วิถีชีวิตประจำวันที่มีผลต่อหมอนรองกระดูก

ที่มา : หนังสือกระดูกสันหลังมันฟ้องว่าเจ็บ


วิถีชีวิตประจำวันที่มีผลต่อหมอนรองกระดูก thaihealth


แฟ้มภาพ


อาการปวดร้าว แปล๊บๆเวลาลุกนั่ง บ้างก็มีอาการขาชาอ่อนแรง คุณอาจจะเป็นโรคเกี่ยวกับกระดูกสันหลัง อย่าชะล่าใจเพราะอาการเหล่านี้อาจทำให้เกิดภาวะหมอนรองกระดูกสันหลัง เคลื่อนส่วนเอวหรือภาวะช่องกระดูกสันแคบส่วนเอวได้


วิถีชีวิตประจำวันที่มีผลต่อหมอนรองกระดูก


1.ความอ้วนคน ที่มีน้ำหนักตัวมากจะมีแรงกระทำที่หมอนรองกระดูกสันหลังส่วนเอวมากกว่าปกติ ซึ่งส่งผลให้ความดันโดยเฉลี่ยในหมอนรองกระดูกสันหลังในท่าทางต่างๆ เพิ่มขึ้นตามไปด้วย


2.ท้องผูก  ภาวะท้องผูกทำให้เกิดแรงเบ่งและเพิ่มความดันภายในหมอนรองกระดูกส่วนเอวอย่างต่อเนื่อง เป็นกลไกในการทำให้เกิดภาวะหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนส่วนเอวเพิ่มสูงขึ้น


3.การสูบบุหรี่  ทำให้เกิดการทำลายและการเสื่อมสภาพของหมอนรองกระดูกและมีผลกับการเกิดอาการภาวะหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนส่วนเอวได้เร็วขึ้นกว่าปกติ


4.นั่งกับพื้น  การนั่งกับพื้นเป็นประจำในชีวิตอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อหมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อม เพราะการลุกนั่งกับพื้นต้องก้มหลัง จึงไปเพิ่มแรงดันในหมอนรองกระดูกสันหลังและเกิดภาวะหมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อมได้


5.ประกอบอาชีพ ที่ต้องก้มหลังยกของบ่อยๆ การก้มหลังยกของหนักเป็นประจำจะเกิดการเสื่อมของหมอนรองกระดูกสันหลังส่วนเอวได้เร็วกว่าคนทั่วไปและมีอาการหนักขึ้นเรื่อยๆ ตามความแข็งแรงของหมอนรองกระดูกที่ลดลง อีกทั้งหากก้มผิดท่าก็จะมีผลทำให้เกิดการบาดเจ็บของหมอนรองกระดูกได้


6.อยู่ในที่มีฝุ่นมาก อาจทำให้ผู้ป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจและเกิดอาการไอเรื้อรังที่ทำให้ความดันภายในหมอนรองกระดูกสันหลังส่วนเอวเพิ่มสูงขึ้น


7.การออกกำลังกายบางท่า เช่น การซิตอัพ การยกน้ำหนัก ฯลฯ


8.นั่งเล่นโทรศัพท์มือถือเป็นเวลานานๆ การไม่เปลี่ยนท่าก็อาจเกิดแรงกระทำต่อหมอนรองกระดูกสันหลังอย่างต่อเนื่อง


9.ทำงานในที่ที่มีการสั่นสะเทือนเป็นประจำ จะส่งผลให้เกิดการเสื่อมของหมอนรองกระดูกสันหลังส่วนเอวลงเรื่อยๆ


 

Shares:
QR Code :
QR Code

ใส่ความเห็น

ระบุข้อความ