สสส.ตั้งเป้าปี 55 ลดแม่วัยรุ่น 20%

พบ 50% เลือกทำแท้งไม่ปลอดภัย

 

       สสส. เร่งเดินหน้ามาตรการรับมือแม่วัยรุ่น ตั้งเป้าปี 55 ลดจำนวนแม่วัยรุ่น 20% หลังพบแม่วัยใสคลอดบุตรเฉลี่ยวันละ 360 คน  ขณะที่ 50% เลือกทำแท้งไม่ปลอดภัย และ 1 ใน 4 เป็นการทำแท้งซ้ำ 

 

สสส.ตั้งเป้าปี 55 ลดแม่วัยรุ่น 20%

 

       เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ที่อาคารเอส.เอ็ม.ทาวเวอร์ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้มีการประชุมคณะกรรมการกองทุน สสส. โดยมี นพ.วิชัย โชควิวัฒน รองประธานคณะกรรมการกองทุน สสส. คนที่ 2 เป็นประธาน โดยมีวาระพิจารณาที่สำคัญคือ มาตรการสนับสนุนเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครภ์ไม่พร้อมในวัยรุ่น

 

       นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ ที่ปรึกษาคณะทำงานป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พร้อมในวัยรุ่น  สสส. กล่าวว่า จากรายงานสถานการณ์เยาวชนไทยปัจจุบัน พบว่า วัยรุ่นไทย อายุระหว่าง 15-19 ปี ปัจจุบันจำนวน 5 ล้านคน มีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ถึง 1.25 ล้านคน มีอัตราการตั้งครรภ์อยู่ที่ 2.5 แสนคน/ปี โดยครึ่งหนึ่งเลือกที่จะทำแท้ง และมีอัตราการคลอดบุตร เฉลี่ย 1.2 แสนราย/ปี หรือเฉลี่ยวันละ 360 คน ซึ่งพบว่าส่วนใหญ่ขาดการดูแลครรภ์ที่เหมาะสม ทำให้เกิดปัญหาที่ตามมาคือ การคลอดก่อนกำหนด ทารกน้ำหนักตัวน้อย และมี 1% ที่มีการตายคลอด

 

       วัยรุ่นอายุ 15-19 ปี ที่ตั้งครรภ์และเลือกที่จะทำแท้ง พบว่ามี  50% เป็นการทำแท้งที่ไม่ปลอดภัย ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนสูงจนถึงขั้นเสียชีวิต และก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่สูง และประมาณ 1 ใน 4 ของวัยรุ่นที่ทำแท้ง เป็นการทำแท้งซ้ำ ทั้งนี้มีวัยรุ่นเพียง 1 ใน 3 ที่มีการคุมกำเนิดทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ และส่วนใหญ่ยังขาดความรู้ความเข้าใจในการป้องกันการตั้งครรภ์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ปัญหาที่ตามมาของแม่วัยรุ่นคือ ปัญหาการดูแลทางสาธารณสุข และปัญหาการใช้ชีวิตทางสังคม โดยเฉพาะอนาคตทางการศึกษา ขณะที่มาตรการป้องกันและแก้ปัญหาในสังคมไทย มีหน่วยงานและภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก แม้ว่าประเทศไทยจะเป็นต้นแบบในการผลิตสื่อและคู่มือสร้างความรู้และความเข้าใจ แต่ยังขาดกลไกประสานและเชื่อมโยงที่มีประสิทธิภาพนพ.ยงยุทธ กล่าว 

 

       นพ.ยงยุทธ กล่าวว่า มาตรการป้องกันและแก้ไขการตั้งครรภ์ไม่พร้อมในวัยรุ่น จึงแบ่งออกเป็น 2 มาตรการสำคัญคือ มาตรการระยะสั้นโดยการดำเนินงานที่สำคัญคือ การสร้างทักษะชีวิตในวัยรุ่น การสื่อสารเพื่อสร้างความตระหนักในสังคม เพิ่มการใช้ถุงยางอนามัยในกลุ่มเสี่ยง ศึกษาและพัฒนาแนวทางป้องกันการทำแท้งที่ไม่ปลอดภัย และดูแลครอบครัวที่เต็มใจเป็นแม่ โดยได้ตั้งเป้าหมายการลดปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พร้อมในวัยรุ่น 20% ภายในปี 2555

 

       นพ.ยงยุทธ กล่าวว่า ส่วนมาตรการการขับเคลื่อน ควรมีกลไกคณะกรรมการระดับชาติ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานในมาตรการระยะสั้น โดยมีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน หรือผู้ที่นายกฯมอบหมาย เพื่อทำหน้าที่เชื่อมประสาน กำกับ และติดตาม ให้หน่วยงานและองค์กรที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมมือกันทำงาน เพื่อปิดช่องว่างของการดำเนินงานที่ยังขาดอยู่ และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายในระยะเวลา 2 ปี โดย สสส.จะทำหน้าที่เป็นสำนักงานเลขานุการเพื่อเชื่อมประสานในการทำงานจากทุกฝ่ายและสนับสนุนงบประมาณที่จำเป็นในการดำเนินงาน จนกว่าคณะกรรมการพัฒนาอนามัยการเจริญพันธุ์แห่งชาติ จะเกิดขึ้นตามร่าง พ.ร.บ.การอนามัยเจริญพันธุ์ ที่เสนอโดยกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมีกลไกคณะกรรมการระดับชาติทำหน้าที่เชื่อมประสานการทำงานระหว่างหน่วยงานต่างๆ และมีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายในการกำกับดูแลและสนับสนุน จะเป็นการแก้ปัญหาในระยะยาวต่อไป

 

 

 

 

 

ที่มา : สำนักข่าว สสส.

 

 

 

 

Update : 15-10-53

อัพเดทเนื้อหาโดย : สุนันทา สุขสุมิตร

Shares:
QR Code :
QR Code