สภาพอากาศแปรปรวน

ร้อนรุนแรง-ฝนอันตรายรู้รับมือ…ปลอดภัย

 

สภาพอากาศแปรปรวน

ในช่วงฤดูหนาวแต่กลับมีฝนตกฟ้าคะนอง ขณะเดียว กันบางพื้นที่สัมผัสความหนาวเย็นของฤดูกาลได้เพียงช่วงเวลาสั้น ๆ อีกทั้งมีการคาดการณ์กล่าวถึงสภาพอากาศและอุณหภูมิในช่วงฤดูร้อนที่กำลังมาเยือนว่าจะเพิ่มสูงขึ้นจากเดิมหลายพื้นที่ แถมยังมีปรากฏการณ์เอลนินโญ่ที่ต้อง รับมือ!!

   

การมีความรู้ความเข้าใจเฝ้าติดตามข่าวสาร การพยากรณ์อากาศอย่างต่อเนื่องเพื่อเตรียมพร้อมรับมือได้ทันท่วงทีสิ่งนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญ และดังที่กล่าว ช่วงเวลานี้  ซึ่งยังไม่ถึงฤดูฝน แต่หลายพื้นที่กลับได้สัมผัสกับสายฝนที่ตกโปรยปรายลงมาช่วยดับร้อน

   

ขณะเดียวกันยังมีความไม่ปกติของฝนที่ตกลงมาซึ่งนอกจากมีกลิ่น เมื่อน้ำฝนถูกร่างกายจะมีอาการผื่นคัน ฯลฯ สาเหตุนี้น่าจะมาจาก  สิ่งที่เรียกกันว่า ฝนกรด  และแม้จะยังไม่มีความแน่ชัด   แต่จากสิ่งที่เกิดขึ้นน่าจะเป็น สัญญาณที่บ่งบอกถึงสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมที่ต้องห่วงใย

   

ฤดูหนาวสามารถจะเกิดฝนตกขึ้นได้ ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติและแต่ละปีก็จะมีฝน  ตกหนักเบาแตกต่างกันไป  สมชาย ใบม่วง รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา บอกเล่าพร้อมกับให้ความรู้เพิ่มเติมถึงสภาพอากาศช่วงฤดูร้อนที่กำลังจะมาถึง รวมทั้งลักษณะของฝนกรดว่า หน่วยงานที่คาดการณ์เกี่ยวกับปรากฏ การณ์เอลนินโญ่ได้คาดหมายว่า ปรากฏการณ์นี้ได้เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วโดยจะมีความต่อเนื่องและความรุนแรงปานกลางไปถึงกลางปี

   

เมื่อเกิดปรากฏการณ์นี้ในระดับปานกลางผลที่จะตามมาในบ้านเราก็คือ ฤดูร้อนบ้านเราปีนี้จะมีอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยในฤดูร้อนจะสูงกว่าค่าปกติ อย่างเช่น ค่าปกติเป็น 37 องศา อุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุดก็อาจจะเป็น 38 องศาได้ เป็นต้น นอกจากนี้ปริมาณฝนในฤดูร้อนปีนี้ก็จะน้อยลงกว่าค่าปกติประมาณ 10-20%

   

อย่างไรก็ตาม สำหรับฤดูฝนปีนี้คาดว่ากลางเดือนพฤษภาคมก็จะมาแล้วและในช่วงเดือนเมษายน พฤษภาคม และมิถุนายน ซึ่งเป็นช่วงฤดูร้อนก็จะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น แม้ฝนที่ตกลงมาจะไม่ใช่บริเวณ กว้างแต่ก็เป็นฝนตกที่มีปริมาณ มากพอควรก็สามารถบรรเทาความร้อน ความแห้งแล้งในบางพื้นที่ลงได้

   

การใช้น้ำในพื้นที่การ เกษตรก็ต้องระมัดระวังใช้น้ำอย่างประหยัดจนกว่าจะเข้าฤดูฝน ไม่ว่าจะเป็นการนำไปใช้น้ำในการเพาะปลูกทำนาข้าว เลี้ยงปลา ฯลฯ ก็ให้ใช้น้ำอย่างประหยัด ปลูกพืชระยะสั้นอย่างเช่นพืชตระกูลถั่วที่ใช้ น้ำน้อย

   

ส่วนฝนกรดในที่นี้สิ่งสำคัญที่เกิดขึ้นมาคือเม็ดฝนที่ตกมาจากท้องฟ้า พอตกลงมาในบรรยากาศถ้าขณะนั้นมีสารแขวนลอยที่เป็นพวกสารที่อาจมาจากแหล่งกำเนิดโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่ปล่อยฝุ่นควันซึ่งอาจจะเป็นสารเคมีพวกซัลเฟอร์ไดออกไซด์ พอปล่อยออกมาสารต่าง ๆ เหล่านี้ จะลอยอยู่ในบรรยากาศในกรณี ที่มีฝนตกลงมาผสมผสานกันทำให้น้ำฝนที่ตกลงมาซึ่งเป็นน้ำบริสุทธิ์พอได้รับสารเคมีพวกนี้ไปก็จะเกิดปฏิกิริยาเคมีซึ่ง ก็ขึ้นอยู่ว่าตัวสารเคมีนั้นมีความเจือจางหรือเข้มข้น แต่อย่างไรก็ดีก็จะมีปฏิกิริยาเป็นกรดอ่อน ๆ เมื่อตกลงมายังพื้นดินถ้าสัมผัสกับพืชก็อาจทำให้ใบพืชเกิดการไหม้เพราะเป็นกรดอ่อน ๆ ส่วนถ้าสัมผัส กับผิวหนังอาจมีอาการคันได้

   

สภาวะการเกิดฝนกรดคงไม่มีอะไรบ่งบอกได้และอย่างที่กล่าวมาแล้วหากเป็นสภาวะประจวบกันอยู่ในสภาวะที่เอื้อหรือเหมาะพอดีจึงจะเกิดเป็นฝนกรดซึ่งก็ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย ส่วนฝนแรกหากไม่จำเป็นก็ควรหลีกเลี่ยงการตากฝน สังเกตกันหรือไม่ว่าบางคนที่สัมผัสฝนแรกจะไม่สบายซึ่งสาเหตุดังที่กล่าวคือมีฝุ่นละออง ตะกอนแขวนลอยสิ่งสกปรกอยู่ การออกไปกลางแจ้งปะทะกับฝนซึ่งอาจรับประทานไปโดยไม่ตั้งใจก็อาจทำให้เกิดการเจ็บป่วยเป็นอันตรายกับร่างกายได้ ซึ่งก็มีการบอกกล่าวกันมาแต่โบราณ ผู้เฒ่าผู้แก่มักจะเตือนให้ระมัดระวังเพราะร่างกายอาจยังปรับตัวไม่ได้ ซึ่งความสกปรกจากชั้นบรรยากาศทำให้ร่างกายอ่อนแอเป็นหวัดได้ง่ายโดยมากก็มักจะรอให้ฝนตกไปได้สักระยะก่อนค่อยออกไปกลางแจ้ง

   

นอกจากนี้ฝนกรดอาจมีมูลเหตุเกิดขึ้นได้จากสาเหตุอื่น อย่างเช่น การระเบิดของภูเขาไฟ ซึ่งจะมีกำมะถันและอาจกระจายไปได้ทั่ว ในพื้นที่ที่มีฝนตกก็จะกลายเป็นฝนกรด พอมีฝนตกมาก็อาจจะนำซัลเฟอร์ไดออกไซด์มาพร้อมกับฝน จากการเกิดขึ้นในระดับสูง ซึ่งมีลมนำพาตะกอนแขวนลอยเคลื่อนที่จากที่หนึ่งไปในระยะไกลได้  ก็จะนำมาสู่เบื้องล่าง หากในบริเวณนั้นมีสภาพแวดล้อมที่ทำให้เกิดฝนตกก็ทำให้เกิด ฝนกรดได้

   

จากที่กล่าวมาการจะบอกว่าฝนที่ตกลงมาอะไรเป็นฝนกรดหรือไม่ค่อนข้างจะยาก แต่อย่างไรก็ตามจากที่มีข้อมูลบันทึก ฝนกรดถ้าไม่รุนแรงจะไม่ทำอันตรายต่อมนุษย์เท่าไหร่จึงไม่ควรตื่นตระหนก แต่ควรระมัดระวังอย่างฝนแรกของฤดูฝนหรือฤดูร้อนควรหลีกเลี่ยงอย่าออกไปสัมผัส กับฝน ควรปล่อยให้ฝนตก ลงมาชะล้างบรรยากาศให้มีความสะอาดช่วงหนึ่งก่อน  ซึ่งตะกอนแขวนลอยต่าง ๆ เหล่านี้ที่มากับฝนแรก ๆ ก็ไม่อาจรู้ได้ว่ามีเชื้อโรคหรือไม่ บางครั้งอาจทำให้คันตา ตาแดง ฯลฯ เพราะฉะนั้นควรหลีกเลี่ยง รองอธิบดีกล่าวฝาก

   

นอกจากนี้ อาจารย์สุชาตา ชินะจิตร อดีตผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ได้ให้ความรู้เพิ่มเติมถึงการเกิดขึ้นของฝนกรดและสิ่งที่ต้องระมัดระวังว่า ตามธรรมชาติน้ำฝนจะมีความเป็นกรดอ่อน ๆ เพราะมีคาร์บอนไดออกไซด์ละลายอยู่แล้ว แต่กระบวนการทางธรรมชาติก็มีสมดุลด้วยสภาวะความเป็นด่าง ใน ธรรมชาติ

   

ถ้ากล่าวถึงฝนกรดจาก มลพิษ ฝนกรด ก็คือ น้ำฝนที่มีฤทธิ์เป็นกรดจากการละลายมลพิษในอากาศ ได้แก่ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ และพวกออกไซด์ ของไนโตรเจน กลายเป็นกรดซัลฟูริก หรือกรดกำมะถัน และกรดไนตริก ก๊าซมลพิษทั้งสองเกิดมาจากการเผาไหม้ วัตถุที่มีซัลเฟอร์และไนโตร เจนเป็นองค์ประกอบ แหล่งสำคัญคือ การเผาเชื้อเพลิงฟอสซิล อย่างเช่น ถ่านหิน ซึ่งมีซัลเฟอร์และไนโตรเจนเป็นองค์ประกอบและอีกแหล่ง หนึ่งคือ เกิดจาก ไอเสียรถยนต์ และการเผาไหม้อื่น ๆ จึงต้องมีมาตรการลดการใช้หรือลดการปลดปล่อยแก๊สมลพิษ

   

พฤติกรรมของมนุษย์มากกว่าที่ไปเร่งการเกิดขึ้นของฝนกรดซึ่งถ้าไปเร่งมากก็ทำให้เกิดการเสียสมดุลทางธรรมชาติ ระบบนิเวศเสียไป อย่างถ้าเป็นพืชก็อาจทำให้ ใบพืชเป็นแผล ซึ่งหมายถึงความสามารถของพืชในการ สังเคราะห์แสงจะลดลง อาจส่งผลต่อห่วงโซ่อาหาร อาคารที่ทำด้วยปูนจะค่อย ๆ ทรุดโทรมจากการละลายของปูน จากที่กล่าวปัญหาฝนกรดเป็นเพราะกิจกรรมของมนุษย์เป็นตัวเร่งให้เกิดเร็วและรุนแรงขึ้นซึ่งผลเสียที่เกิดนั้นจะมีขึ้นในระยะยาว

   

ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินการแก้ไข การให้ความสำคัญกับสภาพอากาศ ธรรมชาติสิ่งแวดล้อมสิ่งนี้ถึงเวลาแล้วที่ทุกคนจะต้องร่วมกันปกป้องดูแลรักษาให้คงอยู่อย่างยั่งยืน.

 

 

 

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

 

 

Update:15-02-53

 

อัพเดทเนื้อหาโดย: ณัฏฐ์ ตุ้มภู่

 

Shares:
QR Code :
QR Code