ศิลปะปั้น-ดิน เสริมจินตนาการให้เจ้าตัวน้อย
เมื่อเอ่ยถึง "การปั้น" เชื่อว่าเป็นงานศิลปะพื้นฐานที่เด็กๆ ส่วนใหญ่ล้วนเคยมีประสบการณ์ลงมือปฏิบัติกันมาและเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายๆ คน ด้วยความสนุก สัมผัสที่ยืดหยุ่น ซึ่งสามารถนำสร้างสรรค์ผลงานตามจินตนาการได้อย่างไม่รู้จบ
เพื่อใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ เสริมสร้างสมาธิ ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ชวนมาพัฒนาความคิดสร้างสรรค์กับกิจกรรม "Happy Life ตอน ปั้น-ดิน" กิจกรรมสนุกๆ ที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลายใช้เป็นงานอดิเรกได้ในครอบครัว
มิ้ม-ราชา หาญยงยุทธ และกวาง-มนัสวัลย์ พิทักษ์ชาติ วิทยากรกิจกรรมปั้นดิน กล่าวว่า การปั้นถือเป็นกิจกรรมและงานอดิเรกที่เหมาะกับคนทุกเพศทุกวัยที่ใครก็สามารถทำได้ รวมถึงใช้เป็นกิจกรรมเสริมในครอบครัว โดยเฉพาะกับเด็กๆ ด้วยแล้ว การปั้นถือเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์อย่างมาก ช่วยให้เด็กมีพัฒนาการทางสมองและกล้ามเนื้อ
ในอดีตศิลปะการปั้นมักจะใช้ดินจากแหล่งธรรมชาติ เช่น ดินเหนียว ต่อมามีการพัฒนาสูตรดินโดยใช้โพลีเมอร์สังเคราะห์เพื่อความเหนียวนุ่ม แต่งสี กลิ่น ให้น่าใช้ยิ่งขึ้น เช่น ดินน้ำมัน ซึ่งมีคุณลักษณะนำกลับมาใช้ได้อีก แต่ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ดินปั้นมีหลากหลายชนิด ทั้งดินญี่ปุ่น ดินเกาหลี แป้งโด ดินเซรามิก ให้เลือกใช้มากมายตามความเหมาะสมของงาน
งานปั้นดินจะให้ประโยชน์กับเด็ก 2 ด้าน คือ ด้านกายภาพ เช่น กล้ามเนื้อมัดเล็ก ซึ่งในส่วนนี้ เด็กยุคใหม่จะเริ่มมีปัญหากันมาก เพราะเล่นแต่เกมคอมพิวเตอร์ และคลิกเมาส์เป็นอย่างเดียว ส่งผลให้จับปากกาไม่ได้ เพราะกล้ามเนื้อมัดเล็กไม่แข็งแรง
ส่วนที่ 2 คือเรื่องอารมณ์ งานปั้นจะช่วยฝึกสมาธิ ทำให้เด็กซนสามารถนั่งและจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ทำได้นานขึ้น อีกทั้งในขณะที่เด็กได้ฝึกหัดขยำ จับ กดและปั้นของ ก็จะใช้จินตนาการตามความคิดของตนเองถ่ายทอดออกมาเป็นผลงาน นอกจากนี้ยังจะช่วยในเรื่องของมิติสัมพันธ์ ทำให้เด็กสามารถมองภาพที่เป็น 3 มิติได้ดีขึ้น
โดยกิจกรรมครั้งนี้จะใช้ดินญี่ปุ่นในการสร้างผลงาน เนื่องจากดินญี่ปุ่นมีความนิ่ม ความเหนียวและความอ่อนตัว และสามารถนำมาผสมสีได้เองตามความชอบใจ โดยโจทย์ในการปั้นครั้งนี้จะให้น้องๆ และผู้เข้าร่วมกิจกรรมปั้นหมีริลัคคุมะ ซึ่งเป็นตัวการ์ตูนที่กำลังได้รับความนิยมและเป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆ และวัยรุ่น ด้วยความที่ตัวอย่างมีความง่าย คนรู้จัก จึงเหมาะกับการเริ่มต้นสำหรับคนที่ยังไม่เคยจับดิน ซึ่งเมื่อเห็นบ่อยๆ คุ้นชินกับแบบ ก็จะทำให้ปั้นง่ายขึ้นได้
สำหรับผู้ที่มีความสนใจในการปั้นสามารถเริ่มต้นได้ง่ายๆ เพียงแค่หาซื้อดินที่ชอบแล้วนำดินมาผสมสีที่เราอยากได้ หลังจากนั้นก็ทดลองปั้น โดยให้แยกส่วนออกมา แล้วก็ค่อยๆ ปั้นตามแบบ หรือจินตนาการ และหากอยากได้ผลงานที่ออกมาสวยก็ต้องอาศัยการฝึกฝน ต้องปั้นบ่อยๆ ค่อยๆ เรียนรู้ ก็จะทำให้พัฒนาตัวเองจนมีฝีมือที่ดี นอกจากนี้ข้อควรระวังในการปั้นดินก็คือ เวลาที่เด็กเล่น ผู้ปกครองควรดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะเด็กๆ เมื่อเห็นสีสดใสมักจะชอบหยิบของทุกอย่างเข้าปาก จึงต้องให้คำแนะนำและสอนเด็กว่าเป็นของเล่น อย่ากิน
ผู้ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมของศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สามารถติดตามปฏิทินกิจกรรมอื่นๆ และรายละเอียดกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่ www.thaihealthcenter.org และสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 08-1731-8270 (09.00-17.00 น. จันทร์-เสาร์ เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์) Line ID: thaihealthcenter.
เพลิดเพลินกับการเล่นดิน
น้องหวาน-วรวลัญช์ พนมยงค์ อายุ 10 ปี โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัยผู้เข้าร่วมกิจกรรม บอกว่า กิจกรรมปั้นดินครั้งนี้หนูรู้สึกชอบและมีความสนุกที่ได้มาทำอย่างมากค่ะ ซึ่งการปั้นดินญี่ปุ่น เราสามารถจะนำสีมาผสมตามสีที่เราชอบได้ทุกๆ สีเลย เพราะหนูชอบที่จะผสมสีอยู่แล้ว ซึ่งพอเรามาปั้นมันก็จะสมจริงยิ่งขึ้น และเรายังสามารถนำดินมาปั้นทำเป็นป้ายชื่อของเรา หรือมอบให้เป็นของขวัญได้อีกด้วย มีประโยชน์มากแถมยังเป็นการฝึกบริหารกล้ามเนื้อมือด้วยค่ะ
น้องแบงค์-ประสงค์ อมรนิมิต อายุ 10 ปี โรงเรียนอัสสัมชัญ บอกว่า รู้สึกสนุกสนานมากกับการที่ได้มาร่วมกิจกรรมปั้นดินครับ เพราะปกติเคยแต่ปั้นดินน้ำมัน ซึ่งดินญี่ปุ่นปั้นง่ายมาก นิ่มด้วย สามารถปั้นเป็นอะไรก็ได้ ชอบมากๆ เลยครับ อยากให้มีกิจกรรมนี้บ่อยๆ
น้องการ์ตูน-ธีธัส เลาหวิรภาพ อายุ 13 ปี โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย บอกว่า ที่ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สสส.มีกิจกรรมน่าสนใจให้เข้าร่วมเยอะแยะเลยครับ ก่อนหน้านี้ก็ได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมโยคะเด็ก แต่พอเห็นว่ามีการสอนปั้นดินด้วยจึงเข้าร่วม เพราะว่าดูแล้วน่าจะสนุก ซึ่งพอได้เรียนก็ทำให้ผมมีความรู้เกี่ยวกับดินและการปั้นเพิ่มขึ้น มีความสนุกสนานและก็ขอให้มีกิจกรรมแบบนี้ต่อไปครับ.
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
ขอบคุณภาพจาก SOOK