สสส.จับมือ ทุกภาคส่วนรณรงค์เลิกบุหรี่

พ่อเมืองตักสิลา ร่วมกับ สสส.จับมือ ทุกภาคส่วนรณรงค์เลิกบุหรี่


สสส.จับมือ ทุกภาคส่วนรณรงค์เลิกบุหรี่ thaihealth


การเสียชีวิตที่สามารถป้องกันได้ การสูบบุหรี่เพิ่มโอกาสเป็นมะเร็งปอด ประมาณ 80-90เปอร์เซนต์ของผู้ป่วยมะเร็งปอดมีสาเหตุมาจากการสูบบุหรี่ นอกจากนั้นยังเป็นสาเหตุของโรคปอดอื่นๆ เช่น ถุงลมโป่งพอง หญิงมีครรภ์ที่สูบบุหรี่มีโอกาสแท้งลูกมากขึ้นและมีเด็กที่คลอดออกมาอาจมีน้ำหนักน้อยกว่าปกติ การสูบบุหรี่ยังเพิ่มโอกาสของการหัวใจวายและโรคมะเร็งประเภทอื่นๆ อีกด้วย


นายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยว่า  เนื่องจากจังหวัดได้มีการครบ150ปี เมืองมหาสารคาม ในวันที่ 22สิงหาคม2558 อยากจะเชิญชวนผู้ที่สูบบุหรี่ให้รณรงค์เลิกบุหรี่เพื่อสุขภาพตนเอง เพื่อครอบครัวและเพื่อคนรอบข้างซึ่งเป็นแหล่งทำรายสุขภาพ และทำให้สิ้นเปลืองกับการซื้อบุหรี่เฉลี่ยซึ่งราคาบุหรี่ ซึ่งอยู่ในราคาตั้งแต่ 32 บาท ถึง 130บาท ถ้าหากเลิกบุหรี่ได้ก็ลอดภัยจากปอด และคนรอบข้างก็ปลอดภัยไปด้วยและเมื่อเลิกบุหรี่ได้ก็ทำให้มีเงินเก็บ เพื่อ"หนุนกฎหมายบุหรี่ใหม่เพื่อคุณภาพชีวิตคนไทย” เพื่อสนับสนุน ร่างพ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบฉบับใหม่ โดยจำกัดอายุผู้ซื้อบุหรี่จากเดิม 18 ปี เป็น 20 ปี ควบคุมผลิตภัณฑ์บุหรี่ใหม่ ๆ และการแบ่งขายเป็นมวนส่วนร่วมสนับสนุนกฎหมายบุหรี่ฉบับใหม่ เพื่อปกป้องเยาวชนให้ห่างไกลจากพิษภัยของบุหรี่สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของคนไทย


"และเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายเร่งด่วนของกระทรวงสาธารณสุขที่ได้ดำเนินการให้มีการแก้ไขปรับปรุงพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ.2535 และพระราชบัญญัติคุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ พ.ศ.2535 ที่ใช้มานานเป็นเวลา ๒๓ ปี ให้ทันกับสถานการณ์ปัจจุบัน และครอบคลุมผลิตภัณฑ์ยาสูบรูปแบบใหม่ๆ โดยกฎหมายบุหรี่ฉบับใหม่ มีสาระสำคัญ เน้นการควบคุมการตลาด เช่น ห้ามทำการโฆษณาทั้งทางตรงและทางอ้อมในช่องทางต่างๆ ห้ามแสดงชื่อหรือเครื่องหมายทางการค้าของผลิตภัณฑ์ยาสูบ ในทุกสื่อไม่ว่าจะเป็น สื่อสิ่งพิมพ์ อินเตอร์เน็ต โทรทัศน์ หรือการประกวดการแข่งขัน รวมถึงการใช้สื่อ" ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าว


นายพลทวี ทิพย์โอสถ เล่าว่า ตนเองเองสูบบุรี่มาตั้งแต่ อายุ 25 ปี  ได้ตัดใจหันหลังให้กับบุหรี่อย่างถาวร ก่อนหน้านั้นเค้าได้สูบบุหรี่เป็นเวลานานหลายสิบปี จนพิษของควันบุหรี่ส่งผลให้เขามีอาการเจ็บป่วย ด้วยอาการหอบ เหนื่อยง่าย เจ็บหน้าอก ประกอบกับคนในครอบครัวได้กลิ่นบุหรี่จากตนแล้วรู้สึกเหม็นและรำคาญ ตนรู้สึกไม่ดีและคิดจะเลิกอยู่หลายครั้ง แต่ก็ต้องแพ้ใจจนต้องกลับมาสูบอีก วนเวียนอยู่อย่างนี้หลายครั้ง จนวันหนึ่งได้ฟังเทศน์จากหลวงพ่อถึงอบายมุขและพิษภัยของบุหรี่ ที่มีผลเสียต่อสุขภาพตนเองและคนใกล้ชิด ทำให้ตนคิดได้และตัดสินใจแน่วแน่เลิกบุหรี่อีกครั้งด้วยวิธีหักดิบ ในระยะแรกของการเลิกสูบบุหรี่ทำให้ตนหงุดหงิดง่าย อารมณ์ฉุนเฉียว เคยมาขอรับคำปรึกษาจากคลินิกอดบุหรี่ของโรงพยาบาล แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะความเคยชินที่เคยสูบบุหรี่มาเป็นหลายสิบปี ประกอบกับเมื่อเห็นเพื่อนสูบจึงอดใจไม่ไหว เมื่อเลิกได้ 3-4 วัน ก็กลับมาสูบอีก เป็นอย่างนี้ 3-4 ครั้ง จนร่างกายเริ่มไม่ไหว จึงตัดใจสินครั้งสุดท้าย รวบรวมกำลังใจของตนและกำลังใจเสริมจากครอบครัว จนทำให้ทุกวันนี้เลิกสูดบุหรี่ได้อย่างเด็ดขาดด้วยตนเอง


นางสาวอัญชุลี  ย้ำว่า การเลิกสูบบุหรี่ไม่ยากอย่างที่คิด ขอเพียงมีความแน่วแน่ตั้งใจ ก็สามารถเลิกได้ด้วยตนเอง อาจจะฟังดูเป็นวิธีการที่ค่อนข้างยาก แต่ถ้าทำได้ด้วยตนเอง ผู้ที่เลิกได้จะรู้สึกภูมิใจและการเลิกสูบบุหรี่จะอยู่ติดตัวตลอดไป โอกาสที่จะกลับไปสูบอีกจึงน้อยมาก ทั้งนี้หากเลิกสูบเองไม่ได้ สามารถเข้ารับบริการเลิกบุหรี่กับสถานพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุข ได้ทุกแห่งทั่วประเทศ ซึ่งยินดีให้การต้อนรับและยินดีให้การช่วยเหลือ เป็นกำลังใจให้คุณสามารถเลิกสูบบุหรี่ มีสุขภาพที่ดีและสามารถอยู่ร่วมกับครอบครัวและสังคมได้อย่างมีความสุขต่อไป ภาพคนสูบบุหรี่/ ผู้สมัครใจเลิกบุหรี่รับฟังคำปรึกษาจากเจ้าหน้าที่ ภาพนายพลทวี กำลังทำงาน /รับฟังคำปรึกษาจากเจ้าหน้าที่


นางสาวอัญชุลี ประคำทอง พยาบาลประจำคลินิกลีลาวดี ให้บริการคำปรึกษาและบำบัดอาการติดบุหรี่ เปิดเผยว่า คลินิกลีลาวดี โรงพยาบาลมหาสารคาม ปัจจุบันมีผู้มาสมัครใจรับบริการบำบัดอาการติดบุหรี่ ต่อวันประมาณ 10 – 15 ราย หรือเฉลี่ยเดือนละ 40 ราย ผู้มารับบริการส่วนใหญ่เป็นชายอายุ 40 – 50 ปี และบางส่วนมาจากการร่วมโครงการกับสถานศึกษา ส่งเยาวชนเข้ามาบำบัดร่วมด้วย ซึ่งจากที่ผ่านมาพบว่าผู้ที่สมัครใจเข้ามารับบริการ มีโอกาสที่จะเลิกสูบบุหรี่ได้สำเร็จสูงเกิน 80 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้เป็นเพราะกลุ่มดังกล่าวมีความตั้งใจอยู่ก่อนแล้ว เจ้าหน้าที่เพียงตอกย้ำความตั้งใจ แนะนำการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ร่วมกับการใช้น้ำยาบ้วนปากอดบุหรี่ ผู้ที่ติดบุหรี่ส่วนใหญ่จะเกิดอาการเคยชินจากการใช้มือหยิบจับบุหรี่ขึ้นมาสูบในยามว่าง จึงต้องหากิจกรรมอื่นทำเพื่อลดความคิดหรือความรู้สึกอยากสูบบุหรี่ ซึ่งความเคยชินนี้ส่วนใหญ่จะปรับตัวได้ภายในระยะ 2 สัปดาห์ ส่วนอาการหงุดหงิด นอนไม่หลับจะมีมากน้อยต่างกัน จึงแนะนำว่าควรทำจิตใจให้ผ่อนคลาย ดื่มน้ำให้มาก หลีกเลี่ยงการดื่มชา กาแฟ ทำเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ จนร่างกายและจิตใจเข้าสู่ระยะที่คลี่คลายประมาณ 1-2 เดือนจึงจะมีอาการปกติ และถ้าจะให้คงอยู่จนแน่ใจจริงว่าเลิกได้ คือ 4 เดือนขึ้นไป ซึ่งในระหว่างนี้ กำลังใจจากคนรอบข้างโดยเฉพาะคนในครัวครอบถือเป็นสิ่งสำคัญ เป็นแรงหนุนไม่ให้ผู้เลิกบุหรี่ถอดใจและพาเค้าให้สามารถเลิกสูบได้อย่างตลอดชีวิต


นายแพทย์คิมหันต์ ยงรัตนกิจ นพ.สสจ.มหาสารคาม เปิดเผยว่า ชายไทยป่วยเป็นโรคมะเร็งปอดเป็นอันดับ2 ชี้บุหรี่เป็นตัวสำคัญ สูบเกิน1ซองต่อวัน เสี่ยงเป็นโรคมากกว่าคนไม่สูบบุหรี่ถึง16เท่า โดยเฉพาะมะเร็งอดที่พบมากเป็นอันดับ2 ในเพศชาย โดยพบว่าผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งปอด ร้อยละ90  เกิดจากการสูบบุหรี่ มีผู้สูบบุหรี่เกินวันละ1ซอง มีโอกาสเป็นมะเร็งปอดมากกว่าผู้ไม่สูบถึง16เท่า ซึ่งความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นสูงหลังอายุ40 ปี ปอดเกิดจากการเจริญเติบโตของเซลที่ผิดปกติอย่างรวดเร็ว และไม่ควบคุมได้ ทำให้เกิดก้อนของเซลที่ฟิดปกติไปกดหลอลมหรือลุกลามไปสู่อวัยวะอื่นๆ ปัญหาการหายใจ เช่น หายใจสั่น เจ็บบริเวณหน้าอก ไอมีเลือด หอบ เหนื่อยหากพบว่าผู้ป่วยเป็นมะเร็งปอดก็จะทำการผ่าตัด ในกรณีก้อนไม่ใหญ่ก็จะฉายแสงร่วมกับการให้เคมีบำบัดเพื่อยับยั้งการลุกลาม


ดร.ศุภชัย สมัปปิโต รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยมหาสารคามได้เริ่มก้าวสู่ประชาคมอาเซียนจึงได้มีการรณรงค์มหาวิทยาลัยและร้านยาปลอดบุหรี่100เปอร์เซ็นต์ซึ่งโครงการมหาวิทยาลัยปลอดบุหรี่มีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการปกป้องสิทธิของผู้ไม่สูบบุหรี่ การสูบบุหรี่ในสถานที่ห้ามสูบ หรือสถานที่ปลอดบุหรี่ถือว่าเป็นความผิด ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองสุขภาพผู้ไม่สูบบุหรี่ พ.ศ. 2535 เป็นการดูแลผู้ที่ยังสูบบุหรี่ โดยกำหนดพื้นที่สูบบุหรี่ที่มีมาตรฐาน ในพื้นที่มหาวิทยาลัยอีกทั้งดูแลผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่ โดยจัดให้มีหน่วยบริการในมหาวิทยาลัย ตลอดจนเสริมสร้างความตระหนักถึงผลเสียของการสูบบุหรี่ มหาวิทยาลัยสนับสนุนความรู้เกี่ยวกับผู้สูบบุหรี่มือสอง และพิษภัยของบุหรี่ ให้กับนิสิต บุคลากร และผู้ที่เข้ามาเยี่ยมมหาวิทยาลัย ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยมหาสารคามจะพัฒนาและสนับสนุนให้ทุกคณะ และทุกหน่วยงานภายในมหาวิทยาลัย เป็นคณะและหน่วยงานปลอดบุหรี่ เพื่อสร้างให้มหาวิทยาลัยมหาสารคามเป็นมหาวิทยาลัยปลอดบุหรี่100 เปอร์เซ็นต์ซึ่งถือได้ว่าประสบผลสำเร็จ


 


 


ที่มา: หนังสือพิมพ์สยามรัฐ โดย เอนก กระแจ่ม และสุรเชฐ สัจจลักษ์


ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต

Shares:
QR Code :
QR Code