สร้างสมดุลชีวิตทั้งกายใจ สไตล์ตวง สาวิกา
เรื่องโดย ปัญจวรา บุญสร้างสม Team Content www.thaihealth.or.th
แฟ้มภาพ
ตวง สาวิกา กาญจนมาศ นักแสดงสาวสวย ผู้มีรอยยิ้มสดใส เป็นเอกลักษณ์ ผู้หันมาสนใจงานด้าน Palliative Care ด้วยเหตุผลจากประสบการณ์ส่วนตัว ที่มีโอกาสได้เรียนรู้จากประสบการณ์ความเจ็บป่วยของ คนใกล้ชิด จึงอยากเป็นส่วนหนึ่งที่ทำหน้าที่สื่อสาร สร้างความเข้าใจให้สังคมไทยได้รู้จัก เข้าใจ และเห็นประโยชน์จาก Palliative Care หรือการดูแลแบบประคับประคองมากขึ้น เพื่อสร้างทางเลือกให้กับผู้ป่วยในมิติของการดูแลจากร่างกายไปจนถึงจิตใจ
เมื่อถามถึงนิยามของคำว่า ‘สุขภาพดี’ นักแสดงสาวตอบว่า “ ‘สุขภาพดี’ สำหรับเธอนั้น หมายถึง ต้องดีทั้งร่างกายและจิตใจควบคู่กันไป จะดูแลเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วเธอดูแลสุขภาพร่างกาย ด้วยการเล่นโยคะฟลาย หรือแอเรียล โยคะ เพราะเป็นคนชอบความท้าทายเล็ก ๆ”
คุณตวงเล่าต่อว่า “ตอนเด็ก ๆ เธอป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ แต่เมื่อเริ่มออกกำลังกายก็สังเกตเห็นว่า อาการภูมิแพ้ค่อย ๆ ดีขึ้น การเล่นโยคะนอกจากช่วยในเรื่องของสุขภาพแล้ว ยังช่วยในเรื่องของสมาธิอีกด้วย”
ในเรื่องของเรื่องอาหารการกิน คุณตวงเล่าว่า “โดยส่วนตัวจะเน้นเรื่องการดื่มน้ำ ตื่นเช้ามาจะต้องดื่มน้ำเป็นอันดับแรก และเติมความสดชื่นให้ตัวเองด้วยผลไม้แช่เย็น จากนั้นจึงไปฝึกโยคะ แล้วค่อยรับประทานอาหาร”
ส่วนการดูแลสุขภาพจิตใจนั้น นักแสดงสาวบอกกับเราว่า “เมื่อมีปัญหาจะยอมรับก่อนเป็นอันดับแรก หยุดพักนิ่ง ๆ สักเล็กน้อย แล้วค่อยมาวิเคราะห์ต่อว่าเป็นปัญหาที่แก้ได้หรือไม่ ซึ่งการฝึกโยคะ ช่วยให้รู้เท่าทันอารมณ์ของตัวเอง มีความนิ่ง และมีสติมากขึ้น นอกจากนี้ เธอยังมีงานอดิเรกที่ชอบเป็นการอ่านหนังสือประเภท จิตวิทยา หรือการพัฒนาตัวเอง เพื่อค้นหาศักยภาพบางอย่าง เปิดรับข้อมูลใหม่ ๆ และเรื่องราวดี ๆ เพื่อเติมพลังบวกให้กับตัวเองด้วย”
ในส่วนของ Palliative Care กับแง่มุมการดูแลสุขภาพนั้น คุณตวงมองว่า “Palliative Care เปรียบเหมือนทางเลือกหนึ่งที่ทำให้ผู้ป่วย ผู้ดูแลผู้ป่วย รวมถึงครอบครัวผู้ป่วยมีสุขภาพจิตใจที่ดีขึ้น เพราะการรักษาแบบPalliative Care นั้น เป็นการดูแลที่ดูแลตั้งแต่ร่างกายไปจนถึงจิตใจ
นักแสดงสาวฝากทิ้งท้ายว่า “เรื่องของการดูแลสุขภาพนั้น เชื่อว่าทุกคนรู้ดีว่าสิ่งใดดีหรือไม่ดี เราอาจจะไม่ถึงกับต้องห้ามหรือตัดเลย แต่อยากให้ลองดูสมดุลในชีวิตเรา ใช้ชีวิตให้มีความสุข และรักษาสุขภาพไปพร้อมกัน เพราะต่อให้มีทรัพย์สิน เงินทองมากมายแค่ไหน แต่สุขภาพไม่ดี เราก็ไม่มีความสุข สุขภาพเป็นสิ่งสำคัญเสมอ นอกจากดูแลสุขภาพกายแล้ว สุขภาพจิตใจก็เป็นเรื่องสำคัญ เมื่อมีปัญหาแล้วรู้สึกแบกรับไม่ไหว อยากให้เปิดใจพบผู้เชี่ยวชาญ เช่น นักจิตวิทยา หรือจิตแพทย์ อย่าคิดว่าเป็นเรื่องที่ผิดปกติ”
การรักษาสุขภาพร่างกายและจิตใจ ยังคงเป็นสิ่งสำคัญเสมอ ไม่ว่าจะในสภาวะปกติหรือวิกฤต สสส. สนับสนุนให้คนไทยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ รวมทั้งลดปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ เพื่อสุขภาวะที่ดีอย่างยั่งยืน