“สนธยา” โยน กสทช.ดูแลละครแรงเงา แนะผู้ปกครองควรให้คำแนะนำเด็กเวลาดูละคร

 

 

นายสนธยา คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวถึงกรณีเหตุการณ์เด็กอายุ 8 ขวบดูรายการคนอวดผีและละครแรงเงาแล้วเลียนแบบฉากผูกคอตายจนเกือบเสียชีวิตว่า วธ.คงไปห้ามไม่ให้มีการสร้างละครคงทำไม่ได้ เพราะละครมีหลายประเภททั้งที่มีเนื้อหารุนแรงและสร้างสรรค์ ในเบื้องต้นได้พูดคุยกับทางผู้จัดละครถึงแนวทางการสร้างละครให้มีความสร้างสรรค์มากยิ่งขึ้นแล้ว

รมว.วธ. กล่าอต่อไปว่า ส่วนเรื่องกำชับดูแลเวลาฉายละครและเรตติ้งนั้นวธ.ไม่มีอำนาจ คงต้องให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)ซึ่งมีอำนาจในเรื่องนี้เข้าไปดูแลและพิจารณา

“อย่างไรก็ตามการชมละคร ผมอยากแนะนำว่า ผู้ปกครองและครอบครัวมีส่วนสำคัญในการดูแลและให้คำแนะนำเด็กในการชมละคร แม้ว่าในละครเหล่านั้นจะมีคำเตือนห้ามเด็กอายุเท่าไหร่ไว้แล้วก็ตามดังนั้น สิ่งสำคัญคือทุกส่วนต้องร่วมมือกัน ซึ่งวธ.ก็จะทำหน้าที่คอยเฝ้าระวังและรณรงค์ให้คำแนะนำอีกทางหนึ่ง”รมว.วธ. กล่าว

ด้านนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า ทางสื่อควรจะเน้นว่าเรื่องไหนดูหรือไม่ได้ เพราะเด็กยังตัดสินใจอะไรไม่ได้ ในส่วนของผู้ปกครองเองก็ต้องเข้มงวดดูแล เพราะสถาบันครอบครัวถือเป็นสถาบันหลักที่จะดูแลเด็กได้ดีที่สุด ถ้าพ่อ แม่ดูแลลูกดี ทุกครอบครัวก็จะรวมตัวกันเป็นชุมชนที่ดี

“ฉะนั้นผมทำงานจะยึดรากหญ้าเป็นหลัก พัฒนาที่แก่นแท้ เอาชุมชน หมู่บ้านโรงเรียน วัดประสานกันเชื่อมโยงกับครอบครัว ถ้าทุกครอบครัวอบอุ่นเป็นสุข ปัญหาสังคมต่าง ๆ ก็จะน้อยลง ทุกคนได้รับการศึกษาที่เหมาะสม ก็จะทำให้ประเทศ พัฒนาได้เร็วยิ่งขึ้น ” รมช.ศึกษาฯ กล่าว

รศ.วิมลพรรณ   อาภาเวท  คณะบดีคณะเทคโนโลยีสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร(มทร.พระนคร) กล่าวว่า ช่วงเวลาละครออกอากาศเป็นช่วงนาทีทองของผู้จัดละคร เพราะเรตติ้งจะพุ่งกระฉูดมากที่สุด อยากที่จะให้มีการปรับเปลี่ยนเวลาออนแอร์ต่างไปจากเดิม หากจะมีการปรับเปลี่ยนการออนแอร์จริงคง เป็นเรื่องที่ต้องระดมความเห็นกันหลายฝ่าย

“แต่ในเบื้องต้น พ่อ แม่ ผู้ปกครอง ควรจะดูละคร หรือ ดูรายการโทรทัศน์ที่มีภาพไม่เหมาะสมกับวัยเด็ก  ไปพร้อมๆ กับลูกด้วย ไม่ควรปล่อยให้เด็กดูละครเพียงลำพังหรือดูละครอยู่กับเพื่อนๆ  ด้วยเด็กในวัยเดียวกันยังไม่มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ ยังแยกแยะไม่ได้ว่าอะไรคือการแสดง อะไรคือโลกแห่งความเป็นจริง ผู้ใหญ่ต้องใส่ใจในเรื่องนี้ด้วย” รศ.วิมลพรรณ กล่าว

รศ.วิมลพรรณ  กล่าวต่อว่า  ปัจจุบันเด็กและเยาวชนเข้าถึงสื่อได้ทุกแขนง ทุกที่ ทุกเวลา เพราะมีช่องทางเยอะมาก หากเด็กไม่มีภูมิคุ้มกันทางปัญญาที่ดีก็อาจจะเสพติดสื่อไปในทางที่ไม่สร้างสรรค์ได้  ในทางกลับกันสื่อทุกประเภทหากรู้จักใช้สื่อ จะมีประโยชน์มหาศาล เพราะสื่อทำให้เกิดการเรียนรู้ได้เยอะมาก แต่หัวใจสำคัญสำหรับเด็กที่ยังเล็กพ่อแม่ผู้ปกครองควรเอาใจใส่ว่าลูกกำลังดูรายการอะไรในสื่อต่างๆ เพราะสื่อมีบทบาทสำคัญ แต่เวลาเสพสื่อก็ต้องเลือกด้วยเช่นกัน

 

 

Shares:
QR Code :
QR Code