สปส.ชู หนึ่งตำบลหนึ่งหมู่บ้านประกันสังคมถ้วนหน้า
ที่มา : เว็บไซต์เดลินิวส์
แฟ้มภาพ
สำนักงานประกันสังคม จับมือ กรมการพัฒนาชุมชน ขับเคลื่อนโครงการ หนึ่งตำบล หนึ่งหมู่บ้าน ประกันสังคมถ้วนหน้า ยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานอิสระ คุ้มครองเพิ่ม 5 ล้านคน ใน 5 ปี
นายอนันต์ชัย อุทัยพัฒนาชีพ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน กล่าวว่า กระทรวงแรงงาน มีนโยบายที่จะขยายเรื่องหลักประกันทางสังคมให้แพร่หลายไปสู่แรงงานทุกสาขาอาชีพ ทั้งให้แรงงานอิสระเข้าถึงหลักประกันทางสังคม เช่น กลุ่ม OTOP กลุ่มสตรี วิสาหกิจชุมชน ทอผ้า จักสาน แปรรูปสินค้าเกษตร และกลุ่มดอกไม้ประดิษฐ์ เป็นต้น ได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับความคุ้มครองและสิทธิประโยชน์ที่ทางสำนักงานประกันสังคมมอบให้แก่แรงงานอิสระได้เข้าสู่การมีหลักประกันชีวิตที่มั่นคงในชีวิต ภายใต้โครงการ หนึ่งตำบล หนึ่งหมู่บ้าน ประกันสังคมถ้วนหน้า
โดยหลังจากลงนามบันทึกข้อตกลงแล้ว จะสนับสนุนให้เกิดการสร้างภาคีเครือข่ายในระดับพื้นที่จังหวัดและอำเภอทั่วประเทศ ร่วมถึงประชาสัมพันธ์ เชิญชวนกลุ่มแรงงานอิสระสมัครเป็นผู้ประกันตน มาตรา 40 พร้อมจัดอบรมเกี่ยวกับหลักประกันสังคมให้กับประชาชน ตั้งเป้าหมายในระยะเวลา 5 ปี (ตั้งแต่ปี 2561 – 2565 ) จะขยายความคุ้มครองเพิ่มขึ้นอีก 5 ล้านคน เฉลี่ยปีละ 1 ล้านคน โดยแผนจะทำงานร่วมกับกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ในรูปแบบประชารัฐที่มองประโยชน์ของประชาชนเป็นสิ่งสำคัญ มุ่งพัฒนาความอยู่ดีกินดีของประชาชนให้มีความมั่นคงในชีวิต ไม่ว่าจะเจ็บป่วย ทุพพลภาพ หรือเสียชีวิตโดยประกันสังคมจะเข้าไปดูแลได้อย่างครอบคลุม
นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า นโยบายของรัฐบาลเรื่องหลักประกันสังคมเป็นส่วนสำคัญที่สร้างความมั่นคงให้ชีวิตของแรงงานอิสระ ให้ได้รับความคุ้มครองและเข้าถึงสวัสดิการภาครัฐด้านการประกันสังคม มองว่าการเผยแพร่แนวคิดเกี่ยวกับประกันสังคมสู่ประชาชนในหมู่บ้านหรือชุมชนที่เป็นแรงงานอิสระ จะส่งผลให้ผู้ที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรี ที่มีความคิดริเริ่ม แต่ทำงานอาชีพอิสระเข้ามาร่วมพัฒนาและสร้างความเข้าใจกับชาวบ้านเป็นกลุ่มแรก ช่วยวางแผนชีวิตที่ดีและมีความเป็นอยู่อย่างมั่นคงให้กับสังคม
การขับเคลื่อนความคุ้มครองทางสังคมแก่แรงงานนอกระบบ จึงเป็นกิจกรรมหนึ่งในการสนับสนุนการดำเนินโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งหมู่บ้าน ประกันสังคมถ้วนหน้า ให้เกิดเป็นรูปธรรม และยังเป็นมิติใหม่ในการสร้างความร่วมมือมองประโยชน์ของประชาชนที่จะได้รับเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อสร้างหลักประกันชีวิตที่มั่นคงและยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น พร้อมวางรากฐานสังคมไทยให้เกิดความเป็นอยู่ที่ดี