สธ.จัด’กำลังคน’ด้านสุขภาพ
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
แฟ้มภาพ
เป็นปัญหามาอย่างต่อเนื่องและผ่านมาหลายรัฐบาล ที่มีการเรียกร้องขออัตราบรรจุเป็นข้าราชการของผู้ประกอบวิชาชีพทางด้านการแพทย์ เริ่มจากกลุ่มลูกจ้างพยาบาลวิชาชีพ ที่ออกมาทวงถามการบรรจุ 10,992 อัตรา จนได้รับการแก้ไขไปเมื่อเดือนที่ผ่านมาให้มีการทยอยบรรจุทั้งหมดภายใน 3 ปี
จากนั้นยังตามมาด้วยข้อเรียกร้องของชมรม 7 วิชาชีพทางการแพทย์ ประกอบด้วย นักเทคนิคการแพทย์ นักกายภาพบำบัด นักรังสีการแพทย์ นักกิจกรรมบำบัด นักจิตวิทยาคลินิก นักเทคโนโลยีหัวใจและทรวงอก และนักเวชศาสตร์สื่อความหมายและแก้ไขการพูด ที่เข้าเรียกร้องที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สป.สธ.) เพื่อสอบถามความคืบหน้ากรณีเดียวกัน
รวมทั้งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เครือข่ายเภสัชกรลูกจ้างแห่งประเทศไทย ได้ยื่นหนังสือถึงนพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เรียกร้องให้มีการบรรจุเภสัชกรลูกจ้างเป็นข้าราชการ จากที่ตกค้างมาตั้งแต่ปี 2551 อยู่ 380 อัตรา
ทั้งหมดนั้นสะท้อนปัญหาด้านบุคลากรของกระทรวงสาธารณสุขและเป็นที่มาของการจัดทำแผนกำลังคนด้านสุขภาพในภาพรวมของประเทศ เพื่อพิจารณาการกำหนดตำแหน่งข้าราชการตั้งใหม่ภายในต้นปีงบประมาณ 2561
นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการบริหารจัดการกำลังคน ว่า กระทรวงสาธารณสุข มีบุคลากร 23 สายวิชาชีพ โดยข้อตกลงเดิมเมื่อ 5 ปีก่อนที่เป็นข้อเสนอในคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ(คปร.) ได้กำหนดสัดส่วนข้าราชการในแต่ละวิชาชีพที่ 75% ยกเว้นในกลุ่มแพทย์ ทันตแพทย์ นักเทคโนโลยีหัวใจและทรวงอกอยู่ที่ 100% และพยาบาลวิชาชีพ 90-100%
โดยขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้ทบทวน วิเคราะห์ และจัดทำโครงสร้างอัตรากำลังที่ควรมีในแต่ละสายวิชาชีพ ในสถานบริการทุกระดับ ตั้งแต่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลจนถึงโรงพยาบาลศูนย์ และสำนักงานสาธารณสุขอำเภอ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด พร้อมทั้งเร่งจัดทำแผนกำลังคนด้านสุขภาพในภาพรวมของประเทศ ทั้งกระทรวงสาธารณสุข กทม. กลาโหม ตำรวจ เพื่อเสนอต่อ คปร.พิจารณาขอกำหนดตำแหน่งข้าราชการตั้งใหม่ภายในต้นปีงบประมาณ 2561
สำหรับการแก้ไขปัญหาในระยะสั้น จะใช้วิธีการบริหารตำแหน่งว่าง เช่น เกษียณอายุ ลาออก เสียชีวิต หรืออยู่ในระหว่างการเลื่อนระดับสูงขึ้น ปรับปรุงการกำหนดตำแหน่งจากสายงานอื่นที่เกินจากกรอบที่ควรมี ปรับเปลี่ยนรูปแบบการจ้างงาน เช่น พนักงานราชการ พนักงานกระทรวงสาธารณสุข เป็นต้นปรับปรุงการจ่ายค่าตอบแทน สวัสดิการ และสิทธิประโยชน์อื่นให้เท่ากับหรือมากกว่าข้าราชการเพื่อคงบุคลากรไว้ในระบบ
ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์จำนวนบุคลากรในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขพบว่า สายวิชาชีพส่วนใหญ่ยังมีจำนวนบุคลากรต่ำกว่ากรอบอัตรากำลังที่ควรมี และการบรรจุเป็นข้าราชการยังต่ำกว่าสัดส่วนที่กำหนดไว้ มีเพียงบางสายวิชาชีพที่ได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการเกิน 75% ของจำนวนบุคลากรที่มีอยู่