ศูนย์พัฒนาครอบครัวสร้างชุมชนเข้มแข็ง
การพัฒนา 'ครอบครัว' ต้องอาศัยทุกส่วนของสังคมเข้ามามีส่วนร่วม ผลักดันให้เกิดการดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรมภาครัฐมีหน้าที่กำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์ด้านครอบครัว ส่วนภาคีเครือข่ายในระดับท้องถิ่นทั้งภาครัฐ และเอกชน โดยเฉพาะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีบทบาทสำคัญนำนโยบายไป ขับเคลื่อน เพื่อป้องกันและแก้ปัญหาร่วมกับคนในชุมชน
โครงการพัฒนากลไกการทำงานด้านครอบครัว ในชุมชนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดงาน "ศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชนสร้างสุข : นวัตกรรมครอบครัวอบอุ่นในท้องถิ่น" ที่โรงแรมปรินซ์พาเลซ
งานนี้เน้นให้ท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมในการทำงาน และพัฒนากลไกการทำงานด้านครอบครัวในระดับพื้นที่ เพื่อให้เกิดศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชน (ศพค.) ที่เข้มแข็ง เป็นหน่วยงานพื้นฐานดูแลช่วยเหลือครอบครัวในชุมชนได้
นายอภิชาติ อภิชาตบุตรรองผู้อำนวยการสำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว พม. กล่าวว่า สำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) ร่วมกับ สสส.เริ่มดำเนินโครงการนี้มา 2 ปีตั้งแต่เดือนส.ค.2555-ส.ค.2557 ในพื้นที่ ศพค. 300 แห่ง ทั่วประเทศ โดยตลอดทั้งโครงการมีการ ส่งเสริมองค์ความรู้ การใช้ข้อมูลในพื้นที่ และพัฒนาทักษะที่จำเป็น
การทำงานนั้นคณะทำงาน ศพค.และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีเป้าหมายให้ ศพค.แก้ไขปัญหาครอบครัวในชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม ให้มีความเข้มแข็ง และเป็นศูนย์กลางคุ้มครอง ฟื้นฟู เยียว ยา และส่งเสริมความเข้มแข็งของครอบ ครัวอย่างเป็นระบบ
"การจัดงานในครั้งนี้จะเป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคประชาชน โดยเฉพาะกลไกในระดับท้องถิ่นที่ทำงานใกล้ชิดกับครอบครัว ผ่านการนำเสนอผลงานจากการทำงานในพื้นที่ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา รวมทั้งพัฒนาศักยภาพให้แก่ผู้ปฏิบัติงานด้านครอบครัว ให้ได้เรียนรู้จากประสบการณ์การทำงานของพื้นที่
ตัวอย่างนำไปประยุกต์ใช้ ในพื้นที่ตัวเอง ตลอดจนสร้างเครือข่าย การทำงานด้านครอบครัวให้ขยายผลไปยังพื้นที่อื่นๆ ต่อไป"
นายอภิชาติกล่าวด้วยว่า จุดสำคัญที่สุดของการประสบความสำเร็จขององค์กร ท้องถิ่น คือการสนับสนุนชุมชนให้เข้มแข็ง เช่น ถ้าตำบลหนึ่งมี 10 หมู่บ้าน และใน 10 หมู่บ้านมีผู้นำ มีมวลชนที่เข้มแข็ง ย่อมส่งผลให้ท้องถิ่นนั้นมีทรัพยากรมนุษย์ที่จะช่วยขับเคลื่อนให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน ท้องถิ่นจึงต้องค้นหาผู้นำของชุมชน ซึ่งผู้นำเหล่านี้จะมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อน ไม่ว่าท้องถิ่นจะมีนโยบายเรื่องใด คนเหล่านี้จะเป็นกำลังสำคัญถ่ายทอดไปสู่คนอื่นๆ ในหมู่บ้าน
ด้าน นางมธุรส ชีช้าง ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมสถาบันครอบครัว สค. บอกว่า การจัดงานในครั้งนี้ สค.ร่วมกับสมาคมครอบครัวศึกษาแห่งประเทศไทย ศูนย์การเรียนรู้เพื่อครอบครัวเข้มแข็ง 7 จังหวัด และทีมวิทยากรด้านครอบครัวระดับจังหวัด 11 จังหวัด คัดเลือกศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชนที่เข้าร่วมโครงการจาก 300 แห่ง เพื่อเข้ารับรางวัล "ศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชนสร้างสุข ประจำปี 2557" จำนวน 40 แห่ง และจัดบูธนิทรรศการแสดงผลงานของ ศพค. 45 แห่ง และมีเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากการถอดบทเรียนการทำงานของ ศพค.
เกณฑ์การประเมินพื้นฐานได้แก่ ศพค. ที่ผ่านมาตรฐาน 5 ข้อ คือ
1.สร้างเครือข่ายเฝ้าระวังแก้ไขปัญหาครอบครัว
2.จัดกิจกรรมที่ส่งเสริมความเข้มแข็งของสถาบันครอบครัวอย่างต่อเนื่อง
3.ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารด้านครอบครัว
4.ถ่ายทอดความรู้ด้านครอบครัวและ 5.ประสานความร่วมมือระหว่าง ศพค.กับหน่วยงานต่างๆ
ส่วนเกณฑ์การคัดเลือกเพื่อรับรางวัลนั้น จะต้องมีผลดำเนินงานของศพค. ที่ส่งผลให้ครอบครัวในชุมชนเกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น มีโครงสร้าง การทำงานที่ชัดเจน และทำงานบนฐานข้อมูลชุมชน
นายสมพร เหลาคม รองนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบล เมืองแก อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ หนึ่งในผู้เข้ารับรางวัลศูนย์พัฒนา ครอบครัวในชุมชนสร้างสุข ประจำปี 2557 จากศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชนตำบลเมืองแก อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาภายในตำบลเมืองแกได้ทำโครงการหลายโครงการ เช่น โครงการสานสัมพันธ์ในครอบครัว ทำเรื่องครอบครัวเข้มแข็ง โดยทั้ง 19 หมู่บ้านใน ต.เมืองแก พบปัญหาจากการดื่มสุรา จึงมีแนวคิดว่าควรจะหาแนวทางให้งานบุญประเพณี งานศพ และงานต่างๆ ปลอดเหล้า ซึ่งที่ผ่านมาก็สามารถทำให้ 19 หมู่บ้าน ทั้งตำบลเมืองแก ปลอดเหล้าได้ทั้งหมด
"การทำงานจะดึงครอบครัวเข้ามามีส่วนร่วม เช่น ครูสอนพ่อ พ่อสอนลูก หรือครูนำปราชญ์ชาวบ้านมาให้ความรู้กับครอบครัวนักเรียน เกี่ยวกับการทำงานฝีมือต่างๆ เช่น การทำบายศรี การทำน้ำยาล้างจานปลอดสารเคมีด้วยตัวเอง หรือการทำสานพัดจากวัสดุธรรมชาติ การทำงานดังกล่าวประสบความสำเร็จ ทำให้ครอบครัวเกิดความรักความสามัคคี และเกิดความเข้มแข็ง และทำให้พัฒนาโครงการออกมาเรื่อยๆ เช่น โครงการตลาดต้นสัก ซึ่งเป็นตลาดสีเขียวตำบลเมืองแก จะมีผักปลอดสารพิษ อาหารปลอดภัย ที่ใส่ใจสุขภาพ นำมาจำหน่ายภายในชุมชน สร้างรายได้ให้กับครอบครัว" นายสมพรกล่าว
การจัดงานในครั้งนี้จะเป็นเวทีแลกเปลี่ยน สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในพื้นที่ตัวเอง และสร้างเครือข่ายการทำงานด้านครอบครัวให้ขยายผลไปยังพื้นที่อื่นๆ
ที่มา: หนังสือพิมพ์ข่าวสด โดย ศิวพร อ่องศรี