สสส.จัดงานใหญ่ “SE Matching Day” จับคู่ 20 ธุรกิจกับกิจการเพื่อสังคม
สสส.- สกส. เดินหน้าชวนภาคธุรกิจร่วมขับเคลื่อนงาน”กิจการเพื่อสังคม-Social Enterprise” ครั้งใหญ่ หนุนสร้างกิจการเพื่อสังคมทั่วประเทศ เปิดงาน “SE Matching Day” ครั้งแรกในไทยระดม 20 กิจการเพื่อสังคม พร้อมจับมือองค์กรใหญ่ทั้งรัฐและเอกชนร่วมสนับสนุนงานกิจการเพื่อสังคม เพื่อเป็นกลไกแก้ไขปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ที่โรงแรมเอส 31 สุขุมวิท ทพ.กฤษดาเรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)กล่าวว่า สสส. ร่วมกับ สำนักงานสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคม (สกส.)ได้จัดงาน “SE Matching Day” เป็นครั้งแรกในประเทศไทยจับคู่ธุรกิจระหว่างองค์กรขนาดใหญ่ของภาครัฐและเอกชนกับผู้ประกอบการกิจการเพื่อสังคมเพื่อหนุนเสริมการทำงานสร้างสรรค์สังคมร่วมกันซึ่งต่างประเทศได้พิสูจน์แล้วว่า กิจการเพื่อสังคม (Social Enterpriseหรือ SE ) เป็นกลไกที่ดีที่สุดในการช่วยวางรากฐานการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมของประเทศให้เดินหน้าต่อไปได้อย่างยั่งยืนนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่มีความเท่าเทียมกันอย่างแท้จริงสอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11ที่มุ่งเน้นการสร้างสังคมที่เสมอภาค เป็นธรรม และอยู่รวมกันอย่างเป็นสุขซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของสสส. มาโดยตลอด
“ผมเชื่อว่าการจับคู่ร่วมมือกันระหว่างองค์กรขนาดใหญ่ทั้งภาครัฐและเอกชนซึ่งมีทั้งความตั้งใจช่วยเหลือสังคม มีองค์ความรู้ ทุนทรัพย์ บุคลากรและประสบการณ์การบริหารโครงการเพื่อสังคมขนาดใหญ่กับกิจการเพื่อสังคมซึ่งมีนวัตกรรม วิธีการแก้ไขปัญหาสังคมใหม่ๆ ที่มีประสิทธิภาพและพวกเขาได้ทำงานคลุกคลีกับชุมชนอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องการร่วมมือกันนี้จะช่วยให้เราสามารถแก้ไขปัญหาสังคมได้อย่างดีขึ้นทั้งปัญหาสิ่งแวดล้อม แรงงาน และสุขภาพ” ทพ. กฤษดา กล่าว
นายมงคล เกษมสันต์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคม (สกส.) กล่าวว่าการจัดงานครั้งนี้มี 20 กิจการเพื่อสังคมที่มีเป้าหมายแก้ไขและพัฒนาปัญหาสังคมในหลายด้านเข้าร่วมงานเพื่อมาจับคู่กับองค์กรขนาดใหญ่ที่พร้อมมานำเสนอนวัตกรรมการแก้ไขปัญหาหรือพัฒนาสังคมเพื่อร่วมจับคู่ทำงานกับองค์กรขนาดใหญ่ ซึ่งน่ายินดีที่ล่าสุดมี 3องค์กรที่พร้อมจะให้การสนับสนุน SE แล้วคือ 1.บริษัท เมืองไทยประกันชีวิตจำกัด (มหาชน) จะสนับสนุนร่วมเดินหน้าทำงานเรื่องการอนุรักษ์ปะการังและระบบนิเวศทางทะเลกับกิจการเพื่อสังคมNew Haven Reef Conservation Programเพื่อช่วยอนุรักษ์ปะการังและระบบนิเวศทางทะเล 2.บริษัท นานมี จำกัดจะร่วมเคลื่อนงานศิลปะบำบัดเพื่อเยี่ยวยาสภาพจิตใจเด็กเยาวชนชายขอบโดยสนับสนุนกิจการเพื่อสังคม Children Mind & Child Galleryนำผลงานศิลปะของเด็กชายขอบมาต่อยอดเป็นนิทาน 3 ภาษาพร้อมร่วมพัฒนาหลักสูตรศิลปะร่วมกันและสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ศิลปะให้เด็กชายขอบอย่างต่อเนื่อง และ
3.สำนักงานอุทยานการเรียนรู้ (ทีเค พาร์ค ) กำหนดยุทธศาสตร์การทำงานร่วมกับ สกส.เพื่อเผยแพร่ประเด็นกิจการเพื่อสังคมให้แก่เด็กและเยาวชนในสังคมแห่งการเรียนรู้พร้อมขยายสู่เครือข่ายทั่วประเทศ ผ่านการเวิร์คช็อป และค่ายอบรมต่างๆเพื่อปลูกฝังแนวคิดและบ่มเพาะเยาวชนในการดำเนินธุรกิจที่สร้างความสมดุลย์ระหว่างสังคมและเศรษฐกิจให้เกิดการรับรู้ที่กว้างขวางมากยิ่งขึ้น
“สกส. คาดหวังว่า กิจกรรมการจับคู่ธุรกิจกับ SE วันนี้ จะจุดประกายและปลุกพลัง ให้องค์กรขนาดใหญ่ต่างๆและกิจการเพื่อสังคมได้เกิดการร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดและจริงจังเพื่อต่อนวัตกรรมการแก้ไขปัญหาสังคมอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ สกส.ยังมีการสนับสนุนกิจการเพื่อสังคมตามช่องทางอื่นๆ อาทิ กองทุนต้นแบบเพื่อส่งเสริมการเริ่มต้นกิจการเพื่อสังคม (UnLtd Thailand)หลักสูตรพัฒนาผู้ประกอบการเพื่อสังคม และทีมที่ปรึกษาที่จะช่วยพัฒนาศักยภาพของกิจการเพื่อสังคมให้แข่งขัน และเติบโตได้ในตลาด”นายมงคลกล่าว
ทีมา : สำนักข่าวสร้างสุข