ที่มา : MGR Online

แฟ้มภาพ

แพทย์ รพ.จิตเวชนครราชสีมา แนะชาวอีสานรับมือวิกฤตภัยแล้ง ให้ปรับใจยอมรับสถานการณ์ ดำเนินชีวิตอย่างมีสติช่วยเติมกำลังใจให้กัน และใช้หลัก 3 ส.ดูแลใจ ช่วยเหลือแบ่งปันกันยามประสบภัยให้ก้าวผ่านความทุกข์ พร้อมแนะเทคนิคคลายเครียดควบคุมลมหายใจ 4 ขั้น

นพ. กิตต์กวี โพธิ์โน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า ปัญหาภัยวิกฤตแล้งจากฝนทิ้งช่วงที่เกิดในพื้นที่ภาคอีสาน โดยเฉเพาะ 4 จังหวัดอีสานตอนล่างในเขตนครชัยบุรินทร์ คือ นครราชสีมา บุรีรัมย์ ชัยภูมิ สุรินทร์นั้น เป็นภัยที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ซึ่งขณะนี้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องได้เร่งให้การช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความทุกข์ร้อนในเบื้องต้น

อย่างไรก็ตาม โรงพยาบาลจิตเวชนครราชสีมาฯ ขอแนะนำให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบใช้วิธีการรับมือกับปัญหาโดยเฉพาะความเครียดที่เกิดขึ้น โดยให้ปรับสภาพใจยอมรับสถานการณ์ และช่วยเติมกำลังใจให้กันและกัน จะทำให้จิตใจชุ่มชื้นขึ้น เนื่องจากผลกระทบจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น

ทั้งนี้ขอให้ประชาชนดำเนินชีวิตอย่างมีสติ แก้ปัญหาอย่างมีเหตุผล โดยใช้หลักการแบ่งปันช่วยเหลือกัน และเรื่องที่จำเป็นอีกเรื่องหนึ่งในยามที่ประสบภัยคือการปฏิบัติช่วยเหลือดูแลจิตใจกันไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัว ผู้ใกล้ชิดและเพื่อนบ้านด้วยหลัก 3 ส. ซึ่ง ทุกคนสามารถทำได้ดังนี้

ส.ที่ 1. ช่วยกันสอดส่อง มองหาผู้กำลังมีความทุกข์ใจและต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน เช่น ผู้มีอาการเศร้าซึม นั่งเหม่อลอยผิดปกติ เป็นต้น

ส.ที่ 2. ให้ใส่ใจรับฟัง เพื่อให้ผู้ที่กำลังเผชิญทุกข์บอกเล่าอารมณ์ความรู้สึก คลายความทุกข์ที่อยู่ในใจออกมา จะช่วยอารมณ์สงบและสบายใจหรือใจชื้นขึ้น

และ ส.ที่ 3. คือการส่งมอบความช่วยเหลือแบ่งปันสิ่งจำเป็นพื้นฐานให้กัน เช่น น้ำดื่ม อาหาร ยา จะช่วยบรรเทาความทุกข์ร้อนในขั้นต้นได้และหากผู้ที่มีทุกข์ใจยังไม่ดีขึ้น เช่น นอนไม่หลับ วิตกกังวล ให้แจ้งอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านหรือ อสม. หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขใกล้บ้าน หรือโทรศัพท์ ปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ได้รับการดูแลต่อเนื่องจนหายขาด

ทั้งหมดนี้จะทำให้ผู้ประสบภัยทุกคนก้าวข้ามผลกระทบจากภัยแล้งอย่างปลอดภัย ทั้งนี้ในส่วนของผู้ที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้ว ขอให้กินยาและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างต่อเนื่อง

นพ.กิตต์กวี กล่าวต่อว่า หากประชาชนมีความเครียด คับข้องใจ ซึ่งมีสัญญาณอาการคือ อารมณ์หงุดหงิดง่ายโดยไม่มีสาเหตุ ไม่อยากพูดกับใคร อยากอยู่คนเดียว คิ้วขมวดโดยไม่รู้ตัว ไม่มีสมาธิ ขอแนะนำให้ใช้เทคนิคคลายเครียดเบื้องต้นโดยการฝึกควบคุมลมหายใจเข้า-ออก มี 4 ขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้

1.นั่งในท่าสบายและให้หลับตาเพื่อตัดสิ่งรบกวนภายนอก ประสานมือและไว้ที่หน้าท้อง

2. ค่อยๆ สูดลมหายใจเข้า พร้อมกับนับเลขในใจ 1 ถึง 4 เป็นจังหวะช้าๆ ให้รู้สึกว่าท้องพองออก

3. ให้กลั้นลมหายใจเอาไว้สักครู่ แล้วนับ 1-4 เป็นจังหวะช้าๆ เช่นเดียวกับหายใจเข้า

และ 4. ค่อยๆ ผ่อนลมหายใจออก โดยนับ 1-8 อย่างช้าๆ พยายามไล่ลมหายใจออกมาให้หมดจะสังเกตได้คือหน้าท้องจะแฟบลง โดยให้ทำซ้ำๆ ตามขั้นตอนติดต่อกันประมาณ 4-5 ครั้ง ผลของการฝึกควบคุมลมหายใจเข้า-ออกดังกล่าว จะทำให้หัวใจเต้นช้าลง สมองจะแจ่มใสขึ้นเนื่องจากได้รับออกซิเจนมากขึ้น การหายใจออกอย่างช้าๆ จะช่วยให้เรารู้สึกว่าได้ปลดปล่อยความเครียดออกไปจากตัวเราอย่างหมดสิ้น หรือรู้สึกโล่งขึ้น

“ เทคนิคคลายเครียดนี้ควรฝึกทุกครั้งที่รู้สึกเครียด หรือรู้สึกโกรธ รู้สึกไม่ค่อยสบายใจ หรือฝึกทุกครั้งที่นึกได้จะช่วยได้ดี สิ่งที่ไม่ควรนำมาใช้แก้ความเครียด คือการดื่มสุรา หรือใช้สารเสพติดอื่นๆรวมทั้งการสูบบุหรี่ เนื่องจากไม่ได้ช่วยลดความเครียดที่แท้จริง และยังก่ออันตรายคุกคามสุขภาพตามมาได้ ” นพ.กิตต์กวี กล่าว