สงกรานต์ปลอดเหล้า 20 ถนนข้าว เล่นน้ำไร้รุนแรง
ปีใหม่ไทย เทศกาลสงกรานต์เวียนมาถึงอีกครั้ง แม้อากาศร้อนระอุเดือนเมษายน ก็ไม่สามารถทำลายความสุข สดชื่นของพี่น้องชาวไทยไปได้
วันดีๆ แน่นอนว่าทุกคนย่อมอยากพบแต่สิ่งดี เรื่องดีๆ แต่เทศกาลสงกรานต์หลายปีที่ผ่านมา ภาพชินตากลายเป็นวัยรุ่นเมาแอ๋ เล่นน้ำด้วยความคึกคะนอง ลวนลาม อนาจาร โป๊เปลือย ทะเลาะชกต่อย และเกิดอุบัติเหตุถึงแก่ชีวิต เรื่องเหล่านี้เป็นสิ่งที่สังคมเริ่มปฏิเสธและต่อต้าน ทำให้หลายพื้นที่ร่วมมือกันทั้งภาครัฐ เอกชน ท้องถิ่น เพื่อจัดกิจกรรมให้ปลอดจากน้ำเมา เพื่อลดปัญหาข้างต้นที่จะตามมาเมื่อเหล้าเข้าปาก
“ประเพณีสงกรานต์ปลอดภัย พื้นที่เล่นน้ำปลอดเหล้า” ประจำปี 2555 มีหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเข้าร่วม กว่า 136 องค์กร อาทิ กรุง เทพมหานคร กระ ทรวงมหาดไทย สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) เครือข่ายหมออนามัย เครือข่ายลดอุบัติเหตุ เพื่อผลักดันให้เกิดพื้นที่ปลอดภัย นำความสุขของครอบครัว และวัฒนธรรมดีๆ กลับมาอีกครั้ง
นำมาสู่การประกาศเจตนารมณ์ในการขับเคลื่อนนโยบายประเพณีสงกรานต์ปี 2555 ด้วยกัน 4 ข้อ คือ 1.ร่วมกันประกาศเป็นนโยบายในการจัดงานประเพณีสงกรานต์ปลอดภัย พื้นที่เล่นน้ำปลอดเหล้า เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงและสร้างเสริมสุขภาพแก่ประชาชน 2.ไม่ร่วมมือกับบริษัทเหล้าเบียร์บุหรี่ ทำกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการขายหรือ ทำกิจกรรมประชาสัมพันธ์ ทำกิจกรรมเพื่อประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ (csr) บาปในพื้นที่จัดงานสงกรานต์
3.ร่วมกันบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง โดย เฉพาะพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 และ พ.ร.บ.สุรา พ.ศ.2493 อย่างจริงจัง 4.ฟื้นฟูวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงาม ซึ่งขณะนี้กลายเป็นสงกรานต์เถื่อน ขาดสติ โป๊เปลือย โดยร่วมกันค้นหาคุณค่าของประเพณีสงกรานต์ และส่งต่อถึงเด็กและเยาชนอนาคตสำคัญ ของชาติ
ภาครัฐอย่างกระทรวงมหาดไทย ถือว่ามีบทบาทสำคัญในการให้นโยบายเพื่อให้ระดับพื้นที่นำไปปฏิบัติให้เกิดเรื่องดีๆ ขึ้น นายไพวงษ์ เตชะณรงค์ ที่ปรึกษารมว.มหาดไทย ประกาศชัดเจนว่า ได้ออกมาตรการ นโยบาย และใช้กฎหมายอย่างจริงจังในการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยเฉพาะการส่งเสริมให้เกิดพื้นที่รูปธรรมเล่นน้ำปลอดเหล้าในแต่ละจังหวัด เพื่อทำให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงวัฒนธรรม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานต่างๆ รวมถึงเจ้าภาพในพื้นที่ ร่วมกันทำงานนำไปสู่การปลอดน้ำเมา และคืนวัฒนธรรมอันดีงามกลับสู่สังคม
จากการทดลองพื้นที่ปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในไม่กี่พื้นที่ ถึงปีนี้หลายจังหวัดได้เห็นประโยชน์ และสร้างความร่วมมือขึ้นภายในจังหวัด ทำให้ขยายพื้นที่เล่นน้ำปลอดเหล้า จาก 60 พื้นที่ 44 จังหวัด เพิ่มเป็น 70 พื้นที่ 50 จังหวัด โดยมีถนนเล่นน้ำตระกูลข้าว 20 แห่ง ซึ่งล้วนแต่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวติดอันดับ มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าร่วมงานจำนวนมาก
เริ่มด้วยภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ ถือเป็นจุดท่องเที่ยวที่มีทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติเข้าร่วมงาน เคยพบปัญหาเมา ทะเลาะวิวาท และจมน้ำเสียชีวิตในคูเมืองเกือบทุกปี ทำให้พื้นที่เห็นปัญหาร่วมกันกลายเป็นจุดเปลี่ยนค่อยๆ กำหนดเป็นพื้นที่ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จนในปีนี้สามารถสร้างความร่วมมือทำให้ผู้ประกอบการ ร้านค้า ประชาชน ช่วยกันทำให้พื้นที่รอบคูเมืองทั้งหมดปลอดน้ำเมา เมื่อดูจากสถิติพบว่าปี 2552 มีการจับกุมผู้กระทำผิดที่ขายน้ำเมาได้ 158 ราย ในปี 2554 ซึ่งมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 3 เท่าตัว จับกุมผู้ลักลอบขายน้ำเมาได้เพียง 20 ราย
เมื่อไม่มีน้ำเมา จ.เชียงใหม่ ได้จัดงานสืบสานประเพณีปี๋ใหม่เมือง “จุ้มน้ำเย็นก๋าย จุ้มใจ๋ปี๋ใหม่เมือง” ณ ข่วงวัฒนธรรม ประตูท่าแพ ถนนรอบคูเมืองเชียงใหม่ วันที่ 8-15 เม.ย. 2555 ฟื้นวัฒนธรรมล้านนา ซึ่งวัฒนธรรมล้านนา เชื่อว่าวันที่ 13 เม.ย. เป็น “วันล่องสังขาร” ประชาชนจะทำความสะอาดบ้านเรือน ร่างกายเพื่อเอาของไม่ดีออกจากตัว วันที่ 14 เม.ย. เป็น “วันเนา” จะมีการทำอาหารมงคลและไม่ด่าทอใคร วันที่ 15 เม.ย. เป็น “วันพญาวัน” หรือ “วันเถลิงศก” ประชาชนจะเข้าวัด ฟังธรรม รดน้ำดำหัวขอขมาผู้ใหญ่ ซึ่งจะมีกิจกรรมในวัดเกือบทุกแห่ง นอกจากถนนรอบคูเมืองเชียงใหม่ ยังมีถนนข้าวหนมเส้น จ.แพร่ ถนนข้าวปุก อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ถนนข้าวแต๋น จ.น่าน ด้วย
ภาคอีสานก็ม่วนซื่นไม่แพ้กัน ถนนชื่อดังที่ขึ้นชื่อ อย่างถนนข้าวเหนียว จ.ขอนแก่น ที่เคยทำสถิติโลก ด้วยกิจกรรมคลื่นมนุษย์ไร้แอลกอฮอล์ human waves no al จำนวน 50,208 คน ซึ่งในปีนี้จะรักษาสถิติ คลื่นมนุษย์เรืองแสงไร้แอลกอฮอล์ โดยแจกหมวกเรืองแสงให้คลื่นมนุษย์ที่มาร่วมเที่ยวงานสงกรานต์ เพื่อร่วมกิจกรรมคลื่นมนุษย์ด้วยกัน ตั้งแต่วันที่ 13-15 เม.ย. ในเวลา 19.00 น. อย่างพร้อมเพรียงกัน
นอกจากนี้ ในภาคอีสานยังมีกิจกรรมที่ถนนข้าวเม่า จ.มหาสารคาม ถนนดอกไม้และสายน้ำ จ.อุบลราชธานี ถนนข้าวหลาม อ.เชียงคาน จ.เลย ถนนข้าวเปียก จ.อุดรธานี ถนนข้าวปุ้น จ.นครพนม ถนนข้าวฮาง จ.สกลนคร ภาคตะวันออกก็มี ถนนข้าวทิพย์ จ.จันทบุรี ถนนข้าวสวย จ.ตราด ภาคกลางมีถนนข้าวแช่ จ.ปทุมธานี ถนนข้าวเปลือก จ.กาญจนบุรี ถนนข้าวสุก จ.อ่างทอง ถนนข้าวโพด จ.เพชรบูรณ์ ถนนข้าวต้ม จ.นครนายก ถนนข้าวโพด จ.ชัยนาท และในภาคใต้ ก็มีถนนข้าวยำ จ.ปัตตานี
สำหรับชาวกรุงเทพฯ ก็มีให้ได้สัมผัสบรรยากาศ ชื่นใจไร้มลพิษจากแอลกอฮอล์ 3 พื้นที่คือ 1.ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ m2f presents bangkok songkran festival 2012@ central world วันที่ 13-15 เมษายน 2555 ณ ลานด้านหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์เต็มพื้นที่ เวลา 12.00-22.00 น. 2.ลานคนเมืองหน้าศาลาว่าการกทม. และ 3.ถนนสีลมที่จะเป็นสงกรานต์ปลอดแอลกอฮอล์ 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีขี้เมา โชว์โป๊ โชว์เปลือย
ความร่วมมือที่ขยายพื้นที่ได้อย่างต่อเนื่อง นายวิษณุ ศรีทะวงศ์ ผู้จัดการกลุ่มงานทุนอุปถัมภ์เชิงรุกเพื่อทดแทนธุรกิจแอลกอฮอล์ ด้านประเพณีวัฒนธรรม สสส. อธิบายว่า มาจากผลของพื้นที่สงกรานต์ปลอดแอลกอฮอล์ สิ่งที่พบคือ เมื่อไม่เมา ก็ไม่ตีกัน ไม่ลวนลาม อนาจาร อุบัติเหตุ ซึ่งทำให้ครอบครัวมาร่วมเล่นน้ำอย่างสบายใจ พ่อแม่ สามารถวางใจให้ลูกเข้าร่วมกิจกรรมได้ ผลคือ คนเข้าร่วมเยอะขึ้น คนเจ็บน้อยลง หมอ พยาบาล ตำรวจไม่ต้องเหนื่อยกับผลจากคนเมา
“ความร่วมมือเกิดจากสังคมปฏิเสธความรุนแรง ไม่อยากเห็นภาพสงกรานต์เละเทะ ไม่เหลือเค้าโครงวัฒนธรรมดีๆ เหมือนเดิม เมื่อเทียบกำไรที่พื้นที่จะได้จากบริษัทน้ำเมาที่เข้ามาให้ทุนการจัดงาน ไม่สามารถเทียบได้กับสิ่งที่ต้องเสียไป ทั้งค่ารักษาพยาบาล ความเสื่อมโทรม เสื่อมเสียภาพลักษณ์ของจังหวัด ซึ่งเป็นผลลบต่อคนในพื้นที่โดยตรง จึงได้เห็นภาพที่จังหวัดเข้ามามีส่วนร่วมเพิ่มขึ้น ยังไม่นับในท้องถิ่น ชุมชนขนาดเล็ก ที่นำสิ่งดีๆ นี้ไปขยายต่อ สุดท้ายประโยชน์ก็จะตกอยู่กับลูกหลาน และดำรงซึ่งวัฒนธรรมดีๆ ของเรา ไว้ได้”
ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด โดย เมธาวี มัชฌันติกะ