สธ. เผยสถานการณ์ “โรคคอตีบ”ดีขึ้น กำชับ 15 จังหวัด คุมโรคคอตีบเข้มข้นต่อเนื่อง
กระทรวงสาธารณสุข ประชุมทางไกลนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด 15 จังหวัดที่ พบผู้ป่วยและผู้สงสัยป่วยโรคคอตีบในพื้นที่ กำชับให้คงมาตรการควบคุมป้องกันโรคอย่างเข้มข้น ต่อเนื่อง และเร่งฉีดวัคซีนกลุ่มเสี่ยงให้ครบ 100 เปอร์เซนต์ ย้ำเตือนประชาชนให้ล้างมือ คาดหน้ากากอนามัยเมื่อเป็นหวัด และหากป่วยเป็นไข้ เจ็บคอ 2 วันแล้วอาการไม่ดีขึ้นให้พบแพทย์ เผยสถานการณ์ขณะนี้ดีขึ้น พบผู้ป่วยในเดือนตุลาคมเพียง 4 ราย รักษาหายทุกราย
วันนี้ (3 พฤศจิกายน 2555) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์โสภณ เมฆธน รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานประธานวอร์รูมการควบคุมป้องกันโรคโรคตีบกระทรวงสาธารณสุข ประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอกับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด 15 จังหวัดที่เป็นพื้นที่ที่ พบผู้ป่วย ผู้สงสัยป่วยโรคคอตีบ และพื้นที่เสี่ยงที่อยู่ติดกับพื้นที่ที่พบผู้ป่วย ได้แก่ เลย หนองบัวลำภู เพชรบูรณ์ อุดรธานี สุราษฎร์ธานี สกลนคร พิษณุโลก ชัยภูมิ ขอนแก่น เชียงราย หนองคาย พิจิตร อุตรดิตถ์ บึงกาฬ และน่าน เพื่อติดตามสถานการณ์ และการควบคุมป้องกันโรคคอตีบในแต่ละพื้นที่
นายแพทย์โสภณ ให้สัมภาษณ์ว่า จากการติดตามสถานการณ์ใน 15 จังหวัด พบว่าสถานการณ์ดีขึ้น ตลอดเดือนตุลาคมที่ผ่านมาพบผู้ป่วยยืนยันรายใหม่เพียง 4 ราย ใน 3 จังหวัด 4 อำเภอ ประกอบด้วยจ.เลย 2 รายพบ2 อำเภอ เพชรบูรณ์ 1 อำเภอ และสุราษฎร์ธานี 1 อำเภอ จังหวัดละ 1 ราย รักษาหายทุกราย โดยกระทรวงสาธารณสุขได้จัดการปัญหาโดยจัดอบรมฟื้นฟูความรู้ในการวินิจฉัยโรคและการรักษาโรคคอตีบให้แพทย์ทุกจังหวัด ซึ่งโรคนี้มียาปฏิชีวนะรักษาหายได้ และตั้งคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญส่วนกลางให้คำปรึกษาแก่แพทย์ผู้รักษาในโรงพยาบาลทุกจังหวัดตลอด 24 ชั่วโมง
นายแพทย์โสภณ กล่าวต่อว่า ได้เน้นย้ำให้ทั้ง 15 จังหวัดที่เป็นพื้นที่ที่พบผู้ป่วย ผู้สงสัยป่วยโรคคอตีบ และพื้นที่เสี่ยงให้ประชุมวอร์รูมจังหวัดเพื่อคงมาตรการควบคุมป้องกันโรคอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง ให้ค้นหาผู้สัมผัสโรคในพื้นที่เสี่ยงเช่นโรงเรียน ศูนย์เด็กเล็กต่างๆ การตรวจวินิจฉัยรักษาผู้ป่วยที่มีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ และมีแผ่นฝ้าขาวในลำคอ ให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคคอตีบปูพรมแก่ประชาชนทุกคนในพื้นที่ที่พบผู้ป่วยยืนยันป่วยโรคคอตีบ และให้ อสม.เคาะประตูบ้านติดตามอาการของผู้ป่วย ค้นหาผู้ป่วยหรือผู้ที่มีอาการสงสัยอาจจะป่วยในพื้นที่ เพื่อเข้าสู่ระบบการรักษา ส่วนพื้นที่ที่อยู่ติดพื้นที่ที่พบผู้ป่วยยืนยันและพื้นที่ที่พบผู้ป่วยมีอาการสงสัยอาจป่วยเป็นคอตีบ ขอให้ฉีดวัคซีนให้เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีทุกคน และฉีดวัคซีนเก็บตกในเด็กเล็กตามระบบการให้วัคซีนปกติให้ครบ 100 เปอร์เซนต์ ส่วนพื้นที่อื่นๆที่เหลือ ขอให้ดำเนินการฉีดวัคซีนให้กลุ่มเด็กให้ครบตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข คืออายุต่ำกว่า 4 ปี ฉีดจำนวน 5 ครั้ง ฉีดซ้ำเมื่ออายุ 12-16 ปี 1 ครั้ง และฉีดกระตุ้นทุก 10 ปี และฉีดให้หญิงตั้งครรภ์ให้ครบ 3 ครั้ง
อย่างไรก็ดี แม้ว่าโรคคอตีบจะไม่พบในประเทศไทยมาหลายปีแล้วก็ตาม แต่โรคนี้มียารักษาหาย ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้จัดส่งยา และส่งท็อกซอยด์ต้านพิษเชื้อโรคคอตีบไปให้โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไปทุกแห่งแล้ว โดยโรคนี้ป้องกันได้ 2 วิธี คือการป้องกันด้วยวัคซีน โดยได้สำรองวัคซีนป้องกันโรคคอตีบในปี 2556 จำนวน 10 ล้านโด๊สแล้ว และป้องกันโดยให้ประชาชนล้างมือบ่อยๆ ใช้ช้อนกลางตักอาหารเมื่อกินอาหารร่วมกับผู้อื่น หากเป็นไข้หวัด ขอให้คาดหน้ากากอนามัย และพักผ่อนอยู่บ้านจนกว่าจะหาย เพื่อป้องกันเชื้อแพร่สู่คนอื่น หากเป็นไข้หวัด เจ็บคอ 2 วันแล้วอาการไม่ดีขึ้น ให้พบแพทย์
ที่มา : กระทรวงสาธารณสุข