‘สวนดอก’ โรงพยาบาลปลอดบุหรี่ 100%

สวนดอกปลอดบุหรี่ ร่วมสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี ทุกชีวีปลอดภัย


'สวนดอก' โรงพยาบาลปลอดบุหรี่ 100%  thaihealth


จาก “ประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 19)  พ.ศ. 2553”  ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ พ.ศ.2535 กำหนดให้ “สถานบริการสาธารณสุขและส่งเสริมสุขภาพ” อาทิ คลินิก โรงพยาบาล สถานีอนามัย ถูกจัดให้เป็นสถานที่ “ห้ามสูบบุหรี่” หรือ “เขตปลอดบุหรี่” ทั้งหมด (ปลอดบุหรี่ 100 %) ทั้งในและนอกอาคาร มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน 2553 โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หรือที่รู้จักกันในชื่อ “โรงพยาบาลสวนดอก” ก็เป็นหนึ่งในสถานพยาบาลที่ได้ดำเนินการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตัวเอง ด้วยความร่วมแรงร่วมใจของบุคลากรทางแพทย์ ตั้งแต่ผู้บริหารระดับสูงไปจนถึงเจ้าหน้าที่ในทุกระดับ เพื่อนำไปสู่การเป็น “โรงพยาบาลปลอดบุหรี่ 100%” โดยได้ของบประมาณสนับสนุนการทำกิจกรรมจาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2556 ผ่าน “โครงการสวนดอกปลอดบุหรี่”


'สวนดอก' โรงพยาบาลปลอดบุหรี่ 100%  thaihealthผู้ช่วยศาสตราจารย์สุรินทร์พร ลิขิตเสถียร ประธานโครงการสวนดอกปลอดบุหรี่ เผยว่า การดำเนินโครงการได้แบ่งกลุ่มเป้าหมายออกเป็น 5 กลุ่มใหญ่ๆ ประกอบด้วย กลุ่มที่ 1 คณะกรรมการดำเนินงาน ซึ่งก็คือทีมสหสาขาวิชาชีพจิตเวชศาสตร์ ที่ผู้ช่วยศาสตราจารย์สุรินทร์พรเป็นประธาน กลุ่มที่ 2 ผู้ร่วมดำเนินโครงการ ได้แก่ แกนนำจากหน่วยงานต่างๆ ของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และโรงพยาบาลสวนดอก ที่มีบทบาทสำคัญในการกำหนดกิจกรรม โดยได้ร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการ รวมทั้งเข้ารับการอบรมเรื่องพิษภัยของบุหรี่ และได้นำเสนอโครงการดำเนินงาน ซึ่งทางสสส.ได้มอบทุนดำเนินงานมาจำนวนหนึ่งตามที่นำเสนอ พร้อมทั้งปิดท้ายด้วยการแลกเปลี่ยนเรียนรู้การดำเนินงานของแต่ละหน่วยงาน


กลุ่มที่ 3 พยาบาลจากหน่วยบริการ ซึ่งได้เข้ารับการอบรมพัฒนาศักยภาพและนำความรู้ไปบริการให้ความรู้แก่ผู้ป่วยในหน่วยงานที่ตนเองรับผิดชอบ รวมทั้งได้ช่วยประชาสัมพันธ์โครงการให้แก่บุคลากรในหน่วยงานได้รับทราบหรือเข้ารับการบำบัด กลุ่มที่ 4 ผู้เข้ารับการบำบัด จากการสำรวจ พบว่า ระยะแรกมีบุคลากรที่สูบบุหรี่จำนวน 177คน เข้ารับการบำบัด 39 คน โดยทั้งหมดต้องเข้าคอร์สการบำบัดเป็นเวลา 3 เดือน และกลุ่มสุดท้าย คือ กลุ่มเครือข่าย ซึ่งมีการร่วมลงนามบันทึกความเข้าใน (MOU) กับภาครัฐและภาคประชาชน รวมถึงกรมวิทยาศาสตร์สุขภาพและสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สุขภาพ เพื่อร่วมเป็นเครือข่ายภาคี


ในการดำเนินโครงการสวนดอกปลอดบุหรี่ เริ่มจากการปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมของโรงพยาบาลเพื่อปลุกจิตสำนึกและ'สวนดอก' โรงพยาบาลปลอดบุหรี่ 100%  thaihealthเตือนใจบุคลากรของโรงพยาบาลเองและผู้มารับบริการ มีการจัดกิจกรรมรณรงค์ให้ทุกคนในสวนดอกได้คำนึงถึงพิษภัยร้ายของบุหรี่ และประชาสัมพันธ์ให้ทราบถึงการเป็นโรงพยาบาลปลอดบุหรี่ 100% ด้วยการไม่จัดพื้นที่สูบบุหรี่ภายในโรงพยาบาล การติดสติ๊กเกอร์ "สวนดอกปลอดบุหรี่" ตลอดจนป้ายป้องปรามปรับ 2,000 บาท หากฝ่าฝืนสูบบุหรี่ในโรงพยาบาล ตามจุดต่างๆ ที่เป็นจุดเด่นง่ายต่อการพบเห็นแก่ผู้ที่สัญจรผ่านไปมา เช่น ประตูทางเข้าลิฟท์ของโรงพยาบาล เป็นต้น


“สวนดอกปลอดบุหรี่ ร่วมสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี ทุกชีวีปลอดภัย” แต่งโดย ปราณี คำมะรัก ฝ่ายงานการพยาบาลผู้ป่วยสูตินรีเวชศาสตร์  เป็นคำขวัญประจำโครงการที่มีความเรียบง่าย แต่แฝงด้วยนัยของการณรงค์ให้เกิดความร่วมมือร่วมใจของชาวสวนดอกอย่งจริงใจในการสร้างสิ่งแวดล้อมที่ปลอดบุหรี่ เป็นการกระตุ้นจิตสำนึกให้มีการลด ละ เลิกบุเหรี่ และสร้างสัมพันธภาพให้เกิดขึ้นภายในทุกภาคส่วนขององค์กร อันจะทำให้สวนดอกก้าวไปสู่การเป็น “โรงพยาบาลปลอดบุหรี่ 100%” ดังเช่นที่ส่วนงานซ่อมบำรุง มีผู้สูบบุหรี่ 11 คน แต่หลังจากดำเนินโครงการ เหลือผู้ที่ยังสูบบุหรี่ 7 คน แต่ผลที่ตามมาคือกลิ่นบุหรี่ที่เคยตลบอบอวลในห้องทำงานจางหายไป และผู้ที่ยังสูบอยู่ได้รับการร้องขอไม่ให้สูบในโรงพยาบาล ซึ่งเขาเหล่านั้นก็ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ที่สูบบุหรี่


นอกจากนี้ยังมีหน่วยรักษาความปลอดภัยที่เป็นสายตรวจ ติดธงสวนดอกปลอดบุหรี่ ทำหน้าที่ตักเตือนผู้มารับบริการที่สูบบุหรี่อย่างสม่ำเสมอ ทำให้ก้นบุหรี่ที่เคยเกลื่อนกลาดตามทางเดินภายในโรงพบาบาลก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด การติดป้ายในรถยนต์ของหน่วยยานพาหนะเพื่อไม่ให้มีการสูบบุหรี่ในยานพาหนะของทางราชการ การดำเนินโครงการยังเลยไปถึงกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อสร้างความตระหนักรู้ และลดจำนวนผู้ป่วยมะเร็งปอดหรือถุงลมโป่งพองไม่ให้เพิ่มจำนวนไปมากกว่านี้


แม้ผลลัพธ์ของโครงการ ณ เวลานี้ ยังไม่ได้ทำให้สวนดอกปลอดบุหรี่ได้ 100% แต่ในเชิงโครงสร้างและเชิงกระบวนการ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง พลิกโฉมแม้จะยังไม่ถึงกับเป็นวัฒนธรรมองค์กร แต่ก็นับว่าได้สร้างกระแสแห่งความตื่นตัว จากการรณรคง์และปรับเปลี่ยสิ่งแวดล้อมจนกลายเป็นสัญลักษณ์ของโรงพยาบาลปลอดบุหรี่ได้อย่างน่าชื่นชม


ทั้งนี้ โครงการสวนดอกปลอดบุหรี่ ได้สิ้นสุดโครงการการสนับสนุนงบประมาณจาก สสส. เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2558 ที่ผ่านมา แต่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นิสิต วรรธนัจฉริยา ผู้อำนวยการคนใหม่ ซึ่งเป็นผู้บริหารสูงสุดของโรงพยาบาล ที่มีวิสัยทัศน์ก้าวไกล บอกว่า แม้งบประมาณสนับสนุนจะหมดลงและโครงการจะปิดตัว แต่ในการปฎิบัติ “ โครงการสวนดอกปลอดบุหรี่” จะยังคงดำเนินต่อไป และเชื่อมั่นว่าหากชาวสวนดอกทุกคนร่วมมือ ร่วมใจ แสดงพลังสามัคคีเช่นนี้ต่อไป เชื่อว่า สวนดอกจะเป็น โรงพยาบาลปลอดบุหรี่ 100% ได้อย่างแน่นอน 

 


 


ที่มาสำนักสร้างสรรค์โอกาสและนวัตกรรม สสส.

Shares:
QR Code :
QR Code