว่า ผู้เข้าร่วมโครงการนี้ทุกคนจะได้วิชาความรู้แล้วข้อคิดดีๆ ซึ่งถือเป็นสมบัติล้ำค่ากลับไปใช้ได้จริงปฏิบัติได้จริงแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ มิใช่การมาร่วมกิจกรรมเพื่อฆ่าเวลาแล้วกลับไปตัวเปล่าแบบไม่ได้อะไรอย่างแน่นอน


สำหรับหลักสูตรผู้นำชุมชน เปิดรับสมัครแล้วตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 16 ก.ย. 59 จำนวน 30 คน อบรมวันที่ 23-25 ก.ย. 59 ที่ห้องประชุม 211 สนามราชมังคลากีฬาสถาน หัวหมาก ส่วนหลักสูตรผู้นำเยาวชน จัดอบรม 2 รุ่น จำนวนรุ่นละ 100 คน โดยรุ่นที่ 1 รับสมัครแล้ววันนี้ถึง 3 ต.ค. 59 อบรมวันที่ 7-11 ต.ค. 59 ที่สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตอ่างทอง จ.อ่างทอง และ รุ่นที่ 2 รับสมัครแล้ววันนี้ถึง 10 ต.ค. 59 อบรมวันที่ 15-19 ต.ค. 59 ที่โรงเรียนอำมาตย์พานิชนุกุล จ.กระบี่


ผู้ที่สนใจทั้งสองหลักสูตรสามารถดาวโหลดใบสมัครได้ที่ www.siamsport.co.th แล้วส่งแฟกซ์ใบสมัครพร้อมเอกสารประกอบการสมัคร ซึ่งประกอบด้วย 1. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือเอกสารอื่นๆ ที่สามารถระบุ วัน เดือน ปีเกิดได้, 2. หนังสือรับรองสถานภาพของผู้เข้ารับการอบรม ที่ออกให้โดย อบจ., อบต., เทศบาล ที่ผู้เข้ารับการอบรมสังกัดอยู่ และจะต้องมีการลงนามรับรองเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ที่มีอำนาจในการลงนามขององค์กรนั้นๆ 3. หนังสืออนุญาตให้เข้ารับการอบรมได้จากผู้ปกครอง ในกรณีที่เป็นเยาวชนส่งมาที่ 0-2508-8271 หรือที่อีเมล [email protected] สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0-2508-8274 และ 08-9170-2253 (จันทร์-ศุกร์ เวลา 11.00-17.00 น.) โดยผู้สมัครทุกหลักสูตรจะไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น

Shares:
QR Code :
QR Code