สสส.จับมือสุราษฎร์ธานี ต้นแบบความปลอดภัยทางถนน
ที่มา : ศูนย์ข่าวแปซิฟิค โดยวริศรา ชาญบัณฑิตนันท์ ผู้สื่อข่าว
ภาพประกอบจากศูนย์ข่าวแปซิฟิค
สสส.จับมือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นติดตามศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลเมืองเวียง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี หนุนต้นแบบในการจัดการความปลอดภัยทางถนน
โครงการวิจัยการพัฒนาศูนย์เด็กเล็กต้นแบบในการจัดการความปลอดภัยทางถนน โดยการมีส่วนร่วมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและชุมชนจำนวน 16 แห่ง 4ภูมิภาค ด้วยการสนับสนุนจากกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ในวันนี้ (31พ.ค.61) ได้ลงมาติดตามทางภาคใต้ ที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลเมืองเวียง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งประกอบด้วยนักเรียนเตรียมอนุบาลจำนวน 31คน นักเรียนชั้นอนุบาลจำนวน 103คน โดยตั้งแต่ช่วงเช้าผู้ปกครองที่มาส่งบุตรหลานด้วยรถจักรยานยนต์นั้นก็จะสวมใส่หมวกนิรภัยมาด้วย แม้บ้านกับโรงเรียนจะไม่ไกลกันมากนัก เมื่อถึงเข้าแถวเคารพธงชาติ สวดมนต์เรียบร้อยแล้ว ครูก็จะมีกิจกรรมร้องเล่นต่างๆ เช่น ร้องเพลง หรือถาม-ตอบ ว่าตอนเช้าเดินทางมาอย่างไร ด้วยรถอะไร ผู้ปกครองขับรถเร็วไหม แล้วสวมหมวกนิรภัย หรือคาดเข็มขัดนิรภัยหรือเปล่า ก็เรียกความกระตือรือร้นจากเด็กๆ ได้มากทีเดียว
สำหรับการเรียนการสอนในห้องเรียนที่สอดแทรกเข้าไปในแต่ละวิชา เช่น วิชาศิลปะ ที่ฝึกให้นักเรียนระบายสีไฟจราจรลงในกระดาษA4 พร้อมครูที่จะอธิบายความหมายของไฟสีนั้นๆอย่างเข้าใจง่าย รวมทั้งกิจกรรมก่อนนำเข้าสู่บทเรียนยังมีการร้องเพลงบอก เป็นจังหวะมโนราห์ ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเด็กๆที่มารณรงค์ให้ทุกคนสวมหมวกนิรภัย เคารพกฎจราจร พร้อมยกมือไหว้ขอ ซึ่งจังหวะของเพลงที่เข้าใจง่าย เพราะถือเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ให้เด็กๆได้ซึมซับควบคู่ไปพร้อมกับวัฒนธรรมทางภาคใต้ ถัดมาเป็นการทดลองบทบาทสมมุติเมื่อตนเองเป็นผู้ขับขี่-ผู้โดยสารทั้งรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ไม่ให้ขับเร็ว และจี้ท้ายเพื่อนข้างหน้า
นอกจากนี้อีกหนึ่งกิจกรรมที่เรียกเสียงหัวเราะ และความสนใจได้ไม่น้อย ก็คือ การเล่นหนังตะลุง เป็นสื่อการเรียนการสอนที่เล่นให้รู้ว่าไม่ว่าจะนั่งรถจักรยาน หรือรถจักรยานยนต์ก็ต้องสวมหมวกนิรภัย และไม่ขับขี่ด้วยความเร็วเกินไป หากคนที่บ้านขับเร็ว หรือดูแล้วน่ากลัว ก็ให้เด็กๆช่วยกันเตือน
ครูปิยะนาถ ศรีใย (ครูรักษาราชการแทนผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลเมืองเวียง) กล่าวว่า ตั้งแต่เริ่มโครงการเมื่อเดือนพฤษภาคม 2560 ที่นำเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนน เข้ามาสอดแทรกในหลักสูตรการเรียนหลัก ผ่านภูมิปัญญาท้องถิ่นที่นำมาช่วยเป็นสื่อการเรียนการสอน โดยเฉพาะเรื่องหมวกนิรภัย และภาษาอังกฤษที่ต้องย้ำทุกวันหน้าเสาธงตลอด 1ปี ด้วยการเน้นการรณรงค์และสอนให้เด็กเข้าใจ เมื่อเด็กเห็นเพื่อนเริ่มใส่หมวกนิรภัย ตัวเองก็อยากสวมใส่บ้าง จึงนำไปสู่การขอให้ผู้ปกครองซื้อหมวกนิรภัยให้สวมใส่ทุกครั้งเวลานั่งรถมาโรงเรียน
ส่วนทางครูจะเสริมด้านความรู้ว่าทำไมเราจึงต้องสวมหมวกนิรภัย เมื่อสวมแล้วมีประโยชน์อย่างไร ที่เป็นพื้นฐานเข้าง่ายๆ อย่างเช่น หากไม่ใส่หมวก แล้วรถล้มจะทำให้หัวแตก ถ้าทุกคนใส่หมวกก็จะปลอดภัย และในเวลาทัศนศึกษานอกสถานที่ บ้างครั้งจะพาไปสถานีตำรวจไปดูรถที่เกิดอุบัติเหตุจริง ว่ามีความรุนแรงแค่ไหน หากเกิดกับตนเองจะส่งผลอย่างไร โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ความรู้ ซึ่งครูคาดหวังว่าการปลูกฝังให้มีวินัยตั้งแต่เด็ก จะสามารถปลูกจิตสำนึกที่ดีได้อย่างยั่งยืน สำหรับผลการสอนตลอดกว่า 1ปีที่ผ่านมา มีความแตกต่างที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน ทั้งความมีระเบียบของเด็ก รวมทั้งผู้ปกครองที่ให้ความร่วมมือ เห็นได้จากการสวมหมวกที่เพิ่มขึ้นกว่า 80% โดยหลังจากนี้ทางโรงเรียนก็มีการวางแผนในการพัฒนาศักยภาพของครูผู้สอนเพิ่มเติม เพื่อการถ่ายทอดความรู้รูปแบบต่างๆแก่เด็กนักเรียนต่อไป