สรุปสถานการณ์อุทกภัยประจำวันที่ 27 ต.ค. 53
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานสถานการณ์สาธารณภัย สภาวะอากาศ และปริมาณน้ำฝน ประจำวันที่ 27 ตุลาคม 2553 มีพื้นที่ประสบอุทกภัย 25 จังหวัด 232 อำเภอ 1,762 ตำบล 14,341 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 941,889 ครัวเรือน 2,759,354 คน
สำหรับจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ได้แก่ จังหวัดนครสวรรค์ กำแพงเพชร อุทัยธานี นครราชสีมา ชัยภูมิ ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม อุบลราชธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา และจังหวัดสมุทรปราการ
จังหวัดที่สถานการณ์คลี่คลายแล้ว จำนวน 11 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดพิจิตร เพชรบูรณ์ ระยอง จันทบุรี ตราด ตาก ชลบุรี ลำพูน เชียงใหม่ สระแก้ว และจังหวัดนครนายก
ภาคเหนือ
จังหวัดนครสวรรค์ ได้เกิดฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ 9 อำเภอ 71 ตำบล ดังนี้ อำเภอตาคลี อำเภอลาดยาว อำเภอหนองบัว อำเภอท่าตะโก อำเภอไพศาลี อำเภอเมือง อำเภอบรรพตพิสัย อำเภอโกรกพระ อำเภอพยุหคีรี
จังหวัดกำแพงเพชร ได้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้น้ำไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตรในพื้นที่ 10 อำเภอ 84 ตำบล ดังนี้ อำเภอคลองลาน อำเภอขาณุวรลักษบุรี อำเภอโกสมพีนคร อำเภอปางศิลาทอง อำเภอเมือง อำเภอไทรงาม อำเภอบึงสามัคคี อำเภอทรายทองวัฒนา อำเภอพรานกระต่าย อำเภอคลองขลุง
จังหวัดอุทัยธานี เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องทำให้น้ำท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตร 5 อำเภอ 21 ตำบล ดังนี้ อำเภอเมือง อำเภอทัพทัน อำเภอหนองขาหย่าง อำเภอหนองฉาง อำเภอสว่างอารมณ์
จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 15-16 ต.ค.53 ได้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากท่วมในพื้นที่ 32 อำเภอ 284 ตำบล ดังนี้ อำเภอเมือง อำเภอสูงเนิน อำเภอขามทะเลสอ อำเภอโนนแดง อำเภอเสิงสาง อำเภอหนองบุญมาก อำเภอจักราช อำเภอเทพารักษ์ อำเภอด่านขุนทด อำเภอโนนสูง อำเภอโชคชัย อำเภอพิมาย อำเภอโนนไทย อำเภอห้วยแถลง อำเภอปากช่อง อำเภอสีคิ้ว อำเภอปักธงชัย อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอพระทองคำ อำเภอบัวใหญ่ อำเภอครบุรี อำเภอเมืองยาง อำเภอชุมพวง อำเภอวังน้ำเขียว อำเภอลำทะเมนชัย อำเภอแก้งสนามนาง อำเภอประทาย
จังหวัดชัยภูมิ ได้เกิดฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลัน ในพื้นที่ 16 อำเภอ 113 ตำบล ดังนี้ อำเภอเมือง อำเภอเกษตรสมบูรณ์ อำเภอภูเขียว อำเภอบำเหน็จณรงค์ อำเภอเนินสง่า อำเภอจัตุรัส อำเภอบ้านเขว้า อำเภอแก้งคร้อ อำเภอหนองบัวแดง อำเภอหนองบัวระเหว อำเภอคอนสวรรค์ อำเภอซับใหญ่ อำเภอคอนสาร อำเภอภักดีชุมพล อำเภอเทพสถิต อำเภอบ้านแท่น
จังหวัดศรีสะเกษ ได้เกิดฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตรในพื้นที่ 9 อำเภอ 58 ตำบล ดังนี้ อำเภอภูสิงห์ อำเภอขุนหาญ อำเภอขุขันธ์ อำเภอกันทรลักษ์ อำเภอเบญจลักษ์ อำเภอโนนคูณ อำเภอปรางค์กู่ อำเภออุทุมพรพิสัย อำแภอกันทรารมย์
จังหวัดสุรินทร์ ได้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตรในพื้นที่ 9 อำเภอ 45 ตำบล ดังนี้ อำเภอเมือง อำเภอสังขะ อำเภอบัวเชด อำเภอศรีขรภูมิ อำเภอศรีณรงค์ อำเภอชุมพลบุรี อำเภอกาบเชิง อำเภอท่าตูม อำเภอรัตนบุรี
จังหวัดบุรีรัมย์ ได้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตรในพื้นที่ 19 อำเภอ 125 ตำบล ดังนี้ อำเภอโนนดินแดง อำเภอสตึก อำเภอปะคำ อำเภอบ้านกรวด อำเภอประโคนชัย อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอละหานทราย อำเภอนางรอง อำเภอหนองหงส์ อำเภอชำนิ อำเภอกระสัง อำเภอลำปลายมาศ อำเภอพลับพลาชัย อำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์ อำเภอโนนสุวรรณ อำเภอพุธไธสง อำเภอหนองกี่ อำเภอคูเมือง อำเภอแคนดง
จังหวัดขอนแก่น ได้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้น้ำไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตรในพื้นที่ 10 อำเภอ 45 ตำบล ดังนี้ อำเภอแวงใหญ่ อำเภอแวงน้อย อำเภอชนบท อำเภอบ้านแฮด อำเภอมัญจาคีรี อำเภอโคกโพธิ์ไชย อำเภอโนนศิลา อำเภอภูผาม่าน อำเภอหนองเรือ อำเภอชุมแพ
จังหวัดกาฬสินธุ์ น้ำในแม่น้ำแม่ชีและลำน้ำป่าวเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรแลพื้นที่การเกษตรในพื้นที่ 3 อำเภอ 8 ตำบล ดังนี้ อำเภอกมลาไสย อำเภอร่องคำ อำเภอคล้องชัย
จังหวัดมหาสารคาม เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องและน้ำในแม่น้ำแม่ชีเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรแลพื้นที่การเกษตรในพื้นที่ 7 อำเภอ 61 ตำบล ดังนี้ อำเภอเมือง อำเภอโกสุมพิสัย อำเภอกุดรัง อำเภอเชียงยืน อำเภอกันทรวิชัย อำเภอบรบือ
จังหวัดอุบลราชธานี เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องและน้ำในแม่น้ำมูลเอ่อล้นตลิ่ง เข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่ 2 อำเภอ 2 เทศบาล ดังนี้ อำเภอเมือง อำเภอวารินชำราบ
ภาคกลาง
จังหวัดชัยนาท เมื่อวันที่ 3-4 ตุลาคม 2553 เกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีปริมาณสูงขึ้นเอ่อล้นเข้าท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ 40 ตำบล ดังนี้ อำเภอเนินขามอำเภอหันคา อำเภอเมืองชัยนาท อำเภอวัดสิงห์ อำเภอหนองมะโมง อำเภอมโนรมย์ อำเภอสรรพยา
จังหวัดสิงห์บุรี น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตรในพื้นที่ 2 อำเภอ 9 ตำบล ดังนี้ อำเภออินทร์บุรี อำเภอเมืองสิงห์บุรี
จังหวัดอ่างทอง น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำน้อย เอ่อล้นตลิ่ง และเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ ทำให้เกิดน้ำท่วมบ้านเรือนราษฎร พื้นที่การเกษตร 7 อำเภอ 52 ตำบล ดังนี้ อำเภอเมืองอ่างทอง อำเภอป่าโมก อำเภอไชโย อำเภอวิเศษชัยชาญ อำเภอโพธิ์ทอง อำเภอสามโก้ อำเภอแสวงหา
จังหวัดสุพรรณบุรี เกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง น้ำในแม่น้ำท่าจีนมีปริมาณสูงขึ้น เอ่อไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร พื้นที่การเกษตรในพื้นที่ 6 อำเภอ 61 ตำบล ดังนี้ อำเภอเมือง อำเภอบางปลาม้า อำเภอสองพี่น้อง อำเภอสามชุก อำเภอหนองหญ้าไซ อำเภอเดิมบางนางบวช
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำลพบุรี แม่น้ำน้อย มีปริมาณสูงขึ้น ประกอบกับมีฝนตกในพื้นที่ ทำให้เกิดน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มการเกษตรใน 16 อำเภอ 183 ตำบล ดังนี้ อำเภอพระนครศรีอยุธยา อำเภอบางไทร อำเภอมหาราช อำเภอผักไห่ อำเภอบางบาล อำเภอเสนา อำเภอบางปะอิน อำเภอภาชี อำเภออุทัย อำเภอวังน้อย อำเภอท่าเรือ อำเภอบางปะหัน อำเภอนครหลวง อำเภอบ้านแพรก อำเภอลาดบัวหลวง อำเภอบางซ้าย
จังหวัดลพบุรี ได้เกิดฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลันและ น้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เอ่อล้นเข้าท่วมในพื้นที่ 11 อำเภอ 122 ตำบล ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอหนองม่วง สระโบสถ์ ลำสนธิ พัฒนานิคม ท่าหลวง โคกสำโรง โคกเจริญ และ อำเภอชัยบาลดาล ยังคงมีสถานการณ์วิกฤติ อำเภอที่ติดคลองชัยนาท-ป่าสัก ดังนี้ อำเภอเมืองลพบุรี อำเภอบ้านหมี่
จังหวัดสระบุรี ได้เกิดฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ 13 อำเภอ 108 ตำบล ดังนี้ อำเภอเมือง อำเภอบ้านหมอ อำเภอพระพุทธบาท อำเภอมวกเหล็ก อำเภอแก่งคอย อำเภอวังม่วง อำเภอเสาไห้ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอดอนพุด อำเภอหนองแซง อำเภอหนองแค อำเภอวิหารแดง อำเภอหนองโดน
จังหวัดนนทบุรี น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตรในพื้นที่ 6 อำเภอ 54 ตำบล ดังนี้ อำเภอปากเกร็ด อำเภอเมืองนนทบุรี อำเภอบางกรวย อำเภอบางใหญ่ อำเภอบางบัวทอง อำเภอไทรน้อย
จังหวัดปทุมธานี น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตรในพื้นที่ 7 อำเภอ 50 ตำบล ดังนี้ อำเภอเมืองปทุมธานี อำเภอสามโคก อำเภอลาดหลุมแก้วอำเภอธัญบุรี อำเภอลำลูกกา อำเภอคลองหลวง อำเภอหนองเสือ
จังหวัดนครปฐม น้ำจากแม่น้ำท่าจีนเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตรในพื้นที่ 6 อำเภอ 42 ตำบล ดังนี้ อำเภอบางเลน อำเภอสามพราน อำเภอนครชัยศรี อำเภอเมือง อำเภอบางเลน อำเภอพุทธมณฑล
จังหวัดฉะเชิงเทรา ได้เกิดฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน ในพื้นที่ 8 อำเภอ 21 ตำบล ดังนี้ อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา อำเภอบางคล้าอำเภอพนมสารคาม อำเภอบางน้ำเปรี้ยว อำเภอแปลงยาว อำเภอท่าตะเกียบ
จังหวัดปราจีนบุรี ได้เกิดฝนตกหนักทำให้น้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลัน ในพื้นที่ 6 อำเภอ 46 ตำบล ดังนี้ อำเภอเมือง อำเภอนาดี อำเภอกบินทร์บุรี อำเภอศรีมหาโพธิ อำเภอประจันตคาม อำเภอบ้านสร้าง
จังหวัดสมุทรปราการ เกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ 14 ตำบล ดังนี้ อำเภอบางเสาธง อำเภอบางพลี อำเภอบางบ่อ
หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
ที่มา : กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
Update : 27-10-53
อัพเดทเนื้อหาโดย : กิตติภานันทร์ ลีจันทึก